เมื่อเราสนุกกับการอยู่ท่ามกลางแสงแดด เราก็จำเป็นต้องปกป้องผิวของเราจากผลกระทบที่อันตรายที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นการใช้ครีมดูแลผิวที่มีค่า SPF เป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป้น ประโยชน์จากครีมกันแดดไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น แต่เป็นสิ่งจำเป็นตลอดทั้งปีเพื่อป้องกันผิวเสียหาย การสัมผัสแสงแดดมากเกินไปสามารถสร้างความเสียหายให้แก่ผิวของเราได้ ซึ่งรวมไปถึงริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น และจุดแก่ แม้แต่ในช่วงหน้าหนาวเมื่อแสงแดดไม่แรงนักก็ตาม ก็ยังมีความจำเป็นในการปกป้องผิวเราด้วย SPF เพราะแสงรังสีอัลตร้าไวโอเลต
SPF คือ วิวัฒนาการเป็นเสมือนกุญแจสำคัญที่เรารู้กันดีว่าสามารถปกป้องแสงแดด และต้านวัยได้ไปพร้อมๆกัน ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วกว่าชนิดที่ทิ้งคราบมันตกค้างไว้
อัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวีคือ สิ่งที่สร้างความเสียหายให้แก่ผิว อีกทั้งยังนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนัง การสัมผัสรังสียูวีเป็นสาเหตุทำให้ผิวเปลี่ยนสี เกิดริ้วรอยและลักษณะผิวมีการเปลี่ยนแปลง หากคุณใช้เวลาอยู่ท่ามกลางแสงแดดมากๆ คุณจะสังเกตเห็นว่าผิวหนังจะแห้ง และแข็งจนรู้สึกได้ การทาครีมกันแดดจะช่วยลดการเจาะทะลุทะลวงของรังสียูวีส่วนเกินได้เมื่อต้องออกไปใช้เวลาอยู่กลางแจ้ง
ซึ่งรวมไปถึงสกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย Clean Screen Mineral SPF 30 จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ด้วยการสร้างเกราะป้องกันอันตรายจากรังสียูวีด้วยสูตรที่มีซิงค์ออกไซด์ 22 เปอร์เซ็นต์เป็นส่วนประกอบ ส่วนผสมอื่นๆในครีมกันแดด รวมถึงเมล็ดเสาวรสสีเหลืองสกัดจะช่วยเป็นโล่กำบังมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมที่มักเป็นต้นเหจุของการเกิดสิวอุดตัน สารสกัดจากข้าวส่งผลให้ไชหน้าไม่มันเพราะไม่ทิ้งคราบมันไว้ที่ใบหน้า
ดังนั้นการปกป้องผิวหน้าของเราจากแสงแดดจึงเป็นสำคัญด้วยการใช้ครีมกันแดด เลือกใช้สูตรที่ช่วยปกป้องผิวแต่ปราศจากซิลิโคน หรือออกซิเบนโซน
ครีมกันแดดคือ ปราการด่านแรกในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง การใช้กันแดดที่มีค่า SPF 15 หรือสูงกว่าเป็นประจำทุกวันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ราว 40 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเพิ่มประโยชน์ในการใช้ครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆสองชั่วโมง และให้แน่ใจว่าครีมกันแดดสามารถซึมซาบลงสู่ผิว
ขึ้นอยู่กับชนิดของผิว กิจกรรมที่ทำ และระดับการสัมผัสแสงแดด คุณอาจต้องทาครีมกันแดดซ้ำบ่อยขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่าง เช่น หากคุณต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในน้ำ คุณต้องทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำ อีกทั้งยังต้องมีตัวช่วยในการปกป้องแสงแดดอื่นๆ เช่น เสื้อผ้าป้องกันแสงแดด หมวกกันแดด แว่นกันแดด
The Skin Cancer Foundation รายงานว่าคนที่ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 หรือสูงกว่าเป็นประจำทุกวันช่วยลดผิวแก่ก่อนวัยได้ 24 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำ การมีผิวแห้งทำให้ผิวดูสุขภาพไม่ดีเพราะปราศจากความชุ่มชื้น และทำให้ดูแก่ในทันที ความร้อนจากแสงแดดทำให้ผิวแห้ง และโจมตีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ทำให้ผิวเป็นขุย และรู้สึกหยาบกระด้าง ครีมกันแดดจึงจัดเป็นสกินแคร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้ง
นอกจากประโยชน์หลักของครีมกันแดด คือ ช่วยสร้างเกราะให้ระหว่างผิวกับแสงยูวีแล้ว ครีมกันแดดยังช่วยป้องกันผิวแก่ก่อนวัยได้ การไปปกป้องผิวเลยจะส่งผลให้เกิดริ้วรอย การสร้างเม็ดสีมากขึ้น ซึ่งมักแก้ไขได้ยาก ครีมกันแดดจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของสกินแคร์ที่ควรใช้เป็นประจำทุกวัน
ความเสียหายจากยูวีส่งผลให้ผิวเปลี่ยนสี หรือมีการสร้างเม็ดสีที่มากเกินไป ในบางจุดของผิวอาจปรากฏสีเข้ม หรือแดง หรือระคายเคือง
ส่วนผสมบางชนิดมีบทบาทที่สำคัญในการปรับสภาพผิว วิตามินซี น้ำมันโรสฮิป และน้ำมันโจโจ้บาคือ ส่วนที่สำคัญ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีส่วนผสมดังกล่าวเพื่อปกป้องแสงแดด และมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม สารพิษ และอนุมูลอิสระในอากาศสามารถก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผิว และทำให้เกิดสีผิวที่ไม่เรียบเสมอกัน ควรใช้ครีมกันแดดร่วมกับ Evercalm Global Protection Day Cream เพราะทั้งค่า SPF และการปกป้องมลภาวะจะช่วยเป็นกุญแจสำคัญการดูแลผิวของคุณ
ครีมกันแดดสูตรที่มีความเหมาะสมจะไม่ทิ้งความรู้สึกมัน หรือก่อให้เกิดสิว ปกป้องผิวสองเท่าด้วยการทาครีมกันแดด และตามด้วยมอยเจอร์ไรซ์เซอร์ที่มี SPF เพื่อเพิ่มประโยชน์ของครีมกันแดดสูงสุด
ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 เพื่อลดความเสียหายจากรังสียูวี
การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF มากกว่า 30 ให้ผลต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จากการวิจัยของ American Cancer Society พบว่าครีมกันแดดค่าSPF 30 กันรังสียูวีเฉลี่ย 97 เปอร์เซ็นต์ ส่วนค่า SPF 50 กันได้ 98 เปอร์เซ็นต์ และค่า SPF กันได้ราว 99 เปอร์เซ็นต์
ทาครีมกันแดดตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านเป็นสิ่งที่ดี แต่ค่ากันแดดจะลดน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไปหากไม่มีการทาซ้ำ นำครีมกันแดดติดตัวไปกับคุณด้วยโดยเฉพาะหากไปสระว่ายน้ำ หรือไปชายหาดนานนับชั่วโมง
เหงื่อ และน้ำสามารถลบครีมกันแดดออก และผิวคุณจะไม่เหลืออะไรปกป้องอีกต่อไป จึงมีคำแนะนำให้ทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆสองชั่วโมง ไม่ควรบ่อยกว่านั้นเพราะควรปล่อยให้ตัวครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เต็มที่เสียก่อน
โชคดีที่ผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดสามารถมีอายุการใช้งานนาน และยังคงมีประโยชน์เต็มเปี่ยม ทางองค์การอาหาร และยาแนะนำว่าครีมกันแดดทุกชนิดสามารถอยู่ได้นานอย่างน้อยสามปี เช็ควันหมดอายุเพื่อให้แน่ใจกำลังใช้ครีมกันแดดที่ยังไม่หมดอายุ
หากสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลง เช่น เนื้อเป็นเม็ด หรือมีน้ำมันมากเกินไป ทางที่ดีที่สุดคือ เปลี่ยนขวดใหม่
ครีมกันแดดถูกผลิตออกมาให้มีความเหมาะสมกับผิวทุกรูปแบบ แต่แบบไหนล่ะที่เหมาะสำหรับคุณ ครีมกันแดดแบบสเปรย์อาจสะดวกในการใช้ทั่วตัว กันแดดชนิดครีมดีกว่าสำหรับใช้กับใบหน้า และลำคอเพื่อแน่ใจว่าทาทั่วถึง ในเวลาใช้อย่าลืมใช้กับบริเวณหู หลังคอ และแขน เพราะเป็นส่วนที่มักถูกลืมเป็นประจำ
จะรู้สึกดีเมื่อเลือกครีมกันแดดแบบธรรมชาติที่ทำมาจากส่วนผสมที่ไม่ก่อเกิดการระคายเคืองผิว จำไว้ว่าผิวของเรามีการเปลี่ยนแปลงตามวัย ให้ความใส่ใจกับการเกิดปฏิกิริยสกับผิวที่มีต่อแสงแดด และผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างออกไปอาจช่วยปกป้องได้มากขึ้นได้
ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 คือ ผลิตภัณฑ์สกืนแคร์ที่ดีที่สุดที่ควรใช้เป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยปกป้องผิว และรักษาความชุ่มชื้น และทำให้ผิวเรียบเนียน อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และช่วยป้องกันการแก่ก่อนวัย ควรใช้เป็นประจำ และใช้ซ้ำตามที่จำเป็น
ในขณะที่รังสียูวีให้วิตามินดีที่ดีต่อผิว แต่หากปราศจากการปกป้องที่เหมาะสมก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดความเสียหายได้ เริ่มต้นฝึกพฤติกรรมเพื่อสุขภาพด้วยการไม่ออกจากบ้านโดยปราศจากการปกป้องใบหน้าด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก