สิว (Аcne) เกิดจากอะไร การเกิดสิวนั้นส่วนใหญ่แล้วสิวจะเกิดจากการอุดตันของผิวหนังบริเวณรูขุมขนที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้เกิดการอุดตันเกิดเป็นหัวสิว หรือบางกรณีที่มีการอักเสบจากแบคทีเรียในต่อมไขมัน มักพบในคนที่มีผิวมัน แต่ส่วนใหญ่จะพบในวัยรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
ระดับความรุนแรงของสิว
- ไม่รุนแรง (มีน้อย)
- ปานกลาง (มีเลือดคั่งอักเสบ)
- หรือรุนแรง (ซีสต์)
การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสภาพ
สาเหตุของการเกิดสิวคืออะไร
Acne สิวส่วนใหญ่เป็นภาวะฮอร์โมนที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนแอนโดรเจนนิกซึ่งโดยปกติจะมีมากในช่วงวัยรุ่น ความไวต่อฮอร์โมนดังกล่าวรวมกับแบคทีเรียบนผิวหนังและต่อมน้ำมันก็จะทำให้เกิดสิว และบริเวณที่มีสิวเกิดขึ้นบ่อยก็คือบริเวณใบหน้า หน้าอก ไหล่และหลัง สิวมีหลายประเภทเช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ และก้อนขนาดเล็ก
ซีสต์ สิวประเภทนี้จะทิ้งรอยแผลเป็นเอาใว้ด้วยหากไม่ดูแลรักษาให้ดี
แม้ว่าสิวนั้นจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ แต่ก็มีปัจจัยบางอย่างที่อาจจะกระตุ้นก่อให้เกิดปัญหาสิวได้
- ความผันผวนของระดับฮอร์โมนในช่วงที่มีประจำเดือนของผู้หญิง
- การรับประทานยาบางอย่าง
- การไม่รักษาสุขอนามัย
การรักษา
ประเภทของยาที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาสิว คือ ยาปฏิชีวนะ, เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์และเรตินอยด์ โดยจะพิจารณาจากความรุนแรงของสิว
Benzoyl peroxide มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในบริเวณที่เป็นสิว เปิดรูขุมขนที่อุดตัน โดยป้องกันเซลล์ที่ตายไปอุดตันรูขุมขน มีจำหน่ายทั่วไปสามารถหา ซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ เช่น Clearasil, Stridex , Benoxyl, PanOxyl, Persa gel ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ การระคายเคือง ผิวแห้งกร้าน
Retinoids คืออนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ เช่น Differin, Retin-A, Tazorac ใช้รักษาสิวหัวดำและสิวหัวขาว แผลของสิว สิวอักเสบและตุ่มหนอง Trifarotene (Aklief) สามารถใช้รักษาสิวที่รุนแรง ถึงแม้ยากลุ่มนี้แม้จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิว แต่ก็มีผลข้างเคียง ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือผิวแห้งและการระคายเคือง และที่สำคัญคือเป็นสารที่อันตรายอย่างยิ่งต่อคุณแม่ตั้งครรภ์โดยอาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตร ทารกพิการแต่กำเนิดได้
Antibiotics เป็นยาปฏิชีวนะทั้งที่ใช้ทาผิวหนัง(clindamycin,erythromycin) หรือนำมารับประทาน ช่วยควบคุมแบคทีเรียบนผิวหนังและลดการอักเสบในผิวหนัง ยาปฏิชีวนะนี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อรวมกับเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์หรือเรตินอยด์ isotretinoin retinoid (Absorica, Amnesteem, Claravis, Myorisan และ Zenatane) จะใช้กับผู้ที่มีอาการของสิวที่มีความรุนแรง Isotretinoin จะลดขนาดของต่อมน้ำมันซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการเกิดสิว จะลดน้อยลง ผลข้างเคียงคือผิวแห้ง, คอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ที่สูงขึ้นและ ผู้หญิงควรมีการคุมกำเนิดก่อนระหว่างและหลังการรักษา (ประมาณหนึ่งเดือน) ด้วยการใช้ isotretinoin จะต้องมีการทดสอบ คอเลสเตอรอล การตั้งครรภ์ ไตรกลีเซอไรด์ การทำงานของตับและการทำงานของไขกระดู และมีการติดตามตามระยะเวลาที่กำหนด (5 เดือนขึ้นไป) จะใช้ในการรักษาสิวที่มีอาการรุนแรงที่สุดกรณีที่ไม่มีการตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ
Hormone therapy การรักษาด้วยฮอร์โมนจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้หญิง การรักษาด้วยฮอร์โมนจะประกอบด้วยเอสโตรเจนขนาดต่ำและโปรเจสเตอโรน (ยาคุมกำเนิด) หรือยาต้านแอนโดรเจน (spironolactone)
สิวสามารถป้องกันได้อย่างไร
เพื่อป้องกันการเกิดสิวและลดความเสียหายต่อผิวของคุณให้ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรพิเศษสำหรับสิว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีกรดซาลิไซลิกหรือเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ซึ่งช่วยล้างแผลสิว
- ทำความสะอาดใบหน้าอย่างเบามือเพราะการบาดเจ็บของสิวอาจทำให้สิวแย่ลงหรือทำให้เกิดแผลเป็น เมื่อล้างหน้าให้ใช้มือหรือแผ่นสำลีเช็ดหน้าเบา ๆ
- หากคุณต้องการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิวซึ่งไม่ทำให้สิวรุนแรงขึ้น
- หากคุณเป็นผู้หญิงให้ใช้รองพื้นแบบไม่มีน้ำมัน เครื่องสำอางที่มีน้ำมันมากหรือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ที่ไปปิดกั้นรูขุมขนอาจทำให้เกิดสิวลุกลาม
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/symptoms-causes/syc-20368047
- https://www.nhs.uk/conditions/acne
- https://www.healthline.com/health/skin/acne
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก