น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) คืออะไร

น้ำมันสำหรับทำอาหารที่ดีไม่เพียงแค่เพิ่มเติมเข้ามาชีวิตในในการทำอาการทั่วๆไปเท่านั้น แต่ประโยชน์น้ำมันรำข้าว (Rice bran oil) ยังมีบทบาทที่สำคัญต่อสุขภาพของเราด้วย น้ำมันสำหรับทำอาหารสามารถส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอล ช่วยแก้ไขโรคระบบการเผาผลาญหากมีการใช้น้ำมันทำอาหารอย่างถูกต้อง  อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบได้ด้วย ดังนั้นการเลือกใช้น้ำมันในการประกอบอาหารจึงถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่ง เมื่อช่วงสองสามปีที่ผ่านมา กีหรือเนยใส และน้ำมันที่ผ่านกระบวนการทางเคมีนั้นมีชื่อเสียงในทางไม่ดีว่าเป็นตัวการของการเกิดคอเลสเตอรอลและโรคหัวใจ ดังนั้นเพื่อสุขภาพคนเราจึงเริ่มมองหาน้ำมันชนิดใหม่ และก็พบว่าน้ำมันที่ค่อยๆไต่ชาร์จสุขภาพขึ้นมาอย่างช้าๆคือน้ำมันรำข้าวนั่นเอง 

น้ำมันรำข้าวทางเลือกใหม่ของการประกอบอาหาร

Dr. Ritika Samaddar, Chief Dietician at Max Healthcare กล่าวว่า “น้ำมันรำข้าว คือ น้ำมันประกอบอาหารที่เข้ามาใหม่ และบางทีอาจดีต่อสุขภาพมากที่สุด ด้วยเหตุผลหลายอย่างหนึ่งในนั้น คือ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่ และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีสัดส่วนที่สมดุลกัน น้ำมันรำข้าวมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่ 37% และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 45%  เป็นอัตราส่วนเกือบ 1:1″

“น้ำมันรำข้าวทำมาจากรำข้าวที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็น สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือน้ำมันำข้าวนั้นถูกและสามารถผลิตได้มากในอินเดีย น้ำมันที่แตกต่างกันก็มีองค์ประกอบของไขมันที่แตกต่างกันและยังมีความสามารถในการทนต่อความร้อนที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกหยิบน้ำมันประกอบอาหารขึ้นมาสักขวด”

สรรพคุณน้ำมันรำข้าว

1. มีกลิ่นหอม เปลือกชั้นนอกของเมล็ดข้าวที่เรียกว่ารำข้าวและน้ำมันที่สกัดได้มาจากแกลบหรือเปลือนอกสีน้ำตาลจะทำให้มีรสชาติอ่อนๆและมีกลิ่นหอม รสชาติของน้ำมันรำข้าวจะไม่ส่งผลต่อรสชาติของอาหารอินเดียและคุณสามารถนำน้ำมันทำอาหารไปใช้ในการทำคุ้กกี้หรือเค้กได้ และด้วยการที่มีกลิ่นถั่วอ่อนๆจึงเหมาะเป็นน้ำมันสำหรับทอด ย่าง หมักและใช้ทำน้ำสลัดก็ดีเยี่ยม ซึ่งสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์  
2. มีไขมันดีเป็นส่วนประกอบ ทางThe National Institute of Nutrition และ The Indian Council of Medical Research ได้แนะนำว่าน้ำมันชนิดนี้นั้นมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีสัดส่วนที่สมดุลกัน  น้ำมันรำข้าวอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวพันธะคู่และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและปราศจากไขมันทรานส์
3. ดีต่อหัวใจ น้ำมันรำข้าวอาจช่วยลดคอเลสเตอรอลให้ลดต่ำลงได้เพราะสารโอรีซานอลที่มีปริมาณที่พอดีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเป็นส่วนประกอบ ซึ่งช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลและเพิ่มการกำจัดคอเลสเตอรอล 
4. ช่วยคอเลสเตอรอลให้ต่ำลง The American Heart Associationและ The World Health Organization (WHO) ได้แนะนำว่าน้ำมันรำข้าวคือตัวตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับระดับเซรั่มคอเลสเตอรอลให้ดีขึ้น
5. มีจุดเกิดควันสูง น้ำมันรำข้าวมีจุดเกิดควันสูง ซึ่งสูงสุดอยู่ที่  254C หรือ 490F ซึ่งเหมาะสำหรับการทอดหรือการทอดแบบน้ำมันท่วม อีกทั้งยังมีคุณค่าทางโภชนาการแม้จะมีอุณหภูมิสูง ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าอาหารที่ผ่านการปรุงสุกด้วยจุดเดือดน้ำมันที่มีอุณหภูมิสูงนี้มีการดูดซับน้ำมันน้อยมาก
6. มีความมันน้อย น้ำมันรำข้าวมีความเหนียวข้นหนืดน้อย ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะไม่ติดกับอาหารเพราะเป็นน้ำมันที่มีการดูดซึมน้อย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องเลือกการใช้น้ำมันอย่างระมัดระวัง อีกทั้งยังช่วยทำให้ลิ้นสัมผัสความมันได้น้อยลงด้วย 
7. อุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังและมีคุณสมบัติต้านการกลายพันธุ์ซึ่งเป็นการช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ วิตามินอียังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
8. ช่วยในการลดน้ำหนัก น้ำมันรำข้าวมีสารต้านต้านอนุฒุลอิสระตามธรรมชาติอยู่ในระดับที่สูงมากซึ่งช่วยเสร้มสร้างอัตราการเผาผลาญของร่างกายและส่งผลในการลดน้ำหนักตัว สารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูงนี้ไม่มีแค่ทำให้น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยไม่ให้มีกลิ่นหืนและเกิดการเสื่อมเสีย จึงทำให้มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้น
9. ดีต่อผิวพรรณ สารสควาลีนคือสารที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งที่อยู่ในน้ำมันรำข้าว ซึ่งดูดซึมได้ง่ายโดยผิวหนังและช่วยทำให้ผิวนุ่มนวล และเรียบเนียน
10. มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เพราะมีสารต้านการอักเสบจึงพบว่าการบริโภคน้ำมันรำข้าวสามารถช่วยลดผลกระทบจากอาการช่วงวัยทองเช่นอาการร้อนผ่าวได้