วิธีใช้ Amoxicillin แบบรับประทาน
ยาแก้อักเสบ Amoxicillin ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียได้หลายแบบ ยานี้คือยาปฏิชีวนะประเภทเพนิซิลลิน ทำงานโดยหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะนี้ใช้รักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับการติดเชื้อไวรัส (เช่นไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่) การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นสามารถส่งผลให้เกิดอาการดื้อยาได้ในอนาคต Amoxicillin สามารถใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร / ลำไส้ที่เกิดจากแบคทีเรีย H. pylori ได้ และยังใช้เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกลับมาเป็นซ้ำได้
รับประทานยานี้โดยมี หรือไม่มีคำสั่งของแพทย์ก็ได้ โดยปกติจะรับประทานทุก ๆ 8 หรือ 12 ชั่วโมง ปริมาณของยาขึ้นกับเงื่อนไขอาการของผู้ป่วย และการตอบสนองต่อการรักษาด้วย
ดื่มของเหลวมาก ๆ ขณะใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์จะกำหนดเป็นอย่างอื่น
เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด ควรใช้ยาอะม็อกซี่นี้ในช่วงเวลาเท่า ๆ กันในแต่ละวัน เพื่อให้จดจำได้ง่าย ควรกำหยดเวลารับประทานยานี้ในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน
ทานยานี้ต่อเนื่องไปจนกว่าจะครบตามจำนวนที่กำหนด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นภายในไม่กี่วันก็ตาม การหยุดยาเร็วเกินไปอาจทำให้แบคทีเรียยังสามารถเติบโตต่อไปได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำได้
ผลข้างเคียงของยา Amoxicillin
ผู้ใช้ Amoxicillin ยาอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องร่วง หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือแย่ลง ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที
แพทย์มักพิจารณาการใช้ยานี้ โดยคำนึงถึงคุณประโยชน์ของยามากกว่าความเสี่ยงของผลข้างเคียง ผู้ป่วยหลายคนที่ใช้ยานี้มักไม่เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง
การใช้ยาอะม็อกซีซิลลินต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดเชื้อราในช่องปาก หรือการติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดได้ (การติดเชื้อราในช่องปากหรือช่องคลอด) ติดต่อแพทย์หากสังเกตเห็นจุดสีขาวในปาก เกิดการเปลี่ยนแปลงของตกขาวหรืออาการอื่น ๆ ตามอวัยวะทั้ง 2 นี้
แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากพบผลข้างเคียงที่พบได้ยาก แต่ร้ายแรง ดังนี้: ปัสสาวะมีสีเข้ม คลื่นไส้ หรืออาเจียนบ่อย ปวดท้อง / ตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง เกิดรอยช้ำ หรือมีเลือดออกง่าย เจ็บคอหรือมีไข้
ยาปฏิชีวนะ Amoxicillin แทบจะไม่ส่งผลทำให้เกิดโรคลำไส้อักเสบเรื้องรัง เนื่องจากแบคทีเรียที่เรียกว่า C. Difficile ภาวะนี้อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษาได้นานหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนหลังจากหยุดการรักษา แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากพบอาการ: ท้องร่วงไม่หยุด ปวดท้อง หรือท้องไส้ปั่นป่วน / ตะคริว พบเลือด / มูกในอุจจาระ
หากคุณมีอาการเหล่านี้ ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์รักษาอาการท้องร่วง หรือใช้ยาโอปิออยด์ เพราะอาจทำให้อาการแย่ลงได้
อาการแพ้ที่รุนแรงของยานี้พบได้ยาก แต่ควรแจ้งแพทย์ทันที หากสังเกตเห็นอาการแพ้รุนแรง รวมถึงผื่นคัน / บวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า / ลิ้น / ลำคอ) เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หายใจลำบาก
ยาอะม็อกซีซิลลินมักทำให้เกิดผื่นเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง อย่างไรก็ตามผู้ป่วยอาจไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอาการใดคือสัญญาณของอาการแพ้ที่รุนแรง ดังนั้นควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ เมื่อพบผื่นขึ้นหลังใช้ยา
รายการเหล่านี้ไม่ใช้ผลข้างเคียงที่เป็นไปได้ทั้งหมด หากสังเกตเห็นอาการข้างเคียงอื่นๆ ให้ติดต่อแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้อะม็อกซี
ก่อนรับประทานอะม็อกซีซิลลินควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากเคยมีอาการแพ้ยานี้ หรือยาปฏิชีวนะอื่น ๆ อย่างเพนิซิลลินหรือเซฟาโลสปอริน หรือเมื่อมีอาการภูมิแพ้อื่น ๆ ที่ผลิตภัณฑ์นี้อาจใช้เป็นส่วนผสมที่ไม่ใช้งาน แต่ส่งผลให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น ๆ ปรึกษาเภสัชกรเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม
ก่อนใช้ยานี้ โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงประวัติทางการแพทย์ก่อน โดยเฉพาโรคไต ภาวะติดเชื้อไวรัสบางชนิด (เชื้อโมโนนิวคลีโอซิส)
ยาอะม็อกซีซิลลินอาจทำให้วัคซีนแบคทีเรียชนิดที่มีชีวิต (เช่นวัคซีนไทฟอยด์) ไม่ทำงานได้ ห้ามฉีดวัคซีน / รับวัคซีนใด ๆ ในขณะที่กำลังใช้ยานี้ เว้นแต่แพทย์จะพิจารณาเป็นอย่างอื่น
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาทั้งหมดที่ใช้ (ทั้งยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร)
ในระหว่างตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ปรึกษาเกี่ยวกับความเสี่ยง และสรรพคุณของยากับแพทย์ที่รักษา
Amoxicillin สามารถส่งผ่านจากน้ำนมแม่ไปยังทารก ควรปรึกษาแพทย์กรณีให้นมบุตรอยู่
การเกิดปฏิกิริยากับยาชนิดอื่น ๆ
ประสิทธภาพของยาบางชนิดอาจเปลี่ยนแปลง เมื่อใช้ยานี้ หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน และยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง หรืออาจทำให้ยาไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ปฏิกิริยาระหว่างยานี้อาจไม่เกิดขึ้นเสมอไป แพทย์หรือเภสัชกรสามารถป้องกันหรือกำหนดแนวทางหรือเปลี่ยนวิธีการใช้ยาให้เหมาะสม และติดตามผลการใช้ยาอย่างใกล้ชิด
เพื่อช่วยให้แพทย์และเภสัชกรขสามารถติดตามผลการรักษาได้ดีที่สุด ต้องแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบถึงผลิตภัณฑ์การรักษาทั้งหมดที่ใช้ (ทั้งยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ ยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ และผลิตภัณฑ์สมุนไพร) ก่อนเริ่มใช้ยาชนิดนี้ ในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ไม่ควรหยุดหรือเปลี่ยนปริมาณยาชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ โดยไม่ได้รับการพิจารณาจากแพทย์
ผลิตภัณฑ์ยาอื่น ๆ ที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้คือ: Methotrexate
แอมม็อกซิลลินอาจทำให้เกิดผลที่ตลาดเคลื่อนเมื่อทำการทดสอบปัสสาวะในผู้ป่วยโรคเบาหวานบางชนิด (Cupric sulfate-type) ยานี้อาจส่งผลต่อการทดสอบทางห้องปฏิบัติการบางอย่าง จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเช้ารับการทดสอบ
รายละเอียดเหล่านี้ไม่ใช่ผลกระทบระหว่างยาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผู้ป่วยควรลิสต์รายชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ใช้ เพื่อแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดจากยาเหล่านี้
หากยาใช้เกินขนาด
หากใช้ยาเกินขนาด และเกิดอาการร้ายแรง เช่น หายใจไม่ออก หรือหายใจลำบากให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที อาการของผู้ที่ใช้ยาเกินขนาด ได้แก่: อาเจียนอย่างรุนแรง ท้องเสียต่อเนื่อง ปัสสาวะมีปริมาณลดลงมาก หรือชักเกร็ง
หมายเหตุ ห้ามใช้ยานี้ร่วมกับผู้อื่น
ยานี้แพทย์จะพิจารณาตามอาการป่วยในปัจจุบันของผู้ป่วยเท่านั้น ห้ามใช้หลังอาการติดเชื้ออื่น ๆ เว้นแต่แพทย์จะกำหนดให้ใช้
หากใช้ยาเพื่อรักษาเป็นระยะเวลานาน ควรเข้ารับการทดสอบทางห้องปฏิบัติการและ / หรือทางการแพทย์ (เช่นการทำงานของไต และตับ การตรวจนับเม็ดเลือด) เป็นระยะ ๆ เพื่อติดตามผลการรักษาหรือติดตามผลข้างเคียง ปรึกษาแพทย์เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม
กรณีไม่ได้รับประทานยาตามกำหนด
หากพลาดยา ให้รีบรับประทานทันทีที่รู้ตัว แต่หากใกล้ถึงรอบการรับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามไปรับประทานยามื้อต่อไปเลย ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่าเพื่อทดแทนมื้อยาที่ขาดไป
การจัดเก็บ
เก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากแสงและความชื้น ยาชนิดนี้แต่ละยี่ห้อจะมีวิธีการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ตรวจสอบแพ็คเกจผลิตภัณฑ์เพื่อดูคำแนะนำในการจัดเก็บ และใช้ผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามรายละเอียดจากเภสัชกร เก็บยาให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง
ห้ามทิ้งยาลงในชักโครก หรือเททิ้งในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำได้ เมื่อยาหมดอายุหรือไม่ได้ใช้ต่อไปควรนำไปกำจัดตามคำแนะนำของเภสัชกร หรือผู้ให้บริการกำจัดขยะในพื้นที่
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.nhs.uk/medicines/amoxicillin/
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/amoxicillin-oral-tablet
- https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a685001.html
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก