มีบทความมากมายที่ระบุว่า น้ำว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยในเรื่องความเป็นด่าง การดีท็อกซ์ และการทำความสะอาด
ในการที่จะกล่าวเช่นนั้นได้ น้ำว่านหางจระเข้จะต้องผ่านการทดลองที่เข้มงวด ผู้ผลิตบางรายสามารถพิสูจน์ถึงประโยชน์ได้ได้ ในขณะที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ เพราะเครื่องดื่มว่านหางจระเข้มีหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีการเติมแต่งน้ำตาลในบางรูปแบบ
แม้ว่าผู้ผลิตน้ำว่านหางจระเข้สดต้องการบอกว่า สามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ แต่ก็ต้องพิสูจน์ก่อนจึงจะสามารถระบุลงในฉลากได้
Therapeutic Goods Administration (TGA) เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลยาในออสเตรเลีย และอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ กล่าวว่า เราจะสามารถยืนยันประสิทธิภาพการรักษาของอาหารเสริมได้ก็ต่อเมื่อผ่านการทดสอบที่เพียงพอและพิสูจน์ผลลัพธ์แล้ว
ตัวอย่างเครื่องดื่มว่านหางจระเข้บางรายที่ได้รับการรับรองจาก TGA มีผลการรับรองดังนี้
- ว่านหางจระเข้มีแนวโน้มช่วยในการย่อย และดูดซึมโปรตีน
- ว่านหางจระเข้มีแนวโน้มช่วยในการปรับปรุงการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร
- ว่านหางจระเข้มีแนวโน้มช่วยลดเวลาในการขับถ่ายของลำไส้
- ว่านหางจระเข้ส่งเสริมนการทำงานของภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง
- น้ำว่านหางจระเข้ช่วยให้กระเพาะแข็งแรง และย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
ต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์โดยทั่วไปของน้ำว่านหางจระเข้
1. แก้ปัญหาท้องผูก
ว่านหางจระเข้สดที่ยังไม่ได้ตัดแต่งมีฤทธิ์เป็นยาระบายของ และสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฟลอริดากล่าวว่า “ส่วนประกอบของลาเท็กซ์ หรืออะโลอิน ประกอบด้วยส่วนประกอบที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพจำนวนมาก” อ้างอิงจากบทความ Science Direct “สารดังกล่าวเป็นยาระบายที่มีฤทธิ์แรงมาก และอาจทำให้ปวดท้องได้”
ดังนั้นควรเติมเพื่อรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะร่วมกับเครื่องดื่มน้ำผลไม้ประจำวัน!
2.เสริมสุขภาพช่องปาก และเหงือก
มีบางคนกล่าวว่า การดื่มน้ำว่านหางจระเข้ช่วยลดปัญหาสุขภาพในช่องปาก แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ น้ำว่านหางจระเข้ส่วนใหญ่มีน้ำตาลเพิ่มซึ่งจะให้ผลเสียกับสุขภาพฟันที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามการใช้เจลว่านหางจระเข้เฉพาะที่สามารถให้ประโยชน์ได้ มีงานศึกษาในอินเดียตีพิมพ์ใน Journal of Peridontology พบว่า เจลว่านหางจระเข้มีความสัมพันธ์กับการลดคราบจุลินทรีย์สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ได้รับยาอื่นๆ
3. ช่วยรักษาบาดแผล และอาการไหม้
แม้ว่าการศึกษาบางอย่างจะหักล้างประสิทธิภาพที่แท้จริงของว่านหางจระเข้สำเรื่องแผลไฟไหม้ และการรักษาบาดแผล แต่การศึกษาของไทยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Burns Journal แสดงให้เห็นว่า “หลักฐานสะสมมีแนวโน้มสนับสนุนว่า ว่านหางจระเข้มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลไฟไหม้สำหรับแผลไหม้ในระดับที่ 1 – 2”
จากผลการวิจัยพบว่า การรักษาด้วยว่านหางจระเข้ช่วยลดระยะเวลาในการรักษาแผลไหม้ได้ประมาณ 9 วัน เมื่อเทียบกับกลุ่มการรักษาทั่วไป
4. เสริมสร้างเซลล์ใหม่ให้แข็งแรง
Lifestream Biogenic กล่าวว่า “เจลภายในของว่านหางบริสุทธิ์ ประกอบด้วยไฟโตนิวเทรียนจากพืช และสารประกอบสำคัญอยู่มากมาย เช่น ซาโปนิน และโพลีแซ็กคาไรด์ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ และการต่ออายุของเซลล์”
คุณสมบัติเหล่านี้สามารถช่วยบรรเทาความเสียหายเยื่อบุกระเพาะอาหาร และลำไส้ รวมทั้งช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นธรรมชาติ
“น้ำว่านหางจระเข้จะช่วยรักษาแบคทีเรียในลำไส้ให้แข็งแรงช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน”
5. ลดระดับคอเลสเตอรอล
การดื่มน้ำว่านหางจระเข้อาจดีต่อหัวใจของคุณ มีการศึกษาทางคลินิกของผู้ป่วย 5,000 ราย ที่ตีพิมพ์ใน Journal of Angiology รายงานว่า อาสาสมัครที่ได้รับการรักษาด้วยน้ำว่านหางจระเข้พบว่า ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ซีรัม และการเพิ่มขึ้นของไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDL)
บทสรุป
สรุปได้ว่าน้ำว่านหางจระเข้บริสุทธิ์ กรณีที่ไม่เพิ่มน้ำตาล และสารปรุงแต่ง สามารถพิจารณาบริโภคควบคู่ไปกับการรักษาด้วยสมุนไพร เพื่อช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี และให้สารอาหาร วิตามิน รวมทั้งส่งเสริมสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก