หูหนวก (Hearing Loss) : อาการ สาเหตุ การรักษา

หูหนวก (Hearing Loss) : อาการ สาเหตุ การรักษา

03.03
548
0

ความบกพร่องทางการได้ยิน หูหนวก (Hearing Loss) หรือสูญเสียการได้ยิน หมายถึงการที่ไม่สามารถได้ยินเสียงโดยสิ้นเชิงหรือการที่มีความสามารถในการได้ยินลดลง

อาจมีอาการไม่รุนแรง ปานกลาง รุนแรง หรือรุนแรงมาก ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการได้ยินในระดับที่ไม่รุนแรงอาจมีปัญหาในการเข้าใจการพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีเสียงรบกวน ในขณะที่ผู้ที่มีอาการในระดับปานกลางอาจจะต้องใช้เครื่องช่วยฟัง

ในบางคนที่มีอาการหูหนวกอย่างรุนแรงและต้องพึ่งการอ่านปากเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น ส่วนคนที่มีอาการหูหนวกในระดับที่รุนแรงมากนั้นจะไม่สามารถได้ยินสิ่งใดเลยจึงต้องอาศัยการอ่านปากและภาษามือ

สาเหตุของอาการหูหนวก

โรคหรือสถานการณ์บางอย่างที่อาจทำให้หูหนวก ได้แก่:

  • อีสุกอีใส

  • ไซโตเมกะโลไวรัส

  • คางทูม

  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

  • โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว

  • ซิฟิลิส

  • โรคไลม์ Lyme disease

  • โรคเบาหวาน จากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะสูญเสียการได้ยินในระดับใดระดับหนึ่ง

  • การรักษาวัณโรค (TB) โดยใช้ยาสเตรปโตมัยซิน ซึ่งเชื่อว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดภาวะบกพร่องทางการได้ยิน

  • ภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ

  • โรคข้ออักเสบ

  • มะเร็งบางชนิด

หูชั้นในเป็นที่ตั้งของกระดูกที่บอบบางที่สุดในร่างกายและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแก้วหูหรือหูชั้นกลางอาจทำให้สูญเสียการได้ยินและหูหนวกได้ในหลาย ๆ ทาง

อาการหูหนวก

เราจำเป็นที่จะต้องแยกระดับต่าง ๆ ของการสูญเสียการได้ยิน หรือทำการทดสอบการได้ยินเพื่อเข้าใจถึงอาการหูหนวกที่เป็น

การสูญเสียการได้ยิน: ลดความสามารถในการได้ยินเสียงในระดับเดียวกันกับคนทั่วไป

หูหนวก: เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ผู้อื่นพูดผ่านการฟังได้ แม้ว่าจะมีการขยายเสียงก็ตาม

หูหนวกรุนแรงมาก: หมายถึงการสูญเสียการได้ยินทั้งหมด ผู้ที่มีอาการหูหนวกรุนแรงมากจะไม่สามารถได้ยินเสียงใด ๆ เลย

ความรุนแรงของการสูญเสียการได้ยินแบ่งตามระดับความดังที่เป็นค่าเริ่มต้นของระดับการได้ยินที่ผู้ป่วยจะสามารถได้ยินได้

บางคนให้คำจำกัดความกับอาการหูหนวกขั้นที่รุนแรงมากและอาการหูหนวกสนิทว่าเป็นลักษณธเดียวกัน ในขณะที่บางคนกล่าวว่า อาการหูหนวกรุนแรงมากคือขั้นสุดท้ายของอาการสูญเสียการได้ยิน

ประเภทของหูหนวก

การสูญเสียการได้ยิน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท:

การนำเสียงบกพร่อง

ซึ่งหมายถึงการที่คลื่นเสียงไม่สามารถผ่านหูชั้นนอกไปยังหูชั้นในได้โดยเฉพาะโคเคลีย (อวัยวะรูปหอยโข่ง) อาการนี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่:

  • การสะสมของขี้หูที่มากเกินไป
  • มีน้ำข้นในหูชั้นกลาง
  • การติดเชื้อในหูซึ่งมีอาการอักเสบและมีการคั่งของของเหลวในหู
  • เยื่อแก้วหูทะลุ
  • ความผิดปกติของกระดูกหู
  • ความบกพร่องของแก้วหู
Hearing Loss

 ประสาทรับฟังเสียงบกพร่อง

การสูญเสียการได้ยินจากการผิดปกติของหูชั้นใน โคเคลีย เส้นประสาทหู หรือสมองถูกทำลาย

โดยปกกติแล้วการสูญเสียการได้ยินประเภทนี้จะเกิดจากการที่เซลล์ขนในโคเคลียเสียหาย เมื่อมนุษย์เรามีอายุมากขึ้นเซลล์ขนจะสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานบางส่วนไปและทำให้ประสิทธิภาพในการได้ยินลดลง

การได้รับเสียงดังเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเสียงความถี่สูงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เซลล์ขนเสียหาย เซลล์ขนที่เสียหายนั้นไม่สามารถสร้างขึ้นมาทดแทนได้ ขณะนี้ได้มีการวิจัยเพื่อใช้เซลล์ต้นกำเนิดในการสร้างเซลล์ขนขึ้นมาใหม่

อาการหูหนวกจากการที่ประสาทหูบกพร่องอาจเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด การติดเชื้อในหูชั้นใน หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ

การรับฟังเสียงบกพร่องแบบผสม

เกิดจากความผิดปกติในระบบการนำเสียงร่วมกับประสาทรับฟังเสียงบกพร่อง การติดเชื้อในหูในระยะยาวสามารถทำลายทั้งแก้วหูและกระดูหูได้ ในบางครั้งการผ่าตัดแบบ interventionb อาจทำให้กลับมาได้ยินเหมือนเดิม แต่วิธีการนี้ก็ไม่ได้ผลเสมอไป

การวินิจฉัย

ผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีการได้ยินที่ผิดปกติควรที่จะไปพบแพทย์

แพทย์จะพูดคุยและสอบถามอาการอย่างละเอียด รวมไปถึงระยะเวลาที่เริ่มมีอาการ มีอาการเหล่าแย่ลงหรือไม่ และมีอาการเจ็บปวดควบคู่ไปกับการสูญเสียการได้ยินหรือไม่

การตรวจร่างกาย

แพทย์จะตรวจดูในหูโดยใช้กล้องส่องตรวจหู เป็นเครื่องมือที่มีไฟอยู่ตรงส่วนท้าย อาจตรวจพบสิ่งต่อไปนี้ในระหว่างการตรวจ:

  • การอุดตันที่เกิดจากสิ่วแปลกปลอม

  • แก้วหูทะลุ Ruptured Eardrum

  • การสะสมของขี้หู

  • การติดเชื้อในช่องหู

  • การติดเชื้อในหูชั้นกลางหากมีอาการนูนของแก้วหู

  • ขี้ไคล การที่มีการเจรริญของผิวหนังหลังแก้วหูในหูชั้นกลาง

  • ของเหลวในช่องหู

  • รูในแก้วหู

การรักษาอาการหูหนวก

การสูญเสียการได้ยินทุกประเภทนั้นสามารถรักษาได้ โดยรักษาตามสาเหตุและระดับความรุนแรงของการการ

อาการประสาทรับฟังบกพร่องนั้นไม่สามารถรักษาให้หายได้ เมื่อเซลล์ขนในโคเคลียเสียหายก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้ อย่างไรก็ตามการรักษาและเทคนิคทางการแพทย์ต่าง ๆ นั้นจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

เครื่องช่วยฟัง

เป็นอุปกรณ์ที่สวมใส่เพื่อช่วยในการได้ยิน

เครื่องช่วยฟังมีหลายประเภท หลายขนาด หลายวงจร และหลากหลายระดับ เครื่องช่วยฟังไม่ได้รักษาอาการหูหนวก เพียงแต่ช่วยขยายเสียงที่เข้าสู่หูเพื่อให้ผู้ฟังได้ยินชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เครื่องช่วยฟังประกอบด้วย แบตเตอรี่ ลำโพง เครื่องขยายเสียง และไมโครโฟน ในปัจจุบันนี้เครื่องช่วยฟังมีขนาดที่เล็กมาก ใส่สบาย และสามารถใส่ไว้ในหูได้ รุ่นที่ทันสมัยหลาย ๆ รุ่น สามารถแยกเสียงพื้นหลังออกจากเสียงหลักได้ เช่น เสียงพูด

เครื่องช่วยฟังนั้นไม่เหมาะกับผู็ป่วยที่มีอาการหูหนวกรุนแรงมาก

นักโสตสัมผัสวิทยาจะช่วยตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องช่วยฟังนั้นพอดี และมันจะถูกปรับให้เกมาะสมกับระดับการได้ยินของผู้ป่วย

ประสาทหูเทียม

หากแก้วหูและหูชั้นกลางทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยอาจได้รับการพิจารณาให้ผ่าตัดประสาทหูเทียม

อิเล็กโทรดแบบบางนี้จะถูกใส่เข้าไปในโคเคลีย กระตุ้นกระแสไฟฟ้าผ่านไมโครโปรเซสเซอร์ขนาดเล็กที่อยู่ใต้ผิวหนังหลังใบหู

ประสาทหูเทียมถูกใส่เข้าไปเพื่อช่วยในการผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยินที่เกิดจากความเสียหายของเซลล์ขนใรโคเคลีย โดยปกติแล้วประสาทหูเทียมจะช่วยกระตุ้นประสาทการได้ยิน ประสาทหูเทียมรุ่นล่าสุดมีเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลง เข้าใจการพูดได้ดีขึ้นแม้จะมีเสียงพื้นหลังรบกวนอยู่ และยังสามารถทำงานขณะที่ผู้ป่วยว่ายน้ำได้อีกด้วย

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *