

- บทความนี้จะกล่าวเกี่ยวกับเทคนิคการลดพุงทำอย่างไร
- 1. พยายามลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตแทนการลดไขมัน
- 2. วางแผนการรับประทาน ไม่ใช่อดอาหาร
- 3. ออกกำลังกาย
- 4. การยืดและยกน้ำหนัก
- 5. อ่านฉลากก่อนบริโภค
- 6. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
- 7. พิจารณาจากการสวมใส่เสื้อผ้า มากกว่าส่องกระจก
- 8. ออกไปเที่ยวกับเพื่อนที่รักสุขภาพ
- คำจำกัดความ
การดูแลรักษารูปร่างของคุณเองไม่เพียงแต่ทำให้คุณดูดี แต่ยังสามารถช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้นได้ รอบเอวที่กว้างขึ้นเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นของโรคหัวใจ เบาหวาน และแม้กระทั่งมะเร็ง การลดน้ำหนักโดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ช่วยเพิ่มการทำงานของหลอดเลือดและยังเพิ่มคุณภาพการนอนหลับอีกด้วย
เป็นเรื่องยากที่จะลดน้ำหนักเฉพาะส่วนหรือเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง แต่การลดน้ำหนักโดยรวมจะช่วยให้รอบเอวของคุณลดลงได้ ที่สำคัญกว่านั้นจะช่วยลดชั้นไขมันที่อยู่ภายใน ซึ่งเป็นไขมันที่คุณมองไม่เห็นและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ กล่าวโดย Kerry Stewart, Ed.D. ผู้อำนวยการคลินิกและสรีรวิทยาการวิจัยของ Johns Hopkins
บทความนี้จะกล่าวเกี่ยวกับเทคนิคการลดพุงทำอย่างไร
1. พยายามลดอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตแทนการลดไขมัน
เมื่อนักวิจัยของ Johns Hopkins เปรียบเทียบผลกระทบต่อหัวใจของการลดน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำและอาหารไขมันต่ำเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งแต่ละชนิดมีปริมาณแคลอรี่เท่ากัน ผู้ที่รับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำจะลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้ที่รับประทานอาหารไขมันต่ำประมาณ 10 ปอนด์ ซึ่งจากการทดลองพบว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำลดน้ำหนักได้ 28.9 ปอนด์ ส่วนอาหารไขมันต่ำลดได้ 18.7 ปอนด์ การรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าอาหารไขมันต่ำ Stewart กล่าว การลดน้ำหนักลงระดับไขมันจะมีการลดลงด้วย แต่ก็มักจะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลที่ไม่พึงประสงค์ ในการลดน้ำหนักทั้งสองวิธีข้างต้นจะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปประมาณ 2 ถึง 3 ปอนด์พร้อมกับไขมัน ซึ่งหมายความว่าการทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำทำให้สูญเสียไขมันส่วนเกินได้มากกว่าและลดพุงได้
2. วางแผนการรับประทาน ไม่ใช่อดอาหาร
คุณต้องวางแผนการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ที่คุณสามารถปฏิบัติได้จริงประโยชน์ของการทานคาร์โบไฮเดรตต่ำเป็นการเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี โดยไม่จำเป็นต้องนับแคลอรี่ โดยทั่วไปการรับประทานคาร์โบไฮเดรตต่ำจะเปลี่ยนการบริโภคของคุณให้ห่างไกลจากอาหารที่มีปัญหา ซึ่งได้แก่ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง และอาหารที่ไม่มีเส้นใยมาก เช่น ขนมปัง ขนมปังเบเกิลและโซดา ทางเลือกที่ดีในการทานอาหารเส้นใยสูงหรือโปรตีนสูง คือ อาหารจำพวกผัก ถั่ว และเนื้อสัตว์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ นับว่าเป็นอาหารลดหน้าท้องได้
3. ออกกำลังกาย
วิธีลดหน้าท้องโดยการออกกำลังกายช่วยเผาผลาญไขมันหน้าท้อง “ประโยชน์ที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของการออกกำลังกายคือทำให้คุณมีร่างกายที่สมส่วน ” Stewart กล่าว การออกกำลังกายจะช่วยลดไขมันหน้าท้อง เนื่องจากช่วยลดระดับการไหลเวียนของอินซูลิน ซึ่งจะส่งสัญญาณให้ร่างกายต้องการใช้ไขมันมากขึ้นและทำให้ตับมีการดึงไขมันมาเผาผลาญมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันที่สะสมในอวัยวะภายในช่องท้อง รวมไปถึงลดหน้าท้องด้วย
ความถี่ในการออกกำลังกายสำหรับการลดน้ำหนักจริงๆแล้วขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ สำหรับคนส่วนใหญ่ควรออกกำลังกายระดับปานกลางถึงหนัก โดยใช้เวลา 30 ถึง 60 นาที ในแต่ละวัน วิธีออกกำลังกายลดไขมันหน้าท้องที่ได้ผลคือการซิทอัพนั่นเอง
4. การยืดและยกน้ำหนัก
เพิ่มการออกกำลังกายแบบแอโรบิคระดับปลานกลางด้วยการยืดและยก สามารถเพิ่มมวลกล้ามเนื้อได้ ทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นทั้งในขณะพักและในขณะออกกำลังกาย
5. อ่านฉลากก่อนบริโภค
เปรียบเทียบอาหารแต่ละยี่ห้อ ยกตัวอย่างเช่นโยเกิร์ตบางยี่ห้อ ที่ฉลากระบุว่ามีไขมันต่ำ แต่จริงๆแล้วอาจจะมีคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลสูงก็ได้ อาหารจำพวกเกรวี่ มายองเน็ต ซอสหรือน้ำสลัด มักจะมีไขมันที่ค่อนข้างสูงทำให้มีแคลอรีสูงขึ้นด้วย
6. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป
ส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหารแปรรูปและอาหารขบเคี้ยว มักจะมีไขมันทรานส์ มีการเติมน้ำตาล เติมเกลือ ซึ่งสามสิ่งนี้เป็นอุปสรรคในการลดน้ำหนัก
7. พิจารณาจากการสวมใส่เสื้อผ้า มากกว่าส่องกระจก
เมื่อคุณมีมวลกล้ามเนื้อที่มากขึ้นและไขมันหน้าท้องลดลง การส่องกระจกในห้องน้ำดูอาจไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก แต่กางเกงของคุณอาจจะหลวมลง นั่นเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงถึงความก้าวหน้าในการลดน้ำหนัก ในผู้หญิงควรมีรอบเอวน้อยกว่า 35 นิ้ว ส่วนในผู้ชายที่ต้องการลดไขมันน้ำหนักและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ควรมีรอบเอวน้อยกว่า 40 นิ้ว
8. ออกไปเที่ยวกับเพื่อนที่รักสุขภาพ
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าคุณมีแนวโน้มที่จะกินอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น และออกกำลังกายมากขึ้น หากเพื่อนและครอบครัวของคุณทำเช่นเดียวกัน
คำจำกัดความ
อินซูลิน Insulin (in-suh-lin): เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเซลล์ตับอ่อน อินซูลินช่วยในการดูดซึมน้ำตาลเข้าสะสมในร่างกาย ถ้าคุณเป็นโรคเบาหวานหรือตับอ่อนของคุณไม่สามารถสร้างฮอร์โมนนี้ได้ คุณอาจได้รับยาที่ช่วยในการดูดกลับน้ำตาลจากในเลือดเพื่อสะสมไว้ในตับ หรืออาจได้รับการฉีดอินซูลินเพื่อรักษา
เส้นเลือด Blood vessels (veh-suls): ระบบหลอดเลือดที่มีความยืดหยุ่นสูงประกอบไปด้วยหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ ทำหน้าที่ในการลำเลียงเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ออกซิเจนและสารอาหารถูกขนส่งผ่านหลอดเลือดฝอย ผนังหลอดเลือดทำหน้าที่ในการส่งออกซิเจนเข้าไปในเชลล์และรับของเสียหรือคาร์บอนไดออกไชน์กลับไปยังหัวใจและหายใจเอาก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ออก
หลอดเลือดแดง Arteries (are-te-rease): คือหลอดเลือดที่ขนส่งออกซิเจนจากหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย มีลักษณะบางมาก ผนังหลอดเลือดมีสามชั้นมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อช่วยให้เลือดสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก