กรดไหลย้อน (Acid reflux) : อาการ สาเหตุ การรักษา

กรดไหลย้อน (Acid reflux) : อาการ สาเหตุ การรักษา

20.08
3934
0

กรดไหลย้อน (Acid reflux) คือ อาการปวดแสบปวดร้อนในบริเวณหน้าอกด้านล่าง เกิดขึ้นจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับสู่ท่ออาหาร

โรคกรดไหลย้อน (GERD) จะถูกวินิจฉัยเมื่อพบว่ามีอาการกรดไหลย้อน มากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์

ปัจจุบันโรคกรดไหลย้อน (Gastro-EsophagealReflux-Disease: GERD) ยังคงเป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก ในเวชปฏิบัติจากข้อมูลการสำรวจประชากรหลายทวีปทั่วโลก พบว่า ในประชากรทุก ๆ 100 คน จะมีผู้ที่ป ่วยเป็นโรค กรดไหลย้อนได้ตั้งแต่3-33 คน และพบว่าความชุกของโรคมี แนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

อาการกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อนอาการนั้นทำให้เกิดการแสบร้อนกลางอก อาจจะเกิดในกรณีที่รับประทานอาหารมากเกินไปหรือเป็นอาการกรดไหลย้อนอย่างต่อเนื่อง

การแสบร้อนกลางอกเป็นการแสบร้อนที่เกิดขึ้นในหลอดอาหารที่อยู่บริเวณกลางอก อาการจะยิ่งแย่ลงเมื่อนอนราบหรือก้มตัว อาการนี้สามารถเกิดได้นานหลายชั่วโมงหรือเป็นทันทีหลังรับประทานอาหาร

กรดไหลย้อนเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารจะย้อนกลับไปในลำคอ บางครั้งทำให้เกิดรสขมหรือเปรี้ยวหากเกิดอาการแสบร้อนกลางอกมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์จะเรียกว่า “โรคกรดไหลย้อน”

อาการอื่นๆ ของกรดไหลย้อนได้แก่ :

  • ไอแห้งเป็นเวลานาน
  • หายใจมีเสียงฮืด
  • โรคหอบหืด และโรคปอดอักเสบ
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ปัญหาเกี่ยวกับลำคอ เช่น กล่องเสียงอักเสบ หรือเสียงแหบ
  • เจ็บปวดเมื่อกลืนอาหาร
  • เจ็บปวดที่อกหรือท้องตอนบน
  • ฟันกร่อน
  • มีกลิ่นปาก

สาเหตุของกรดไหลย้อน

กรดไหลย้อน คือ กรดบางส่วนจากกระเพาะอาหารไหลย้อนเข้าสู่หลอดอาหารปกติกระเพาะอาหารมีกรดไฮโดรคลอริก เป็นกรดเข้มข้นช่วยย่อยอาหารและป้องกันเชื้อโรคจำพวกแบคทีเรีย

เยื่อบุกระเพาะอาหารนั้นมีความทนทานต่อกรดเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันกรดที่มีประสิทธิภาพสำหรับย่อยอาหาร แต่หลอดอาหารนั้นไม่ได้ทนทานต่อกรด

กล้ามเนื้อหูรูดกระเพาะอาหาร (gastroesophageal) โดยปกติจะทำหน้าที่เป็นวาล์วที่ช่วยให้อาหารเข้าไปในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ให้ย้อนกลับเข้าไปในหลอดอาหาร เมื่อหูรูดนี้ไม่ทำงานทำให้เกิดกรดไหลย้อนไปยังหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก

โรคกรดไหลย้อน

การรักษากรดไหลย้อน

  • PPIs ได้แก่ Omeprazole, Rabeprazole และ Esomeprazole
  • H2 blockers ได้แก่ Cimetidine และ Famotidine
  • ยาที่หาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป ได้แก่  แอนตาซิน
  • ยาอัลจิเนต (Alginate drugs) ที่ประกอบไปด้วยกาวิสคอน (Gaviscon)

ยาที่ใช้รักษาหลักสำหรับผู้ป่วยกรดไหลย้อนได้แก่ PPI หรือ H2 blockers หรือใช้ทั้งสองร่วมกัน PPIs และ H2 blockers ลดการผลิตกรดและลดความเสียหายจากอาการกรดไหลย้อน

ยาเหล่านี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้หมายความว่ายานี้จะให้ผลดีกับผู้ป่วยกรดไหลย้อนทุกคน ดังนั้นยานี้อาจมีผลข้างเคียงตามมา ตัวอย่างเช่น อาจทำให้เกิดปัญหาการดูดซึมสารอาหาร ที่นำไปสู่การขาดสารอาหาร

ยารักษากรดไหลย้อนที่หาซื้อได้ทั่วไป

ผู้ที่มีอาการแสบร้อนกลางอก และอาหารไม่ย่อย แต่ไม่ได้เกิดบ่อยครั้ง อาจเป็นผลมาจากอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ยาชนิดน้ำและชนิดเม็ดที่ใช้ในการรักษาอาการเหล่านี้เรียกว่า ยาลดกรด ยาลดกรดมีหลายแบรนด์ที่มีมีประสิทธิภาพคล้ายกัน ซึ่งบางแบรนด์อาจไม่เหมาะกับทุกคน ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการใช้งาน ยาลดกรดนั้นช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนอย่างรวดเร็ว แต่เป็นยาสำหรับกรดไหลย้อนระยะสั้น

ยาลดกรดนี้ประกอบไปด้วย แคลเซียมคาร์บอเนตโซเดียม ไบคาร์บอเนตอลูมิเนียม และแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ เป็นต้น แต่ยาพวกนี้หากใช้ต่อเนื่องจะส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหาร

ยาอัลจิเนต ได้แก่ กาวิสคอน (Gaviscon)

กาวิสคอน (Gaviscon) เป็นยารักษาอาการเสียดท้องที่ดีที่สุด ยานี้ออกฤทธิ์แตกต่างจากยาลดกรดเล็กน้อย ยาอัลจิเนต เช่น กาวิสคอน (Gaviscon) นั้นเป็นยาแก้ท้องเฟ้อ กรดอัลจินิกทำงานโดยการต่อต้านกรดในกระเพาะโดยมีลักษณะเป็นเจลโฟมในกระเพาะอาหาร สารออกฤทธิ์ คือ อัลจิเนต สามารถพบได้ตามธรรมชาติในสาหร่ายสีน้ำตาล

วิธีการรักษากรดไหลย้อนอื่นๆ

การรักษากรดไหลย้อนด้วยวิธีอื่นๆ ได้แก่:

  • สารยับยั้งกรดซัลฟอร์เฟท
  • สารยับยั้งกรดโพแทสเซียม
  • อุปกรณ์ช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่าง (TLESR) 
  • สารรับ GABA(B)
  • สารต่อต้าน mGluR5 
  • สาร Prokinetic 
  • สาร Pain modulators
  • ยา Tricyclic 
  • สาร Serotonin reuptake inhibitors (SSRIs)
  • ยาขยายหลอดลม Theophylline

หากเป็นกรดไหลย้อนที่มีอาการรุนแรงจนยาไม่สามารถบรรเทาอาการได้ แพทย์จะทำการตัดสินใจทำการรักษาด้วยการผ่าตัด

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ช่วยบรรเทาและรักษากรดไหลย้อนได้แก่ :

  • การปรับปรุงท่าทางด้วยการนั่งตัวตรง
  • สวมใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ
  • ลดน้ำหนักหากมีภาวะน้ำหนักเกิน
  • หลีกเลี่ยงการเพิ่มแรงดันที่หน้าท้อง เช่น ใช้เข็มขัดรัด หรือออกกำลังกายด้วยการซิทอัพ
  • เลิกสูบบุหรี่

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *