

ข่าเป็นพืชรากที่เติบโตใต้พื้นดินเช่นเดียวกับขิง รากของมันเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่ได้รับความนิยมในครัวเรือนซึ่งมีอยู่ในอาหารเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มันเป็นสมุนไพรยืนต้นที่มีลำต้นคล้ายนิ้ว อยู่ในวงศ์ Zingiberaceae ในสกุล Zingiber
ข่าใหญ่ นั้นมีต้นกำเนิดมาจากป่าเขตร้อนของชาวอินโดนีเซีย มันเป็นพืชโตสูงประมาณ 1 ถึง 2 เมตรมีลำต้นยาวและใบสีเขียวยาวรูปหอก และมีสีซีดอยู่ข้างใต้ ดอกมีสีขาวอมเหลืองสวยงามปรากฏในต้นที่โตแล้ว
ข่ามีสองประเภทหลักๆคือ
- ข่าใหญ่ เช่น ข่า เป็นพืชที่เติบโตใต้พื้นดิน ชอบดินอินทรีย์ที่มีการระบายน้ำดี รากมีลักษณะยื่นออกมาเหมือนนิ้วโดยมีวงแหวนสีน้ำตาลอยู่บนพื้นผิว ตรงกันข้ามกับขิงที่มีผิวบางและซีดกว่า
- ข่าเล็ก (A. officinarum) มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน มีขนาดค่อนข้างเล็กมีพื้นผิวสีน้ำตาลสนิมและภายในเป็นเส้นใย เป็นที่นิยมมากในเมืองไทย รสชาติของมันค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ฉุน และมีกลิ่นหอม
กลิ่นและรสชาติ
ข่าใหญ่นั้นมีรสฉุนเฉียบซึ่งมาจากน้ำมันหอมระเหยที่เป็นสารที่มีอยู่มากในข่า ข่าเล็กจะหอมกว่าด้วยรสเผ็ดร้อนแบบพริกไทย รากมักใช้สด แต่ก็ยังใช้แห้งและเป็นผงได้
ประโยชน์ของข่า
- ข่าเป็นสมุนไพรที่ให้แคลอรีต่ำซึ่งใช้ในยาแผนโบราณมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อรักษาอาการอาหารไม่ย่อย หวัด การติดเชื้อรา (โรคผิวหนังจากเชื้อรา)
- รากข่าประกอบด้วยสารฟลาโวนหลายชนิด เช่น กาลันจิน ซึ่งทำให้รากนี้มีกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรง สารเคมีอื่นๆ ที่พบ ได้แก่ Alpinin, Kampferide และ 3-Dioxy-4-methoxy flavone สารประกอบเหล่านี้มีส่วนช่วยในการต้านจุลชีพ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา ต้านเนื้องอก และมีคุณสมบัติในการปกป้องทางเดินอาหาร
- ในข่ามีน้ำมันหอมระเหย เช่น Cineole, Methyl cinnamate, Myrecene และ Methyl eugneol ในปริมาณมากพอสมควร
- ประกอบด้วยสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นมากมาย เช่น ไพริดอกซิน ไรโบฟลาวิน วิตามินซี กรดแพนโทธีนิก ที่จำเป็นต่อร่างกาย
- ในรากยังประกอบด้วยแร่ธาตุในปริมาณที่พอดี เช่น เหล็ก โพแทสเซียม แมงกานีส ทองแดง ซีลีเนียม และแมกนีเซียม องค์ประกอบเหล่านี้ร่วมกันทำงานเพื่อให้ผิวหนังและเส้นผมแข็งแรง
Medicinal Uses การนำมาใช้
- ในยาอายุรเวท มีการสกัดข่าใช้เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัด อาการกรดในกระเพาะอาหาร อาการไอ และอาการเจ็บคอ
- มีการใช้ข่าที่แช่น้ำค้างคืนมาทาทับบริเวณที่มีเชื้อราเดอร์มาโทไฟต์
- สารสกัดจากข่าจะใช้รักษาอาการความอ่อนแอของเส้นประสาท และโรคประสาทเนื่องจากช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างระบบประสาท
- ใช้เพื่อทำความสะอาดปาก (กลิ่นปาก) และกระตุ้นความอยากอาหารและลดอาการปวดแผล
- การบริโภคชาข่าเป็นประจำจะช่วยเพิ่มสุขภาพของหัวใจ การเต้นของหัวใจ และการส่งเลือดไปยังอวัยวะสำคัญ
- ข่าเป็นพืชธาตุร้อน สามารถช่วยลดเสมหะ (Kapha) และลดอาการหอบหืดได้ในช่วงฤดูหนาว
- รากข่ายังถูกใช้โดยอ้างว่าเป็นยาโป๊ในยาแผนโบราณของอาหรับ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ใดที่รับรองการรักษาความผิดปกติทางเพศ
การเลือกและการจัดเก็บ
เช่นเดียวกับขิง ข่าสามารถปลูกได้ในสวนหลังบ้าน เพื่อให้สามารถเก็บรากที่สดไว้ใช้ได้ทันที ข่าสดมีจำหน่ายทั่วไปตลอดทั้ง อาจมีรากข่าสดในร้านค้าเฉพาะที่จำหน่ายเครื่องเทศและสมุนไพรเอเชีย
ซื้อรากที่สด สีเหลืองอ่อน ดูมีสุขภาพดีขนาดประมาณนิ้วโป้ง รากสดส่งกลิ่นหอมราวกับขิงเมื่อจับใกล้รูจมูก
รากสดควรแน่น ฉ่ำ และมีเปลือกสีเหลืองอ่อน หลีกเลี่ยงรากที่แตก ชื้น มีพื้นผิวเป็นเมือก มีแมลงสัตว์กัดต่อย นอกจากนี้ ให้หลีกเลี่ยงรากที่มีขนาดใหญ่ โตเต็มที่ เป็นเส้น ๆ ที่เป็นเนื้อไม้และเหี่ยวเฉา เนื่องจากพวกมันมักจะมีความฉ่ำน้อยกว่าและหมดสภาพไปแล้ว
ข่าสดสามารถเก็บได้นานถึง 2 สัปดาห์หากเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ แต่ต้องห่อด้วยกระดาษรองอบเพื่อให้ชื้นอยู่ตลอด
การเตรียมใช้ประกอบอาหาร
ล้างรากในน้ำเย็นและเช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่ม ลอกผิวออกโดยใช้เครื่องที่ปอก ปอกเปลือกภายนอกออก ข่าค่อนข้างแข็งกว่าขิง ดังนั้นจึงมักจะหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ (หั่นเป็นแว่น) หรือหั่นเป็นไม้ขีดสำหรับทำอาหาร เพราะมันแข็งกว่าขิง จึงควรปรุงให้นานกว่าขิงบ้าง
ข่าเป็นสารปรุงแต่งรสที่จำเป็นในการปรุงอาหารกวางตุ้งและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารทะเลและเนื้อสัตว์ มักจะโขลกด้วยหอมแดง ตะไคร้ กระเทียม และพริกเพื่อทำน้ำพริกรสเผ็ดสำหรับจิ้ม หรือทำเป็นซอส/แกง
- ข่าใช้แทนขิงในอาหารพื้นเมืองมากมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และกวางตุ้ง
- ในประเทศไทย จะหั่นข่าเป็นชิ้นลงในแกงต้มข่าไก่ เป็นต้มข่าไก่ใส่ตะไคร้และใบมะกรูด
- ที่เวียดนามจะใส่ข่าลงในซอสถั่วลิสงที่ใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ หรือทำสลัดผัก
- รากข่าเรียกอีกอย่างว่ารากลาวในอินโดนีเซีย เป็นเครื่องเทศสูตรเทมเป้ที่ใช้ทำอาหารทั้ง มังสวิรัติ ไก่ และอาหารทะเล
- ชาข่าเป็นเครื่องดื่มที่รับประมานกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศแถบเอเชีย
เรื่องความปลอดภัย
ข่า มีคุณสมบัติเป็นธาตุร้อนและใช้เพื่อปัดเป่าอาการหยิน (เย็น) การใช้งานในการตั้งครรภ์จึงถูกจำกัด น้ำมันหอมระเหยจากรากข่ามักทำให้เกิดโรคผิวหนังในคนที่บอบบาง
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก