โรคเลือดออกตามไรฟัน (Scurvy) : อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

โรคเลือดออกตามไรฟัน (Scurvy) : อาการ สาเหตุ วิธีการรักษา

20.11
5719
0

เลือดออกตามไรฟัน (Scurvy) คือ อาการที่เกิดจากการขาดวิตามินซี อาจนำไปสู่โรคโลหิตจาง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว และอาการบวมในบางส่วนของร่างกาย

ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเลือดออกตามไรฟัน

นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับบทความนี้

  • เลือดออกตามไรฟัน เป็นผลจากการขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง
  • การขาดวิตามินซีอาจทำให้สูญเสียฟัน โลหิตจาง และหายป่วยได้ช้ากว่าปกติ
  • การขาดวิตามินสามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการแก้ไข
  • เลือดออกตามไรฟันรักษาได้ด้วยอาหารเสริมวิตามินซี

Scurvy

เลือดออกตามไรฟันคืออะไร?

เลือดออกตามไรฟันเกิดจากการขาดวิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิกนำไปสู่สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ โรคโลหิตจาง โรคเหงือก และปัญหาผิวหนัง

เนื่องจากวิตามินซีจำเป็นสำหรับการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันนั้นมีความจำเป็นสำหรับโครงสร้างและระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมไปถึงโครงสร้างของหลอดเลือด

การขาดวิตามินซีจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน การดูดซึมธาตุเหล็ก ระบบเผาผลาญคอเลสเตอรอล และการทำงานที่สำคัญอื่นๆ ในร่างกาย

อาการของเลือดออกตามไรฟัน

วิตามินซีเป็นสารอาหารจำเป็นทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและผลิตคอลลาเจน ถ้าร่างกายผลิตคอลลาเจนไม่เพียงพอเนื้อเยื่อจะเริ่มเสื่อม และสลาย

นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ Dopamine, Norepinephrine, Epinephrine และ Carnitine ซึ่งสำคัญต่อแหล่งพลังงานของร่างกาย

อาการของการขาดวิตามินซีจะเริ่มแสดงหลังจาก 8 ถึง 12 สัปดาห์ อาการเริ่มต้น ได้แก่ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย หงุดหงิด และซึม

หากขาดวิตามิน ภายใน 1-3 เดือน อาจทำให้มีอาการดังต่อไปนี้

  • โรคโลหิตจาง
  • ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดไขข้อ
  • บวม
  • มีจุดสีแดงเล็ก ๆ ที่เกิดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง
  • ขนคุด
  • โรคเหงือก เหงือกเลือดออกบ่อย ๆ 
  • แผลหายช้า
  • หายใจถี่
  • หงุดหงิด ซึม

หากไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดอาการบวมน้ำ ดีซ่านรุนแรง เซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลายจนแตก โรคระบบประสาท มีไข้ และอาการชัก อาจถึงแก่ชีวิตได้

มีงานวิจัยทดลองการขาดวิตามินซีในสัตว์ทดลองพบว่า การขาดวิตามินซีในระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้เกิดผลกระทบกับการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์

สาเหตุของเลือดออกตามไรฟัน

สาเหตุของโรคนี้มีดังนี้

1.การขาดวิตามิน C

วิตามินซีเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลฟันและเหงือกให้แข็งแรง ดังนั้นหากเราขาดวิตามินซีก็จะทำให้ ขาดเกราะป้องกันเหงือก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ และมีเลือดออก ดังนั้นเราควรรับประทานวิตามินซี ในปริมาณที่พอดีกับร่างกายและควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดและในปริมาณที่เพียงพอ วิตามินซีดีต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไปก็อาจเป็นนิ่วในไตได้เช่นกัน

2.ดูแลรักษาช่องปากไม่ถูกวิธีและไม่ดีพอ

การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี ทำให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียมาสะสม ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกได้ ดังนั้นเราจึงควรแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ บ้วนน้ำหลังจากทานอาหารเสร็จ เพื่อป้องกันการสะสมของเศษอาหารตามซอกฟัน

3.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเกินไปหรือใช้นานเกินไป

การใช้แปรงสีฟันแข็งๆแปรงฟัน อาจทำให้เหงือกระคายเคือง และเกิดการบาดเจ็บจากการที่แปรงโดนเหงือกและการใช้แปรงสีฟันเป็นระยะเวลานานเกินไปจะทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่ในแปรงสีฟัน ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนแปรงใหม่ในทุกๆ 3 เดือน หรือ เมื่อแปรงบาน

4.การแปรงฟันที่แรงเกินไป

บางคนมีความเชื่อที่ผิดๆว่าการแปรงฟันแรงๆจะช่วยให้ฟันสะอาดมากขึ้น แต่ที่จริงแล้วการแปรงฟันแรงเกินไป มีผลเสียกับฟันมาก ทำให้ระคายเคืองเหงือก ฟันสึก และมีเลือดออกตามไรฟันได้

การรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน

การรักษาเลือดออกตามไรฟันด้วยการให้วิตามินซีเพิ่มผ่านทางอาหารเสริม หรือการฉีดเข้าเส้นเลือด

ปริมาณวิตามินที่แนะนำให้บริโภค:

  • 1 – 2 กรัม ต่อวัน นาน 3 วัน
  • 500 มิลลิกรัม ต่อวัน นานอีก 7 วัน
  • 100 มก. มิลลิกรัม ต่อวัน นานอีก 1-3 เดือนอย่างต่อเนื่อง

ภายใน 24 ชั่วโมง หลังได้รับวิตามินซี อาการอ่อนเพลีย ซึม ปวดเมื่อย เบื่ออาหา รและหงุดหงิดจะดีขึ้น อาการเลือดออกใต้ผิวหนัง และร่างกายอ่อนแอจะหายภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์

หลังจาก 3 เดือนที่ได้รับวิตามินซีตามคำแนะนำ ร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ตามมา เว้นเสียแต่ฟันถูกทำลายไปแล้ว

การป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

การป้องกันที่สำคัญคือการบริโภควิตามินให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และวิธีป้องกันอื่นๆ มีดังนี้

  1. ควรกินผลไม้ที่ให้วิตามิน C สูงหรือรับประทานยา วิตามิน C บำรุงร่างกาย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดีกับร่างกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด เข้าห้องน้ำบ่อยๆ เพื่อให้วิตามิน C ระบายออกมา เพราะวิตามิน C ไม่สะสมในร่างกาย
  2. ควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งช่องปากและซอกฟัน ใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่ขนแปรงทำความสะอาดไม่ถึง และบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาดให้ทั่วช่องปาก ถ้ามีฟันผุหรือหินปูน ควรรักษาโดยเร็วที่สุด
  3. ควรใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงอ่อนนุ่มและเปลี่ยนแปรงทุกๆ 2-4 เดือน
  4. เมื่อมีอาการของเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคทางช่องปากอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์และรับการรักษาทันที

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *