ตาเเดง (Conjunctivitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ตาเเดง (Conjunctivitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา

07.10
3817
0

โรคเยื่อบุตาขาวอักเสบหรือ “โรคตาเเดง” เกิดขึ้นเมื่อเยื่อบุภายในดวงตาเกิดการอักเสบขึ้นจึงทำให้ตากลายเป็นสีชมพูหรือสีแดงเกิดอาการบวมและทำให้เกิดอาการระคายเคืองในดวงตาได้และบางครั้งอาจทำให้เกิดเมือกขึ้นในดวงตาได้อีกด้วย นอกจากนี้การติดเชื้อที่เยื่อบุตาสามารถเกิดการติดต่อได้สูง

เยื่อบุตาขาวคือเนื้อเยื่อของเซลล์ที่มีลักษณะบางหรือเป็นชั้นของเยื่อหุ้มเซลล์ที่อยู่ระหว่างใต้เปลือกตากับตาขาวการติดเชื้อที่เกิดขึ้นทำให้หลอดเลือดหรือเส้นเลือดฝอยมีขนาดเล็กลงทำให้เห็นเยื่อบุตาขาวชัดเจนขึ้นจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการระคายเคืองตาและมีสีชมพูหรือสีเเดงปรากฎขึ้น โดยอาการดังกล่าวนี้สามารถเกิดขึ้นได้นานหลายวันไปจนถึงหลายสัปดาห์

อาการตาแดงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุได้แก่อาการระคายเคืองในดวงตา การเเพ้และการติดเชื้อ ซึ่งในบทความนี้มุ่งเน้นไปที่เรื่องของการติดเชื้อที่เยื่อบุตาขาวเป็นหลัก

อาการของโรคตาแดง

อาการโรคตาแดงอักเสบได้แก่ 

  • มีอาการตาเเดงเกิดขึ้นเพราะเกิดอาการระคายเคืองและหลอดเลือดฝอยในเยื่อบุตาขยายขึ้น
  • มีน้ำตาไหลออกมาจากตามากเพราะต่อมน้ำตาเริ่มทำงานผิดปกติมากเกินไป
  • มีเปลือกตาหนาบวมขึ้นโดยเฉพาะตอนที่เพิ่งตื่นนอนเพราะการติดเชื้อเกิดเมือกขึ้น
  • มีอาการเจ็บปวดในดวงตาเเละมีความรู้สึกเหมือนมีเม็ดเข้าตากรวด
  • มีอาการตาบวมเนื่องจากการติดเชื้อหรือการขยี้ตา

อาการตาเเดงและอาการปวดตาอาจเกิดขึ้นกันที่ตาข้างใดข้างหนึ่งแล้วแพร่เชื้อไปยังตาอีกข้างหนึ่งได้

อาการอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้

ต่อมน้ำเหลืองบวมหมายถึงการที่ต่อมน้ำเหลืองที่อยู่หน้าใบหูเกิดอาการบวมขึ้นและค่อยจางหายไป ซึ่งอาจรู้สึกเหมือนมีตุ่มเกิดขึ้นที่ผิวหนังโดยต่อมน้ำเหลืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่ทำหน้าต่อสู้กับการติดเชื้อ

ระบบหายใจติดเชื้อหมายถึงผู้ที่มีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดเช่นมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยเเขนเเละขารวมไปถึงอาการเจ็บคอ

ผู้ที่มีอาการดังต่อไปนี้ควรไปพบแพทย์

  • ดวงตามีอาการเเดงมาก
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น
  • ดวงตาเกิดการเเพ้แสง

เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงความรุนเเรงของโรคที่เกิดขึ้น

เด็กทารกเกิดใหม่มักมีอาการตาเเดงและเปลือกตาบวม การไปพบเเพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันภาวะเเทรกซ้อนและรักษาอาการอื่นๆที่เกิดขึ้นได้ 

การรักษาโรคตาแดง

ในกรณีที่เกิดการติดเชื้อที่เยื่อบุตาขาวเกินกว่าขึ้นสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาจากเเพทย์ภายใน 2 สัปดาห์และแพทย์จะแนะนำให้รอคอยดูอาการไปก่อน

และแพทย์อาจให้ยารักษาโรคตาแดงที่เป็นยาหยอดตามาใช้ร่วมกับยาหดหลอดเลือด (decongestants) หรือยาต้านฮีสทีมีน (antihistamine) เพื่อลดอาการบวมเเละอาการระคายเคือง

ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อที่เยื่อบุตาขาว

ยาปฏิชีวนะไม่สามารถช่วยรักษาอาการที่เกิดจากไวรัสได้และแม้แต่การติดเชื้อจากแบคทีเรียอาจทำให้ต้องใช้ยาปฏิชีวนะมากกว่าหนึ่งเดือน ในงานวิจัยบางเรื่องพบว่า 1 ในผู้ป่วยจำนวนทั้งหมด 10 คนเมื่อได้รับยาปฏิชีวนะเเล้วสามารถหายจากอาการติดเชื้อได้เร็วขึ้น 

การรักษาได้แก่การใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะหรือยาต้านฮีสทามีน

อย่างไรก็ตามการใช้ยาปฏิชีวนะในการักษาอาจจะต้องระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์หรือมากกว่านั้น โดยแพทย์จะให้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะเพียงในกรณีที่ใช้ยาปฏิชีวนะเเล้วได้ผลดี

ยาปฏิชีวะส่วนใหญ่ที่ใช้รักษาโรคเยื่อบุตาขาวอักเสบได้แก่

  • ยา fluoroquinolones
  • ยา tetracyclines
  • ยา sulfonamides
  • ยา hloramphenicol

นอกจากยาหลอดตาหรือขี้ผึ้งป้ายตาที่สามารถนำมาใช้รักษาอาการนี้เเล้วสำหรับเด็กเล็กหรือเด็กทารกที่มีอาการตาอักเสบการใช้ขี้ผึ้งป้ายตาอาจดีกว่าการใช้ยาหยอดตา 

การมองเห็นภาพอาจหายไปในช่วงเวลาสั้นๆหลังจากที่ใช้ยาหลอดตา ควรมั่นใจว่าคุณมีการมองเห็นที่ชัดเจนก่อนขับรถหรือใช้เครื่องจักรกลต่างๆ ถ้าหากยังมีอาการมองเห็นภาพไม่ชัดอยู่ควรรีบกลับไปหาหมอ 

สาเหตุโรคตาแดง

การติดเชื้อในดวงตาสามารถเกิดจากไวรัสหรือแบคทีเรียได้

ไวรัสที่สามารถทำให้เกิดอาการตาติดเชื้อได้แก่เชื้อไวรัสอะดีโนและเชื้อไวรัสเริมบางประเภท

เชื้อเเบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้แก่ Staphylococcus aureus, Streptococcus pneumoniae, Haemophilus species, และ  Chlamydia trachomatis เป็นเชื้อชนิดนี้พบเป็นส่วนน้อย

บางครั้งการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่เยื่อบุตาขาวสามารถเกิดจากการติดเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์ได้ (STI) เช่นการติดเชื้อคลาไมเดีย (Chlamydia) ถ้าหากอาการอักเสบติดเชื้อไม่หายไปภายใน 1 เดือนสามารถระบุได้ว่าอาจเกิดจากติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เพราะโดยส่วนใหญ่การติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดอื่นอาการติดเชื้อมักหายได้เร็วกว่าเมื่อได้รับการรักษา

โรคตาเเดงติดเชื้อนี้สามารถติดต่อได้ง่ายมากและการติดเชื้อสามารถเเพร่กระจายสู่ผู้อื่นได้ง่ายมาก

นอกจากนี้โรคตาเเดงยังทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้

หนังตาอักเสบ (Blepharitis) โดยปกติเกิดจากการติดเชื้อที่เปลือกตาทำให้เกิดอาการตาเเดง คันตาและเกิดการระคายเคืองต่างๆ ซึ่งจะเกิดหนองสีขาวคล้ายกับรังแคอยู่ที่ขนตา หนังตาอักเสบเป็นโรคที่ไม่เกิดการติดต่อ

โรคต้อหินแบบเฉียบพลัน โรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นเนื่องจากอาการตาเเดงได้น้อยมากเพราะโรคต้อหินเกิดจากความดันในตาสูง อาการของโรคต้อหินเฉียบพลันที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้แก่ อาการเจ็บตา ตาแดงและสูญเสียการมองเห็นซึ่งอาการเหล่านี้สามารถคงอยู่ได้ถาวรหากไม่ได้รับการรักษา

โรคกระจกตาอักเสบเกิดขึ้นเมื่อกระจกตาเกิดการติดเชื้อซึ่งอาจทำให้เกิดแผลเน่าเปื่อย ถ้าหากมีเเผลเกิดขึ้นในกระจกตาสามารถทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ตลอดไป กระจกตาเป็นบริเวณที่โปร่งใสโดยอยู่ที่หน้าดวงตา

ม่านตาอักเสบเกิดจากการที่ม่านตาเกิดการติดเชื้อจนทำให้เกิดการอักเสบ การที่ไม่รักษาม่านตาอักเสบสามารถทำให้ม่านตาติดอยู่กับพื้นผิวด้านหน้าของเลนส์ลูกตาที่ทำหน้าที่ป้องการของเหลวระบายออกจากตาดำจึงทำให้ดวงตาถูกทำลายเเละเสียหายอย่างถาวร ม่านตาเป็นส่วนที่ทำให้ลูกตาเกิดสีขึ้นและเป็นส่วนที่ควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่ดวงตา   

ประเภทของโรคตาเเดง

โรคตาเเดงมี 3 ประเภทดังต่อไปนี้ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดโรค

โรคตาเเดงที่เกิดจากการระคายเคืองหรือสารเคมี บางครั้งการระคายเคืองในดวงตาสามารถทำให้เกิดอาการติดเชื้อได้และเจ็บปวดได้ ซึ่งอาการระคายเคืองอาจเกิดจากขนตาร่วงเข้าไในตาหรือสารคลอลีนที่อยู่ในสระว่ายน้ำ

โรคตาแดงที่เกิดจากอาการเเพ้อาการอักเสบชนิดเกิดขึ้นเมื่อมีสารก่อภูมิเเพ้เข้าไปสัมผัสกับดวงตาเช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้หรือขนสัตว์ โดยสารก่อภูมิเเพ้จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานตอบสนองกับสารก่อภูมิเเพ้มากเกินไปจนทำให้เกิดอาการระคายเคืองเเละการติดเชื้อ

โรคตาเเดงจากการติดเชื้อ การติดเชื้อจาแบคทีเรียหรือไวรัสสามารถทำให้เกิดอาการตาเเดงหรือตาเป็นสีชมพูและมีตาคลอเบ้าได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดเปลือกตาหนาเเละมีเมือกเกิดขึ้นที่ตาด้วย

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *