อัลโลพูลินอล (Allopurinol) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

อัลโลพูลินอล (Allopurinol) : วิธีใช้ และข้อควรระวัง

15.06
4487
0

ยาลดกรดยูริค หรือ Allopurinol คือ ยารักษาโรคเก๊า และนิ่วในไตบางชนิด ทั้งยังใช้ในการป้องกันการเพิ่มขึ้นของกรดยูริคในผู้ช่วยที่รักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยเหล่านี้สามารถมีปริมาณกรดยูริคที่สูงขึ้นได้ เนื่องมาจากเซลล์มะเร็งที่ตาย การเพิ่มขึ้นของกรดยูริคอาจทำให้เกิดโรคเก๊า หรือมีปัญหาเกี่ยวกับไต 

Allopurinol ใช้อย่างไร 

ยาชนิดเม็ดรับประทาน โดยปกติแล้วจะรับประทาน  1 ครั้งต่อวัน หลังอาหาร หากจำเป็นต้องรับประทานมากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน คุณอาจต้องแบ่งรับประทานหลายครั้งระหว่างวัน ยานี้สั่งจ่ายโดยแพทย์ 

ควรดื่มน้ำตาม 1  แก้ว หลังรับประทานยา และดื่มน้ำ 8 แก้วในวันนนั้น แต่หากแพทย์แนะนำให้คุณดื่มน้ำน้อยกว่านั้นให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ 

ปริมาณยาที่รับประทานจะขึ้นอยู่กับโรค และการตอบสนองต่อยาของแต่ละบุคคล ยานี้ต้องใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผล 

สำหรับการรักษาเก๊า อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าที่ยาออกฤทธ์ และอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่อาการของเก๊าจะดีขึ้นหลังจากที่ร่างกายขับกรดยูริคส่วนเกินออกไปแล้ว Allopurinol ไม่ใช่ยาแก้ปวดที่ใช้รักษาอาการปวดจากเก๊า แพทย์จะสั่งจ่ายยาอื่นที่ใช้แก้ปวดแทน เช่น Colchicine Ibuprofen Indomethacin

ผลข้างเคียง

อาการท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้ ท้องเสีย หรือง่วงนอนอาจเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จาาการใช้ Allopurinol หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วยควรพบแพทย์ หรือเภสัชกรในทันที ผู้ป่วยที่ใช้ยานี้หลายคนไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรง 

ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากมีอาการข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อย แต่รุนแรงเหล่านี้: ชา ที่ขา หรือแขน เลือดออกง่าย ช้ำง่าย เหนื่อยผิดปกติ หรือมีสัญญาณของปัญหาเกี่ยวกับไต (เช่น ปัสสาวะปลี่ยนสี  แสบปวด หรือเป็นเลือด) ผิว หรือตาเหลือง ปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้อาเจียนอย่างต่อเนื่อง ฉี่สีเข้ม น้ำหนักลดผิดปกติ เจ็บตา การมองเห็นเปลี่ยนไป 

ยานี้อาจทำให้เกิดผื่น แต่ไม่ใช่อาการที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่สามารถบอกได้ว่าผื่นที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณของปฏิกริยาแพ้ที่รุนแรงหรือไม่ ควรพบแพทย์ทันทีเมื่อเกิดผื่นขึ้น 

การแพ้ยานี้อาย่างรุนแรงนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก อย่างไรก็ตาม พบแพทย์ทันทีเมื่อเกิดอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น ไข้ ต่อมน้ำเหลืองบวม ผื่น คัน บวม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ หน้า ลิ้น คอ) เวียนหัวอย่างรุนแรง หายใจลำบาก 

อาการเหล่านี้ไม่ใช่อาการของผลข้างเคียงทั้งหมด หากผู้ป่วยมีอาการที่ไม่ปรากฏในรายชื่อข้างบน ให้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร 

Allopurinol

ปฏิกริยา 

ปฏิกริยาระหว่างยาอาจทำให้การทำงานของยาถูกเปลี่ยนไป และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง อย่าหยุด เริ่ม หรือเปลี่ยนปริมาณยาด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง ยาที่อาจทำปฏิกริยากับ Allopurinol มีดังนี้ กลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาฟารีน ยาเคปไซตาบีน ยา Didanosine

การใช้ยาเกินขนาด 

หากมีการใช้ยาเกินขนาด แล้วมีอาการรุนแรง เช่น เป็นลม หรือหายใจไม่ออก ให้เรียกรถฉุกเฉินทันที 

การใช้ยาในทางที่ผิด 

หากคุณลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ หากใกล้เวลาที่จะทานเม็ดใหม่แล้ว ไม่ต้องทานเม็ดที่ลืม ให้รับประทานยามื้อต่อไปได้เลย 

การเก็บรักษา

เก็บไว้ในอุณหภูมิห้องที่ไกลจากแสง และความชื้น อย่าเก็บยาไว้ในห้องน้ำ ควรเก็บให้ห่างจากเด็ก และสัตว์เลี้ยง 

ไม่ควรกดยาลงชักโครกนอกจากจะได้รับคำแนะนำให้ทำ ปรึกษากับเภสัชกรถึงวิธีทิ้งเมื่อยาหมดอายุแล้ว  

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *