กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome)

กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome)

17.05
1038
0

กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท (Piriformis Syndrome)ทำให้ปวดก้นและปวดกล้ามเนื้อสะโพก เนื่องจากกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสบริเวณก้นใกล้กับสะโพกไปกดทับเส้นประสาทไซอาติกที่อยู่ใกล้กัน

ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวด ชา รู้สึกเสียวปลาบและรู้สึกเจ็บที่ก้นและสะโพกและบางครั้งอาจเกิดที่ต้นขาและขา กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจเป็นอาการเรื้อรัง เกิดจากการบาดเจ็บเพียงครั้งเดียวหรือมีสาเหตุเกิดจากอาการปวดซ้ำ ๆ ได้

กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทคืออะไร

เมื่อกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสบริเวณก้นใกล้กับสะโพกไปกดทับเส้นประสาทไซอาติกอาจทำให้เกิดอาการปวดที่สะโพกและก้น

กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสเป็นกล้ามเนื้อรูปลูกแพร์ที่บั้นท้ายซึ่งยื่นออกมาจากฐานของกระดูกสันหลังจนถึงส่วนบนของต้นขา ความหนาแน่นของกล้ามเนื้อนี้จะกดทับเส้นประสาทไซอาติก

ซึ่งเส้นประสาทไซอาติกเป็นเส้นประสาทที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย โดยกินพื้นที่ขยายจากกระดูกสันหลังส่วนล่างลงไปที่เท้า

การกดทับเส้นประสาทไซอาติกอาจทำให้รู้สึกปวดเหมือนโดนอะไรทิ่ม เสียวปลาบหรือชาจากบริเวณสะโพกถึงขาส่วนล่างหรือเท้า

อาการที่พบบ่อยที่สุดของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทคือ:

  • กดแล้วเจ็บหรือปวดบริเวณก้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็นแค่เพียงข้างเดียว
  • อาการปวดจะแผ่ลงมาที่ด้านหลังขาจนถึงเอ็นร้อยหวายและบางครั้งถึงน่อง
  • อาการปวดเส้นประสาทแผ่จากก้นลงขา

ผู้ที่มีกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจรู้สึกเสียวปลาบ เจ็บเหมือนโดนทิ่ม มีอาการชาหรือเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งแผ่ลงจากก้นไปขา

คนที่มีกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทบางคนคิดว่าปัญหาอยู่ที่เอ็นร้อยหวาย อาการแสดงหลักของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทไม่ได้อยู่ที่การกดเจ็บในเอ็นร้อยหวายแต่เป็นการจดเจ็บบริเวณสะโพกหรือก้น

กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจเกิดขึ้นได้ทันทีทันใด ซึ่งโดยปกติจะเกิดจากการบาดเจ็บหรืออาจค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในช่วงหลายเดือนต่อมา

 สาเหตุของกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

กลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจทำให้เกิดอาการปวดหลังขาข้างหนึ่งตั้งแต่บั้นท้ายลงไป

อาการตึงและเคลื่อนไหวลำบากของกล้ามเนื้อเมื่อมีกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจทำให้กล้ามเนื้อกระตุกได้ ซึ่งคล้ายกับอาการตึงของกล้ามเนื้อในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายซึ่งมีสาเหตุแตกต่างกันไป

ทั้งนี้ อาจมีสาเหตุจาก:

  • การบาดเจ็บ เช่น การหกล้ม การกระแทกบริเวณที่เกิดกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทหรือการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้กล้ามเนื้อสะโพกอักเสบ
  • ใช้งานกล้ามเนื้อมากเกินไป เช่น วิ่งบ่อย ออกกำลังกายหนักเกินไปหรือยืดตัวมากเกินไป
  • ชอบอยู่ท่าใดท่าหนึ่งนาน ๆ เช่น นั่งเป็นเวลานาน
  • เปลี่ยนจากการอยู่ในท่าใดท่านหนึ่งนาน ๆ แล้วมาการออกกำลังกายบ่อยขึ้น
  • สูญเสียกล้ามเนื้อสะโพก
  • กล้ามเนื้อเนื้อตึงและมีน้ำหนักตัวเกินเนื่องจากการตั้งครรภ์
  • กล้ามเนื้อทับเส้นประสาท

Piriformis Syndrome

การวินิจฉัยกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

การวินิจฉัยกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทยังเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบัน บางครั้งแพทย์ก็วินิจฉัยกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทพลาดบ่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการไม่มีการตรวจที่ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน

แพทย์หลายคนวินิจฉัยกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทโดยดูแค่อาการของโรคเพียงอย่างเดียว มีการตรวจเพียง 2 ประเภทเท่านั้นที่ช่วยให้เห็นหลักฐานที่นำมาสนับสนุนการวินิจฉัยนี้ได้ การตรวจเหล่านี้ ได้แก่:

  • การถ่ายภาพระบบประสาทด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก: เป็นเทคนิคการถ่ายภาพทางการแพทย์ด้วยด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) รูปแบบหนึ่งที่ตรวจการอักเสบในเส้นประสาท
  • การตรวจด้วย FAIR test: การตรวจการงอ การชักดึงและการหมุนภายใน (FAIR) จะให้ผู้ป่วยก้มเงยเพื่อให้กล้ามเนื้อสะโพกยืดหยุ่นเพื่อยืดกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทและกดเส้นประสาทไซอาติก แล้วจึงวัดความล่าช้าของสัญญาณประสาทไซอาติกเนื่องจากการกดทับใต้กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส

การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย

การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายหลายประเภทช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสได้ การออกกำลังกายและการยืดกล้ามเนื้อเหล่านี้อาจช่วยลดความรุนแรงของกล้ามเนื้อกระตุกและคลายความตึงตัวของกล้ามเนื้อ

ผู้ที่มีกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทอาจลองแก้อาการด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้:

  • นอนหงายโดยให้ขายื่นออกมา ยกขาที่เจ็บปวดไปทางหน้าอกโดยจับเข่าและข้อเท้าไว้ ดึงเข่าเข้าหาข้อเท้าอีกด้านหนึ่งของร่างกายจนกล้ามเนื้อยืด
  • นอนหงายโดยให้ขาแบะและเหยียดออก ยกขาที่ปวดแล้วไขว้ขาด้านที่ไม่ปวด และพยามเอาเท้าข้างที่ยกแตะให้ถึงพิ้น ดึงขาขึ้นเหนือลำตัว โดยใช้มือกอดรอบขาที่ดึงขึ้น หรือใช้ผ้าหรือผ้าขนหนูรัดก่อนที่จะดึง
  • ให้นอนหงายตัวตรง เอาขาข้างที่มีอาการยกข้ามเข่าไขว้มาอีกข้าง และงอขาทั้งสองข้าง นอนหงาย ดึงเข่าขึ้นมาถึงหน้าอกและกอดเข่าไว้ จากนั้นเข้าหาไหล่จนกระทั่งเกิดการยืดของกล้ามเนื้อ
  • ทำกิจกรรมยืดเหยียดครั้งละ 30 วินาทีและทำซ้ำ 3 ถึง 5 ครั้ง
  • ไม่ควรฝืนยืดตัวหรือสร้างความเจ็บปวด

การรักษากลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

การยืดกล้ามเนื้อและการออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยบรรเทากลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เมื่ออาการดีขึ้น ก็สามารถออกกำลังกายที่หนักขึ้นได้ เช่น การวิ่งจ็อกกิ้ง

นอกจากการยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ แล้ว ยังสามารถจัดการและรักษากลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทได้ด้วยการดูแลตนเอง

ประคบร้อนประคบเย็นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณที่เกิดอาการปวดและช่วยให้หายเร็วขึ้นได้ ในผู้ป่วยบางรายพบว่า ความร้อนหรือน้ำแข็งใช้ได้ผลดีขึ้น ดังนั้นจะประคบร้อนหรือประคบเย็นก็ให้ดูว่าแบบไหนมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรเทาอาการปวด

สำหรับการประคบร้อนประคบเย็น ให้ทำสลับกันคือประคบ 20 นาทีและเอาออก 20 นาที แล้วประคบซ้ำอีก 20 นาที สลับกัน

ตัวเลือกการรักษาอื่น ๆ มีดังต่อไปนี้:

  • ขยับร่างกายมากขึ้น การเดินช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายและป้องกันไม่ให้อาการกระตุกแย่ลงได้
  • ฝึกกิจกรรมที่สร้างความแข็งแรงที่ช่วยให้กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส กล้ามเนื้อสะโพกและสะโพกดีขึ้น การยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกและการออกกำลังกายแบบยืดหดช่วยให้สะโพกได้ชินกับแรงต้าน ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่ง
  • การใช้ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ไม่ควรใช้ยาเหล่านี้เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายอย่างหนักนั้นเจ็บปวดน้อยลง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้อาการปวดแย่ลง ซึ่งมักรวมถึงการวิ่งด้วย การพักผ่อนสามารถช่วยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีอาการบาดเจ็บมาก
  • การนวดบริเวณที่เจ็บปวดรวมทั้งกล้ามเนื้อรอบข้างอาจช่วยได้ บางครั้งความตึงเครียดในกล้ามเนื้อหนึ่งอาจทำให้เกิดความตึงเครียดในอีกส่วนหนึ่งได้ ดังนั้นการนวดบริเวณบั้นเอวลงไปยังสะโพกอาจช่วยได้ บางคนที่มีกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทจะพบว่าการประคบร้อนประคบเย็นก็ช่วยได้เช่นกัน
  • หากอาการปวดรุนแรงขึ้นและแย่ลงนานหลายวันหรือแม้แต่จะใช้วิธีดูแลรักษาจากที่บ้านแล้วก็ยังปวดอยู่ ให้พบแพทย์ทันที การรักษาด้วยหลายวิธีอาจช่วยให้ดีขึ้น

ตัวเลือกการรักษาทางคลินิก ได้แก่ 

  • การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดได้
  • ใช้ยาแก้ปวดตามใบสั่งแพทย์หรือยาคลายกล้ามเนื้อ ควรปรึกษาแพทย์เรื่องความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาแก้ปวดเนื่องจากยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดการเสพติดได้
  • การใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์หรือยาชา
  • การรักษาทางเลือก เช่น การฝังเข็ม การรักษาด้วยเทคนิคไคโรแพรคติกและการบำบัดด้วยการกดจุดต่าง ๆ
  • กายภาพบำบัดเพื่อฟื้นการใช้กล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสและป้องกันการสูญเสียของกล้ามเนื้อเนื่องจากไม่มีการใช้งานหรือเกิดความผิดปกติของกล้ามเนื้อโดยรอบ
  • การผ่าตัดเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งควรจะเป็นทางเลือกสุดท้าย อีกทางเลือกหนึ่งคือตัดเอ็นกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสที่ติดกับสะโพก การตัดกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสเพื่อลดแรงกดทับเส้นประสาทไซอาติก

การป้องกันกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

กิจกรรมยืดเหยียดแบบทำซ้ำ ๆ ช่วยให้อาการปวดกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการปวดของกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส

หลายคนเกิดกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทเนื่องจากทำกิจกรรมเดิมซ้ำ ๆ การพัฒนาเทคนิคดี ๆ ช่วยป้องกันไม่ให้การทำกิจกรรมซ้ำ ๆ เหล่านี้ทำลายกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสได้

การลงทุนซื้อรองเท้าวิ่งที่สวมใส่สบายและกระชับนั้นเป็นสิ่งสำคัญ รองเท้าที่ดีก็จะต้องใส่แล้วเคลื่อนไหวได้ดีและไม่ควรทำให้เท้าเจ็บ รองเท้าที่ไม่กระชับทำให้ท่าทางและอิริยาบนต่าง ๆ ผิดไปได้

วิธีอื่น ๆ ในการป้องกันกลุ่มอาการกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท ได้แก่ :

  • ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพก่อนออกกำลังกายตามปกติทุกครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ทำให้ปวด
  • หากเกิดการบาดเจ็บ ให้รักษาอาการบาดเจ็บนั้นทันที
  • งดออกกำลังกายโดยเฉพาะส่วนที่มีกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บจนกว่าจะหายดี
  • ฝึกให้มีท่าทางและอิริยาบทที่ดีและถูกต้อง

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *