โรคอัมพาต (Paralysis) : ประเภท สาเหตุการรักษา

โรคอัมพาต (Paralysis) : ประเภท สาเหตุการรักษา

17.10
9077
0

ภาวะอัมพาตหมายถึงอาการผิดปกติของกล้ามเนื้อที่ทำให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนไหวได้ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบชั่วคราวเเละถาวร

Paralysis

โรคอัมพาตคือ

โรคอัมพาต Paralysis คือภาวะที่กล้ามเนื้อของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติซึ่งสามารถเกิดขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายหรือหลายส่วน ซึ่งอาการนี้เป็นผลมาจากการความเสียหายที่เกิดขึ้นในระบบประสาท 

ระบบประสาทเเบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่ 

  • ระบบประสาทส่วนกลาง (CNS) ได้แก่สมองและกระดูกสันหลัง
  • ระบบประสาทส่วนปลาย (PNS) ประกอบด้วยเส้นประสาทที่อยู่ภายนอกของระบบประสาทส่วนกลาง 

เซลล์ประสาทหรือ neuron ในระบบประสาทส่วนปลายทำหน้าที่หลายอย่าง

เซลล์ประสาทสั่งการ (Motor neurons) ตัวอย่างเช่นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อโดยประสาทสัมผัสจะทำหน้าที่ส่งข้อมูลเกี่ยวกับแรงกดดัน อาการเจ็บปวดและอุณหภูมิไปยังระบบประสาทส่วนกลาง (CNS)

ภาวะอัมพาตเกิดขึ้นเมื่อการส่งสัญญาณของระบบประสาทถูกรบกวนส่งผลทำให้เกิดความเสียหายกับเส้นประสาท กระดูกไขสันหลังหรือสมอง 

ประเภทของโรคอัมพาต

แพทย์ได้แบ่งประเภทของภาวะอัมพาตขึ้นอยู่กับลักษณะอาการที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ 

โรคอัมพาตรุนเเรง

หมายถึงภาวะที่กล้ามเนื้อสูญเสียการทำงานอย่างรุนเเรงมากจึงทำให้เกิดโรคอัมพาตรุนเเรง

โรคอัมพฤกษ์หรือเรียกว่าภาวะอัมพาตบางส่วนเกิดจากกล้ามเนื้อส่วนที่สำคัญอ่อนเเรงและไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือขยับได้ อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นโรคอัมพฤกษ์ยังคงสามารถขยับอวัยวะส่วนที่เป็นอัมพฤกษ์ได้เล็กน้อยหรือ 

โรคอัมพาตอย่างสมบูรณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยไม่สามารถขยับอวัยวะทุกส่วนของร่างกายได้

ระยะเวลาของการเกิดภาวะอัมพาต

ระยะเวลาของการเกิดโรคอัมพาตขึ้นอยู่กับการเกิดภาวะอัมพาตครั้งสุดท้าย 

โรคประจำตัวบางอย่างเช่นภาวะผีอำหรือไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะตอนที่นอนหลับ ภาวะเส้นเลือดในสมองแตก โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกแบบ (Bell’s palsy) สามารถทำให้เกิดอาการอัมพาตชั่วคราวได้ เมื่อเวลาผ่านไปหากอาการอัมพาตไม่สามารถหายไป กล้ามเนื้อส่วนที่เป็นอัมพาตอาจเกิดการติดเชื้อได้   

สาเหตุอื่นๆที่สามารถทำให้เกิดภาวะอัมพาตชั่วคราวได้แก่ภาวะโพเทสเซียมในเลือดสูงหรืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนเข้าออกของโพแทสเซียม ภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อจากการกลายพันธุ์ของยีน CACNA1S หรือ SCN4A 

ยีนเหล่านี้จะรับคำสั่งจากโปรตีนที่อยู่ในการเคลื่อนตัวของโซเดียมและประจุแคลเซียมและภายนอกกล้ามเนื้อ  การเคลื่อนที่ของไอออนภายในเซลล์กล้ามเนื้อช่วยทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งเเละทำให้อวัยวะเกิดการเคลื่อนไหว 

การที่ประจุไอออนถูกรบกวนจึงส่งผลกระทบทำให้กล้ามเนื้ออ่อนเเรงและเป็นอัมพาตได้ 

นอกจากนี้การบาดเจ็บอย่างรุนเเรงที่ศีรษะและคอสามารถทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับประสาทเเละกล้ามเนื้อได้จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคอัมพาตแบบถาวร 

ตำแหน่งที่เกิดโรคอัมพาต 

ตำแหน่งที่เกิดอัมพาตสามารถเกิดขึ้นได้กับส่วนเล็กๆของร่างกายได้แก่ใบหน้า มือหรือเท้า 

โดยปกติโรคอัมพาตทั่วไปเกิดขึ้นส่วนใหญ่บนร่างกายได้แก่อวัยวะหลายส่วนของร่างกาย

ประเภทของโรคอัมพาตได้แก่ 

  • โมโนพลีเจีย (Monoplegia) เป็นภาวะอัมพาตที่เกิดขึ้นกับแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง
  • เฮมิพลีเจีย (Hemiplegia) เกิดขึ้นที่แขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่งบนซีกข้างเดียวกันของร่างกาย หรือที่เรียกว่าโรคอัมพาตครึ่งซีก
  • พาราพลีเจีย (Paraplegia) หรือเรียกว่าอัมพาตช่วงล่างลำตัวซึ่งเป็นภาวะอัมพาตที่เกิดขึ้นกับขาทั้งสองข้างและบางครั้งสามารถเกิดขึ้นที่สะโพหและอวัยวะภายในช่องท้องด้านล่าง
  • ควอดริพลีเจีย (Quadriplegia) เกิดขึ้นที่แขนและขาทั้งสองข้างและบางครั้งสามารถเกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อบริเวณลำตัวรวมถึงอวัยวะภายในหรือทั้งสองที่ 

ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคอัมพาตชนิดพาราพลีเจีย (Paraplegia) 

ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ

อัมพาตแบบกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (Flaccid Paralysis) เกิดขึ้นจากการที่ระบบประสาทสั่งการที่ทำหน้าควบคุมกล้ามเนื้อกระดูกถูกทำลายเมื่อเวลาผ่านไปจึงทำให้กล้ามเนื้อหดเล็กลงหรือเสื่อมโทรม

โรคอัมพาตแบบกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก (Flaccid Paralysis) มักเป็นภาวะเเทรกซ้อนของโรคโปลิโอ ข้อมูลจากองค์กรควบคุมและป้องกันโรค (CDC)

นอกจากนี้ยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆเช่นการติดเชื้อในกระดูกสันหลังที่เรียกว่าไขสันหลังอักเสบและโรค  Guillain-Barré คือภาวะที่พบได้น้อย โดยเกิดจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเข้าไปทำลายระบบประสาทส่วนกลาง (PNS)

โรคอัมพาตแบบกล้ามเนื้อเกร็ง (Spastic Paralysis) เป็นสาเหตุทำให้เกิดกล้ามเนื้อหดเกร็ง เกิดการชักกระตุกของกล้ามเนื้อเองและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนเเรงซึ่งการเกิดขึ้นของโรคอัมพาตประเภทนี้สามารถทำให้กระดูกสันหลังได้รับบาดเจ็บ เกิดโรคระบบประสาทที่ส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อเอแอลเอส โรคเส้นเลือดในสมองหรือเกิดโรคอัมพาตครึ่งล่างแบบเกร็งที่เกิดจากกรรมพันธุ์  

อาการโรคอัมพาต

อาการของโรคอัมพาตเกิดขึ้นได้หลายแบบซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทและสาเหตุของโรคอัมพาต โดยส่วนอาการของโรคอัมพาตคือสูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย 

อาการอื่นๆที่เกิดขึ้นร่วมกับโรคอัมพาตได้แก่ 

  • เกิดความไม่รู้สึกหรืออาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับกล้ามเนื้อ
  • กล้ามเนื้ออ่อนเเรง
  • เกิดสัญญาณเตือนของภาวะกล้ามเนื้อลีบ
  • เกิดอาการเมื่อยล้า
  • เกิดอาการกล้ามเนื้อชักกระตุกเอง

สาเหตุของโรคอัมพาต

  • โรคเส้นเลือดในสมองเเตก
  • โรคกระดูกไขสันหลังอักเสบ
  • โรคอัมพาตสมอง
  • โรคปลอกประสาทเสื่อมเเข็ง

ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนเเรงและโรคอัมพาตเกิดจากระบบประสาทถูกทำลายจึงทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามที่กล่าวมา

ระบบประสาทที่เเข็งเเรงทำหน้าส่งข้อมูลไปกลับระหว่างสมองเเละอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย สัญญาณที่ส่งจากสมองจะถูกส่งลงมาที่กระดูกไขสันหลังและเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง (PNS) เพื่อกระจายสัญญาณไปทั่วร่างกาย

ระบบประสาททำหน้าที่ควบคุมระบบการทำงานของร่างกายหลายอย่างได้แก่ 

  • ระบบประสาทอัตโนมัติเช่นการหายใจและการย่อยอาหาร
  • การทำงานของกล้ามเนื้อเช่นการเดินและการเคี้ยว
  • ระบประสาทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับความรู้สึกเช่นความเจ็บปวด อุณหภูมิและการตรวจวัดความดัน

อาการบาดเจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของระบบประสาทในร่างกายซึ่งสามารถทำให้เกิดผลกระทบกับร่างกายอย่างร้ายเเรงและทำลายสุขภาพของผู้ป่วยรวมไปถึงคุณภาพในการใช้ชีวิตของผู้ป่วย 

สาเหตุที่สามารถทำให้ระบบประสาทเกิดความเสียหายและทำให้กล้ามเนื้ออ่อนเเรงหรือเกิดโรคอัมพาตได้แก่ 

  • เนื้องอกในสมองหรือกระดูกไขสันหลัง
  • การติดเชื้อเช่นเยื่อหุ้มสมอง ไขสมองอักเสบหรือโรคโปลิโอ
  • ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลังหรือการพัฒนาของสมองที่ผิดปกติของสมองหรือกระดูกไขสันหลัง
  • โรคเกี่ยวกับระบบประสาทอัตโนมัติเช่นโรคกล้ามเนื้ออ่อนเเรงเอแอลเอส (ALS)  
  • โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองได้แก่โรค Guillain-Barré และ โรคผิวหนังลูปัส
  • โรคความผิดปกติทางพันธุกรรมเช่นโรคกล้ามเนื้อร่วมกับระบบประสาทในเด็กและ อัมพาตเป็นระยะจากโพแทสเซียมในเลือดต่ำเกินหรือสูงเกินไป

การรักษาโรคอัมพาต

ปัจจับันยังไม่มีการรักษาโรคอัมพาต อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสาเหตุเเละประเภทของโรคอัมพาตที่เกิดขึ้นซึ่งผู้ที่เป็นโรคอัมพาตชั่วคราวอาการของโรคที่เกิดขึ้นสามารถหายไปได้เอง

โรคอัมพาตชั่วคราวทำให้เกิดปัญหาตามาเช่นโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s Palsy) หรือกล้ามเนื้อใบหน้าชักกระตุกที่อาการของโรคสามารถหายไปเองได้โดยที่ไม่ต้องเข้ารับการรักษา

นอกจากนี้ยังมีโรคอัมพาตที่เป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังหรือโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาทเรื้อรัง ที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อที่ขาดเส้นประสาทมาเลี้ยงบางส่วน

แม้ว่าการรักษาโดยเน้นการฟื้นฟูสภาพร่างกายไม่สามารถทำให้โรคอัมพาตหายไปได้แต่สามารถป้องกันไม่ให้อาการอัมพาตเลวร้ายลง

การรักษาโรคอัมพาตได้แก่ 

  • การทำกายภาพบำบัด
  • การทำกิจกรรมบำบัด
  • การใช้อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหวเช่น รถเข็น เครื่องช่วยพยุงและอุปกรณ์ช่วยเดิน 
  • การใช้ยารักษา
  • การผ่าตัดแขนหรือขา 
  • การตัดต่อย้ายเส้นประสาทจากส่วนอื่นเพื่อมาต่อกับส่วนปลายที่ขาดไป

การส่งเสริมสภาวะทางอารมณ์และการสนับสนุนทางสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผู้ป่วยมากที่สุด

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *