เมื่อมีเหตุให้ต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น ทำให้เกิดความละเลยที่จะสระผม ส่งผลให้ผมมันเยิ้ม ผมร่วง และเกิดความขี้เกียจที่จะดูแลผม หลายคนจึงสงสัยว่าคนเราควรสระผมบ่อยแค่ไหน
บางคนบอกว่าการสระผมทุกวันเป็นวิธีเดียวที่จะขจัดไขมันส่วนเกินได้ แต่หลายคนอาจใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์โดยไม่ต้องสระผม คาดว่าประเภทผมของแต่ละคนคือ ปัจจัยกำหนดความถี่ในการสระผม
ไม่ควรสระผมทุกวัน
แม้ว่าความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญจะแตกต่างกันในเรื่องนี้ แต่ส่วนมากจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสระผมที่มากเกินไป
การสระผมทุกวันจะทำให้ผมแห้ง และสร้างความเสียหายกับเส้นผม เพราะแชมพูส่วนมากมีสารเคมีที่รุนแรง เช่น ซัลเฟตที่ทำให้เกิดฟอง ดังนั้นโดยรวมแล้ว การสระผมที่บ่อยเกินไปจะทำให้ผมขาดน้ำมันตามธรรมชาติ และทำให้สีผมดูหมองคล้ำ
ความถี่ในการสระผมของผมแต่ละประเภท
ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากแนะนำให้สระผมทุก ๆ 2-3 วัน แต่ก็มีความแตกต่างกันไปตามประเภทของผม โดยทั่วไปแล้ว ผมสีน้ำตาลเข้ม และผมของคนเอเชียมักจะเป็นมันเยิ้มได้ง่าย จึงควรสระผมบ่อย ๆ ประมาณ 3 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์แต่ที่ผมทำสี ผ่านกระบวนการ Over-Processed หรือผมทรง Afro-Caribbean มีแนวโน้มที่ผมจะแห้ง จึงไม่จำเป็นต้องทำการสระผมบ่อย ๆ (ประมาณ 1 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์)”
ปัจจัยด้านการใช้ชีวิตก็สามารถส่งผลต่อความถี่ในการสระผมด้วย เช่น กัน ตัวอย่าง เช่น การออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมาก ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ อาจต้องการจำเป็นต้องสระผมบ่อยขึ้น
หากกำลังสระผมทุกวันอยู่ อาจต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัวให้เข้ากับระยะห่างที่ยาวขึ้น เนื่องจากต่อมน้ำมันที่ผมจะถูกกระตุ้นมากเกินไป ทำให้เกิด ‘ผมมันเยิ้ม’ ได้ แต่เมื่อสามารถขจัดความมันออกไปได้ ผมจะเริ่มปรับตัวใหม่ ทำให้สามารถเว้นระยะดารสระผมได้นานขึ้น โดยไม่รู้สึกว่าผมมันเยิ้ม
แต่หากไม่อยากรอนานเกินไป อาจพิจารณาใช้แชมพูแห้งทดแทน กรณีที่ไม่ได้สระผมนานเกินไป แบคทีเรียจะเจริญเติบโตขึ้นมาได้ การทดแทนด้วยแชมพูสระผมแบบแห้งอาจใช้เมื่อไม่ได้สระผมมานาน 3 – 4 วัน อย่างไรก็ตามเมื่อใช้แชมพูแห้งไปสัก 2 – 3 วัน ผลิตภัณฑ์จะเริ่มสะสม และจำเป็นต้องล้างออกไป หากยาสระผมแห้งสะสมมากเกินไปจะทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ ดังนั้นจึงควรใช้แชมพูแห้งเมื่อจำเป็นเท่านั้น เน้นที่โคนผม และบริเวณไรผม
การใช้แชมพูแห้งควรถือกระป๋องให้ห่างจากผมประมาณ 30 ซม. แล้วพ่นแชมพูเพียงบาง ๆ เท่านั้น การใช้ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ผมดูเยิ้ม และหนักได้
การใช้ยาสระผมเพื่อยืดเวลาในการสระผม
หากคุณมีปัญหาผมแห้งอยู่แล้ว การสระผมเป็นประจำจะทำให้ผมแห้งมากขึ้น และต้องจัดสไตล์ได้ยากขึ้น จึงต้องระมัดระวังในการเลือกน้ำยาสระผม
ซัลเฟตคือ ส่วนผสมที่ทำให้ผมแห้ง ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมที่ทำให้เกิดฟองในยาสระผม ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซัลเฟต พวกมันเป็นสารที่รุนแรงที่สามารถขจัดน้ำมัน และสารอาหารตามธรรมชาติออกจากเส้นผมได้
นอกจากการเลือกแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตแล้ว ผู้เชี่ยวชาญบางคนยังระบุว่าระดับค่า PH ของแชมพูก็ส่งต่อความถี่ในการสระผมด้วย ในกรณีที่ออกกำลังกายทุกวัน และไม่สามารถสระผมได้ทุกวัน ต้องแน่ใจว่าใช้แชมพูที่ใช้มีค่าPH ต่ำ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในเส้นผม ค่า PH ในแชมพูควรจะเป็นกรดอ่อน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมหลุดร่วงอย่างรุนแรง
วิธีการสระผมที่ถูกต้อง
ในระยะสั้น นอกจากการเลือกแชมพูที่ใช้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือ อุณหภูมิของน้ำ ในขณะที่ซัลเฟตสามารถดึงน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของเส้นผม และหนังศีรษะออกไปได้แล้ว การให้ความร้อนเพิ่มในขณะอาบน้ำก็ทำให้เกิดปฏิกิริยาเดียวกัน อุณหภูมิของน้ำที่เย็น จะช่วยให้สารเหล่านี้คงสภาพได้ดีอุณหภูมิของน้ำที่ใช้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญจริง แนะนำให้สระผมด้วยน้ำที่อุณหภูมิห้องเสมอ หากสะผมด้วยน้ำที่ร้อนเกินไป น้ำจะขจัดน้ำมันที่ผลิตจากธรรมชาติทั้งหมดที่มีหน้าที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง อย่างไรก็ดีการล้างด้วยน้ำเย็นในตอนท้ายสามารถเพิ่มความเงางามของเส้นผมได้
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก