พัฒนาการทารก 5 เดือน (5 Month Daby Development)

พัฒนาการทารก 5 เดือน (5 Month Daby Development)

31.05
1101
0

เมื่อทารกอายุได้ 5 เดือนจะเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของทั้งคุณและทารกของคุณ แพทย์และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในช่วงเดือนที่ 4-6 เป็นช่วงที่สำคัญมากของทารก ทั้งทางด้านร่างกาย พัฒนาการ และสติปัญญา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากเดือนที่ 5 เป็นต้นไป 

สิ่งที่ต้องรู้ 

ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะใช้เวลากับทารก 

  • ลงไปเล่นที่พื้นบ้าง  
  • เปิดเพลง 
  • ให้ทารกได้พักผ่อน

การใช้เวลากับทารกในช่วงเช้านั้นเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด เพราะจะเป็นช่วงที่พวกเขาตื่นตัว และมีความสุข การเล่นของเล่น หรือการพูดคุยกับทารกในตอนเช้าก่อนที่จะไปทำกิจวัติประจำวันจึงเป็นสิ่งที่ดีสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ 

ทารกของคุณจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ซึ่งคุณก็ควรที่จะเรียนรู้ไปกับพวกเขาด้วย การเล่นสนุกไปกับพวกเขาด้วย 

เด็ก 5 เดือนเปรียบเสมือนฟองน้ำ ที่ดูดซับข้อมูลทุกอย่างจากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวพวกเขา การเรียนรู้ภาษาจะเริ่มขึ้นในเดือนนี้ เพราะฉะนั้น นอกจากจะพูดคุย และอ่านหนังสือให้ลูกฟังเเล้วก็ควรจะเปิดเพลงด้วย แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเพียงแค่เพลงของทารกเท่านั้น 

เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ทารกต้องการเวลาพักผ่อน หลังจากผ่านการเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ มาทั้งวัน จึงควรปล่อยให้พวกเขาได้พักผ่อนในที่ ๆ เงียบสงบเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี 

ทารกของคุณกำลังเติบโต 

เมื่อทารกอายุได้ 5 เดือน ทารกจะมีน้ำหนักเป็น 2 เท่าจากตอนแรกเกิด หรือสำหรับทารกบางคนอาจมากกว่านั้น ซึ่งแตกต่างกันไปในทารกแต่ละคน แต่ในค่ามาตราฐาน ทารกจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 1 กิโลกรัม และสูงเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เซนติเมตร 

ทารกจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรก แต่บางครั้งก็ในช่วง 5-6 เดือน แล้วก็จะลดลง ตัวอย่างเช่น ทารกอาจมีน้ำหนักเพิ่มเป็น 2 เท่าภายใน 4-5 เดือน แต่จะเพิ่มเป็น 3 เท่าเมื่อครบ 1 ปีแล้ว 

พัฒนาการที่สำคัญต่าง ๆ 

ทารก 5 เดือนอาจกำลังเริ่มที่จะเข้าสู่การพัฒนาการเหล่านี้ หรือพัฒนาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นไปแล้ว พัฒนาการทารกแต่ละคนนั้นแตกต่างกันไป หากทารกของคุณคลอกก่อนกำหนด ช่วงเวลาอาจเเตกต่างไป การพัฒนาที่สำคัญของลูก 5 เดือนมีดังนี้ 

ร่างกาย

  • กลิ้งจากหน้าไปหลังได้ 
  • สามารถนั่งโดยที่มีตัวช่วยได้ หรือสามารถดันตัวเองขึ้นนั่งได้ 
  • เปลี่ยนท่าทางด้วยตัวเอง
  • ขาเริ่มรับน้ำหนักได้ 
  • ถือของเล่นได้
  • จับหัว และหน้าอกของตัวเอง
  • พยายามเอื้อมหยิบของที่เห็น
  • มองตามของสิ่งของได้ 
  • เริ่มกัดมือตัวเอง

สมอง

  • ทารกจะเริ่มเรียนรู้การกระทำต่าง ๆ เช่น การทำอาการตกจากเก้าอี้ หรือ การเตะขา ทารกอาจชอบการกระทำเหล่านั้น และทำมันซ้ำ ๆ เมื่อทารกอายุได้ประมาณ 4-6 เดือน ทารกจะรู้ว่าสิ่งของต่าง ๆ ที่พวกเขาไม่เห็น ไม่ได้หายไปตลอดไป ซึ่งหมายความว่า ทารกอาจร้องไห้หากไม่เห็นคุณ 
  • ทารกจะมีสายตาที่ดีขึ้น และจะรู้สึกสนุกไปกับการมองรูปร่าง รูปทรง รวมไปถึงสีต่าง ๆ 
  • เด็ก ๆ จะยิ้มให้คนอื่น และจดจำใบหน้าที่คุ้นเคยได้ 
  • ชอบเล่น
  • มีการแสดงออกทางสีหน้า เช่น ยิ้ม หรือขมวดคิ้ว 
  • ทารกจะพยายามเลียนแบบภาษาพูด 
  • ร้องไห้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป เช่น ร้องไห้เพราะหิว เบื่อ โกรธ หรือง่วง 
  • ตอบสนองต่อความรักโดยการยิ้ม 

5 month old baby

เมื่อไหร่ที่ต้องเป็นกังวล 

ถึงแม้ว่าทารกแต่ละคนจะมีพัฒนาการที่แตกต่างกัน แต่หากทารกมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์: 

  • ตาเหล่ 
  • น้ำหนักขึ้นน้อยกว่า 50% ของน้ำหนักแรกเกิด 
  • ไม่สามารถตั้งหัวขึ้นได้ 
  • ไม่สามารถลุกนั่งโดยมีความช่วยเหลือได้ 
  • ไม่สามารถเอามือหรือสิ่งของเข้าปากได้ 
  • ไม่ตอบสนองหรือไม่สนใจใบหน้าของคุณ 
  • มีตุ่มนูน 
  • ไม่ดูสิ่งของ หรือคนที่ขยับ 
  • ไม่ยิ้ม 

ชีวิตใน 1 วัน 

วันของทารกวัย 5 เดือนของคุณจะเริ่มขึ้นแต่เช้า ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเข้านอนตอนไหน และหลับไปนานเท่าไหร่ ตัวอย่างของชีวิต 1 วันเป็นดังนี้: 

  • 7 โมงเช้า—ตื่นนอน กินข้าวเช้า และเล่น 
  • 9 โมงเช้า—ของว่าง และงีบหลับ 
  • กลางวัน—อาหารกลางวัน ตื่นตัว เเละเล่น
  • บ่าย 2—งีบหลีบครึ่งชั่วโมง 
  • บ่าย 4 —เล่น และกินของว่าง งีบหลับสั้น ๆ 
  • 6 โมงเย็น—ให้นม
  • ทุ่ม – สองทุ่ม—เข้านอน 

หลังจาก  5 เดือนทารกบางคนนอนหลับในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมงต่อคืน นั่นหมายความว่า หากลูกของคุณเข้านอนเวลาหนึ่งทุ่ม พวกเขาก็จะตื่นนอนประมาณตี 4  

การนอนหลับ 

ในเดือนที่ 5 ค่าเฉลี่ยการนอนหลับของทารกจะอยู่ที่ประมาณ 11.5–14 ทุก 24 ชั่วโมง ซึ่งจำนวนชั่วโมงนี้ จะรวมไปถึงการงีบหลับ 30 นาที ถึงสองชั่วโมงระหว่างวันด้วย ในเดือนที่ 5-6 ทารกหลายคนจะหลับตลอดทั้งคืน ซึ่งนั่นหมายถึง 8-9 ชั่วโมงต่อคืน 

 เมื่อทารกของคุณเริ่มนอนหลับนานขึ้นในตอนกลางคืน และเริ่มที่จะกลับตัวได้แล้ว คุณอาจเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขาในช่วงกลางคืน เด็กวัยนี้จะสามารถกลิ้งตัวจากท้องไปข้างหลังได้ แต่ยังไม่สามารถทำจากหลังไปที่ท้องได้ เพราะฉะนั้น จึงควรให้ลูกนอนโดยวางให้หลังแนบกับที่นอน 

สุขภาพและความปลอดภัย 

ทารกควรจะได้รับการตรวจร่างกายเมื่ออายุครบ 4 เดือน แต่หากไม่ได้รับการตรวจ ก็สามารถพาไปตรวจในเดือนนี้ได้ เป็นการตรวจร่างกายที่สำคัญสำหรับระบบภูมิคุ้มกันของทารก 

หากคุณไปตรวจตามนัด ทารกของคุณไม่จำเป็นต้องเข้าตรวจอีกจนกว่าจะถึง 6 เดือน นอกเสียจากว่าลูกจะป่วย หรือมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ 

หากทารกป่วย และมีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส คุณควรรีบพาพวกเขาไปพบแพทย์ ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบถึงอาการอื่น ๆ ที่เด็กมีร่วมกับการมีไข้ เช่น งอแง หายใจลำบาก การอยากอาหารเปลี่ยนไป พฤติกรรมเปลี่ยน 

นอกจากจะวัดไข้แล้ว คุณควรทราบว่าอะไรที่จะสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุกน้อยมีไข้ได้ บางครั้ง การมีไข้ของทารกเป็นสัญญาณของการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษา แต่สิ่งที่สามารถทำได้คือ การอาบน้ำอุ่นให้พวกเขา หรือการทำห้ไข้ลดลงด้วยวิธีตามธรรมชาติ 

หากแพทย์อนุญาตให้ทานยาได้ คุณสามารถให้ยาลดไข้ (ไทลินอล)ทารกได้ตามปริมาณที่แพทย์แนะนำ ซึ่งขึ้นอยู่กับน้ำหนักของทารก ทารกไม่สามารถรับประทานไอบูโพรเฟ่นได้ จนกว่าพวกเขาจะมีอายุ 6 เดือน และทารกไม่สามารถรับประทานแอสไพรินได้ เพราะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเรย์ซินโดรม  

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *