โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) : อาการ สาเหตุ การรักษา

โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) : อาการ สาเหตุ การรักษา

15.10
1102
0

นิ่วในถุงน้ำดี (Gallstones) คือโรคในระบบทางเดินอาหารประเภทหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดย โรคนี้ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการคล้ายกับโรคกระเพาะอาหาร จึงไม่ได้ไปเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งนั้นอาจจะทำให้อาการที่เป็นกลายเป็นขั้นรุนแรงได้

อาการโรคนิ่วในถุงน้ำดี

โดยส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมักไม่มีอาการใดๆปรากฎขึ้นเพราะก้อนนิ่วที่อยู่ในถุงน้ำดีไม่ทำให้เกิดอันตรายใดๆ

แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งนิ่วในถุงน้ำดีสามารถทำให้เกิดโรคถุงน้ำดีอักเสบหรือภาวะถุงน้ำดีติดเชื้อได้ 

อาการเริ่มต้นของโรคนี้คือมีอาการเจ็บปวดแบบเฉียบพลันและมีอาการเจ็บปวดรุนเเรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาการเจ็บปวดนี้เกิดขึ้นที่ร่างกายซีกขวาบริเวณกระดูกซี่โครงด้านล่างที่อยู่ระหว่างกระดูกหัวไหล่และไหล่ข้างขวา 

อาการนิ่วในถุงน้ำดีอื่นๆได้แก่ 

  • เกิดอาการเจ็บปวดที่ร่างกายซีกขวาบริเวณกระดูกซี่โครงด้านล่าง 
  • เกิดความเจ็บปวดระหว่างแผ่นหลังกับกระดูกหัวไหล่
  • เกิดอาการเจ็บปวดที่ไหล่ข้างขวา
  • มีอาการคลื่นไส้
  • อาเจียน
  • มีเหงื่อออกมาก
  • เกิดความรู้สึกวิตกกังวล 

การรักษาโรคนิ่วถุงน้ำดี

โรคนิ่วในถุงน้ำดีจะได้รับการรักษาในกรณีที่เกิดการติดเชื้อในถุงน้ำดีและท่อน้ำดีอุดตันเท่านั้นรวมไปถึงการอุดตันของถุงน้ำดีที่ทำให้น้ำดีไม่สามารถไหลยังลำไส้เล็กได้ 

การผ่าตัดถุงนิ่วในน้ำดี 

การผ่าตัดถุงน้ำดีหมายถึงการผ่าตัดเพื่อนำถุงน้ำดีออก โดยปกติมักเป็นการผ่าตัดแบบใช้กล้องเพื่อสอดเครื่องมือลงไปในรูเล็กๆ โดยวิธีการผ่าตัดประเภทนี้เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กที่ทำให้เกิดแผลขนาดน้อยกว่า 10 เซนติเมตรนอกจากนี้ยังมีวิธีการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิดช่องท้องที่นำมาใช้รักษาโรคนี้ได้เช่นกัน 

สำหรับการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเกิดช่องท้องเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ช่องท้อง ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดประเภทนี้จำเป็นพักฟื้นอยู่ในโรคพยาบาลเป็นเวลานานเพื่อพักฟื้นร่างกาย ในกรณีที่ถุงน้ำดีติดเชื้ออย่างรุนเเรงจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง 

สำหรับผู้ที่รักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดีด้วยการผ่าตัดก้อนนิ่วอาจกลับมาเกิดขึ้นในถุงน้ำดีได้อีกภายใน 1 ปี หลังจากการผ่าตัด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีเกิดซ้ำขึ้นอีกผู้ป่วยจะได้รับกรดเออร์โซไดออล (ursosdeoxycholic acid) ซึ่งเป็นกรดที่สามารถพบได้ในน้ำดี 

โดยกรดเออร์โซไดออล (ursosdeoxycholic acid) ทำหน้าที่ลดระดับคอลเลสเตอรอลในถุงน้ำดีทำให้โอกาสเกิดนิ่วลดลง

กรดเออร์โซไดออล (ursosdeoxycholic acid) 

ถ้าหากก้อนนิ่วเกิดจากคอลเลสเตอรอลก้อนนิ่วชนิดนี้สามารถค่อยๆละลายหายไปกับกรดเออร์โซไดออล (ursosdeoxycholic acid) ได้ โดยการรักษาประเภทนี้เรียกว่าการสลายตัวซึ่งต้องใช้เวลารักษา 24 เดือนถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยวิธีนี้อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่ากับการผ่าตัด โดยแพทย์จะใช้การรักษาวิธีนี้กับผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาชาแบบปกติได้ 

การส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP)

ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดหรือใช้กรดเออร์โซไดออล (ursosdeoxycholic acid) ได้ สามารถใช้วิธีรักษานิ่วในถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (ERCP) ซึ่งเป็นวิธีที่ต้องใช้ยาชาเฉพาะที่ โดยวิธีส่องกล้องนี้ทำโดยการใช้กล้องที่มีความยืดหยุ่นหรือกล้องเอนโดสโคปสอดเข้าไปในปากผ่านระบบย่อยอาหารเพื่อไปยังถุงน้ำดี

แพทย์ผ่าตัดจะใช้ความร้อนจากไฟฟ้าเพื่อเปิดท่อน้ำดีให้กว้างขึ้นและจากนั้นจึงนำก้อนนิ่วออกจากถุงน้ำดีส่วนก้อนนิ่วที่หลงเหลืออยู่อาจเข้าไปในลำไส้เล็ก 

การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก

การสลายนิ่วด้วยวิธีนี้เป็นการใช้คลื่นที่มีความถี่สูงเพื่อทำลายก้อนนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งเป็นการทำให้ก้อนนิ่วแตกสลายและมีขนาดเล็กลงพอเหมาะที่จะขับถ่ายออกทางอุจจาระได้อย่างปลอดภัยซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้ใช้เมื่อพบก้อนนิ่วจำนวนเล็กน้อยในถุงน้ำดีเท่านั้น 

โรคนิ่วในถุงน้ำดีอาจเกิดจากสารเคมีที่อยู่ในถุงน้ำดีไม่สมดุลกันเช่นคอสเรสเตอรอล แคลเซียมบิลิรูบิเนต (Calcium bilirubinate) และแคลเซียมคาร์บอเนต 

ประเภทของโรคนิ่วในถุงน้ำดี

โรคนิ่วในถุงน้ำดีแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักได้แก่ 

  • โรคนิ่วในถุงน้ำดีที่เกิดจากคอสเลสเตอรอลเป็นก้อนนิ่วที่เกิดการสะสมของคอลเลสเตอรอลสูงในถุงน้ำดี 
  • นิ่วในถุงน้ำดีชนิดเม็ดสีเกิดจากการที่มีแคลเซียมบิลิรูบิเนตในน้ำดีมากเกินไป ซึ่งโดยปกติมักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับและมีการอักเสบที่ท่อน้ำดีหรือเป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือดเช่นโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว   

ผู้เชี่ยวชาญยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเกิดสารเคมีที่ไม่สมดุลในถุงน้ำดีที่ทำให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้นอกจากนี้ยังไม่พบสาเหตุอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน

อย่างไรก็ตามเราได้ทราบเเล้วว่าโรคนิ่วในถุงน้ำดีมักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนโดยเฉพาะผู้หญิง ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่มีหน้าท้องยืนออกมามีโอกาสเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้มากกว่าสองเท่าของผู้หญิงที่มีรูปร่างปกติและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคนิ่วในถุงน้ำดี 

บทสรุปเกี่ยวกับโรคนิ่วในถุงน้ำดี

นี่คือบทสรุปเกี่ยวกับโรคนิ่วในถุงน้ำดีสำหรับรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดและข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ในบทความหลัก

  • ถุงน้ำดีเป็นอวัยวะขนาดเล็กที่อยู่ด้านล่างของตับ
  • ก้อนนิ่วสามารถเกิดขึ้นภายในบริเวณที่มีความไม่สมดุลของสารเคมีภายในถุงน้ำดี
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนมีโอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้มากกว่าคนทั่วไป
  • ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการทานอาหารที่มีไขมันต่ำและมีไฟเบอร์สูงสามารถป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *