

ผ้าอนามัยแบบสอด
คำถามเรื่องการใส่ และถอดผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเรื่องที่พูดกันอยู่ตลอดเวลา แต่เราคิดว่ามันก็เหมือนกับการขี่จักรยาน แน่นอน ในครั้งแรกมันอาจดูน่ากลัว แต่หลังจากนึกภาพออก หรือมีการใส่บ่อยๆเข้า ทุกอย่างก็จะเป็นไปเองตามธรรมชาติ
หากเป็นการใส่ครั้งแรกของคุณ คุณอาจต้องกางแผ่นคำแนะนำวิธีการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดเปิดๆปิดๆครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่ออ่านทุกๆขั้นตอนตามคำแนะนำที่ให้มาในกล่องผ้าอนามัยแบบสอด มันเป็นการเริ่มต้นที่ดีแต่บางครั้งก็อาจจะดูมากเกินไป
วิธีใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
ก่อนเริ่มต้นการใส่ผ้าอนามัย สิ่งที่สำคัญคือ การทำความคุ้นเคยกับส่วนต่างๆของผ้าอนามัยแบบสอด และอุปกรณ์เสียก่อน เพราะมันไม่ได้มีแค่ชิ้นเดียว
สำหรับมือใหม่ ผ้าอนามัยแบบสอดจะมีตัวผ้าอนามัย และเชือก ซึ่งปกติมักทำมาจากคอตต้อน เรยอน หรือคอตต้อนออแกนิค
ผ้าอนามัยจะมีรูปทรงกระบอกขนาดเล็กที่มีขนาดพอดีกับช่องคลอด วัสดุจะถูกบีบแน่น และจะขยายเมื่อเปียก
ส่วนตัวเชือกคือ ส่วนที่จะยื่นออกมานอกมดลูกเพื่อให้คุณไว้ดึงเพื่อนำออก
อุปกรณ์ Applicator ที่พันรอบผ้าอนามัยแบบสอด และเชือกคือ รูปทรงกระบอกมีที่จับ และตัวดันไว้ดันผ้าอนามัย
ตัวดันจะเป็นตัวช่วยดันผ้าอนามัยออกจากแท่ง Applicator คุณสามารถทำได้โดยจับตรงที่จับไว้ด้วยปลายนิ้วชี้ และใช้นิ้วอีกนิ้วดันตรงปลายตัวดัน
ชนิดของ Applicator สำคัญหรือไม่
จริงๆแล้วเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน ผ้าอนามัยแบบสอดบางชนิดสามารถสไลด์เข้าไปได้ง่ายกว่ายี่ห้ออื่นๆ
สำหรับผู้เริ่มต้น Applicator ชนิดกระดาษดั้งเดิมอาจทำให้ไม่สบายตัวได้มากกว่าชนิดอื่นๆเพราะว่า แข็ง และยากในการสไลด์เข้าไปในช่องคลอด
Applicator พลาสติกจะสามารถสไลด์เข้าไปได้ง่ายกว่าเพราะวัสดุที่เรียบเนียน และมีรูปทรงกลม
จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่นไหม
ไม่จำเป็น ตามปกติแล้วของเหลวในช่วงมีประจำเดือนก็มากพอในการหล่อลื่นช่องคลอดสำหรับการสอดผ้าอนามัยแบบสอดอยู่แล้ว
การใส่ผ้าอนามัยแบบสอดทำอย่างไร
ตอนนี้คุณก็คุ้นเคยกับส่วนต่างๆของผ้าอนามัยแล้ว ก็ถึงเวลาใส่ผ้าอนามัยกันแล้ว คุณอาจเคยอ่านคำแนะนำที่ให้มาในกล่องบ้างแล้ว แต่ตอนนี้เรามาทบทวนกันดูอีกครั้ง
ขั้นแรก และเป็นส่วนที่สำคัญมากที่สุดคือ ล้างมือให้สะอาด คุณต้องมั่นใจว่าคุณจะไม่แพร่เชื้อโรคใดๆ เข้าไปในช่องคลอด ถึงแม้คุณจะคิดว่าคุณไม่ได้เข้าใกล้สัมผัสกับบริเวณดังกล่าวก็ตาม
ต่อไปเมื่อผ่านขั้นที่หนึ่งไปแล้ว คุณอาจต้องการเห็นภาพตามคำแนะนำ หยิบกระจกมาหนึ่งบาน และอยู่ท่าทีที่สะดวกสบาย สำหรับบางคนอาจอยู่ในท่างอเข่าลงเล็กน้อย หรือบางคนอาจเลือกท่านั่งบนโถชักโครก
เมื่อคุณอยู่ในท่วงท่าที่สบายแล้วก็ถึงเวลาสอดใส่ผ้าอนามัย
หาช่องคลอดแล้วสอดอุปกรณ์ Applicator เข้าไป ค่อยๆดันตัวดันเข้าไปเรื่อยๆเพื่อดันให้ผ้าอนามัยเข้าไปสู่ช่องคลอด
เมื่อผ้าอนามัยเข้าไปแล้ว ให้คุณดึงเอา Applicator ออกแล้วนำไปทิ้ง
ผ้าอนามัยแบบสอดชนิดไม่มี Applicatorใส่อย่างไร
ขั้นตอนแตกต่างกันออกไปเพียงเล็กน้อย แทนที่เราจะสอดผ้าอนามัยเข้าไปด้วย Applicator แทนที่กันคุณก็ใช้นิ้วของคุณเป็นตัวดันผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอดเอง
ขั้นแรก ล้างมือให้สะอาด เรื่องนี้มีความสำคัญมากเมื่อเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบสอดชนิดไม่มี Applicator เพราะคุณจะต้องใช้นิ้วของคุณเป็นตัวใส่ผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอด
แกะผ้าอนามัยออกจากห่อ อีกครั้งคือ อยู่ในท่าที่คุณรู้สึกสะดวกสบายที่สุด
จากนั้นใช้นิ้วของคุณทำหน้าที่เป็นตัวดัน และดันตัวผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอด คุณอาจดันมันได้อยากกว่าคุณคิดดังนั้นให้ใจเย็นๆ
ข่าวดีก็คือ การไม่มี Applicator คือ ไม่มีอะไรให้คุณโยนทิ้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องหาถังขยะไม่ได้
ต้องทำอย่างไรกับเชือกที่เหลือ
เชือกไม่มีผลใดๆ ตามปกติเชือกมักทำมาจากวัสดุเดียวกันกับผ้าอนามัย ซึ่งจะไม่ส่งผลใดๆต่อช่องคลอดของคุณ
คนมักจะปล่อยให้เชือกไว้บนกางเกงชั้นในเพื่อง่ายต่อการนำออกมาทิ้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ความสะดวกสบายของแต่ละบุคคล
หากคุณเลือกจะดันเชือกใส่ไว้ในช่องคลอด แทนที่จะแค่ไว้บนกางเกงชั้นใน ให้ระวังว่าบางทีอาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการหาเชือกเพื่อจะดึงผ้าอนามัยออกมาในภายหลัง
เมื่อสอดเข้าไปแล้วควรรู้สึกอย่างไร
เมื่อคุณใช้ในครั้งแรก หากผ้าอนามัยอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง บางทีคุณอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่บางทีอย่างน้อยคุณอาจรู้สึกถึงการถูไถของเชือกที่หลงเหลือค้างไว้บ้าง
จะรู้ได้อย่างไรว่าใส่ถูกตำแหน่งแล้ว
หากมีการสอดถูกตำแหน่งคุณไม่ควรรู้สึกใดๆ แต่หากว่าคุณสอดผ้าอนามัยไม่ลึกมากพออาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวได้
เพื่อทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้น ให้ล้างมือแล้วดันผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอดให้ลึกกว่าเดิม
ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดบ่อยแค่ไหน
ตามคำแนะนำของ Food And Drug Administration (FDA) คือ ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุกๆ 4-8 ชั่วโมง ไม่ควรทิ้งไว้นานเกินกว่า 8 ชั่วโมง
หากจะเปลี่ยนก่อน 4 ถึง 8 ชั่วโมงสามารถทำได้เพียงแต่แค่ช่วงเวลาเท่านั้นผ้าอนามัยอาจจะยังซึมซับได้ไม่มากพอ
หากคุณพบว่ามีเลือดซึมผ่านผ้าอนามัยออกมาก่อน 4 ชั่วโมง คุณอาจต้องเลือกชนิดที่ซึมซับได้มากขึ้น
จะเป็นอย่างไรหากทิ้งไว้นานเกินกว่า 8 ชั่วโมง
หากคุณใส่ไว้นานเกินกว่า 8 ชั่วโมง คุณอาจทำให้ตัวเองสุ่มเสี่ยงต่อกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก ซึ่งพบได้ยากมาก อาการท็อกซิกช็อกอาจเป็นสาเหตุให้อวัยวะเสียหาย ช็อก และพบได้น้อยมากๆคือ เสียชีวิต
เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดท็อกซิกช็อก ควรแน่ใจว่าจะไม่ใส่ผ้าอนามัยนานกว่าที่แนะนำ ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอดมากเกินกว่าที่จำเป็น
วิธีนำเอาผ้าอนามัยแบบสอดออก
เมื่อครบ 4 ถึง 8 ชั่วโมงคุณก็ควรนำผ้าอนามัยออก ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ Applicator อีกแล้ว หลายคนพบว่าเป็นเรื่องง่ายกว่าในการนำผ้าอนามัยออกมากกว่าการใส่
ขั้นแรก คุณต้องล้างมือให้สะอาด คุณอาจจะคิดว่าไม่น่าจะเกิดการติดเชื้อได้เพราะแค่ดึงเชือกออก แต่เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน
ถัดมาคือ อยู่ในท่าที่สะดวกสบายเหมือนเดิม เพื่อให้ง่ายในการนำออก
คราวนี้ก็ถึงเวลานำออกมา ให้ดึงเบาๆที่ปลายเชือกเพื่อนำเอาผ้าอนามัยออกมา
เมื่อนำเอาผ้าอนามัยออกมาจากช่องคลอด ให้ห่อผ้าอนามัยใช้แล้วอย่างดีด้วยกระดาษในห้องน้ำก่อนนำไปทิ้งลงในถังขยะ ผ้าอนามัยแบบสอดส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ระบบบำบัดน้ำเสียจะไม่สามารถกำจัดผ้าอนามัยได้ ดังนั้นจึงห้ามทิ้งผ้าอนามัยลงในชักโครก
สุดท้าย ล้างมือให้สะอาด สอดผ้าอนามัยอันใหม่เข้าไป เปลี่ยนไปใช้แบบแผ่น หรือใช้ต่อในแต่ละวันจนหมดรอบเดือน
ข้อวิตกกังวลอื่นๆ
หายไปได้ไหม!
เป็นไปไม่ได้ที่ผ้าอนามัยแบบสอดจะ “หายไป”ในช่องคลอดได้
ใส่มากกว่าหนึ่งอันเพื่อป้องกันเพิ่มได้ หรือไม่
ไม่ใช่ความคิดที่แย่นัก แต่แค่อันเดียวก็เพียงพอแล้ว การใส่มากกว่าหนี่งอันอาจทำให้เกิดความยุ่งยากในการนำออกหลังงจาก 4 ถึง 8 ชั่วโมง และอาจสร้างความรู้สึกไม่สบายตัวได้ด้วย
จะเป็นอย่างไรถ้าปัสสาวะโดนเชือก
เป็นเรื่องปกติ ตราบใดไม่มีการติดเชื้อเกิดขึ้น ยกเว้นนอกจากเสียว่าคุณเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ปัสสาวะของคุณจะปราศจากเชื้อแบคทีเรียดังนั้นจึงไม่ควรกังวลในเรื่องนี้
ภาพรวม
เหมือนการขี่จักรยาน การสอดใส่ และการนำผ้าอนามัยออกต้องทำบ่อยๆ มันอาจรู้สึกแปลกในครั้งแรก แต่เมื่อคุณทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมบ่อยๆ คุณก็จะรู้สึกชินและง่ายมากขึ้น
จำไว้ว่าผ้าอนามัยแบบสอดไม่ใช่ตัวเลือกตัวเดียวเท่านั้น ยังมีวิธีอื่นๆ เช่น การใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่น แบบถ้วย หรือแม้แต่กางเกงชั้นในสำหรับมีรอบเดือน
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก