หูด (Wart) คือ การเจริญเติบโตของผิวหนัง และเยื่อเมือก (ปาก หรืออวัยวะเพศ) ที่เกิดจากเชื้อ HPV ของมนุษย์กว่า 100 ชนิด หูดทั่วไปมักพบตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น ข้อศอก เข่า และมือ ไวรัสนี้ทำให้ชั้นผิวหนังชั้นบนหนาขึ้น พวกเขามักจะไม่เจ็บปวด และหายไปเอง บางครั้งใช้เวลา 2-3 เดือนในการรักษา หรือเป็นปี
หูดสามารถติดต่อได้ ไวรัสไม่สามารถแพร่เชื้อได้สูง แต่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้โดยการเข้าสู่ผิวที่แตกเล็กน้อย ในทำนองเดียวกัน หูดสามารถแพร่กระจายไปยังที่อื่นบนร่างกายของคุณได้
ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นหูด
หูดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่พบได้บ่อยที่สุดในช่วงอายุ 12-16 ปี ประมาณ 20% และประมาณ 10% ของประชากรทั่วไป สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเพิ่ม ได้แก่
- ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
- การปลูกถ่ายอวัยวะ
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความรู้เรื่องโรค HIVs
อาการของหูด
หูดสามารถเกิดขึ้นได้หลายๆ จุด โดยอาการของการเป็นหูด มีดังต่อไปนี้
- หูดที่พบบ่อย คือ ตุ่มหยาบ หนา สีผิว ชมพูหรือขาว ตั้งแต่ 1-10 มม. ขึ้นไป มักเป็นที่มือ ใบหน้า ข้อศอก และเข่า
- หูด Filiform ยาว และแคบ มักจะมีขนาดเล็กที่ฐาน (1–3 มม.) มักเกิดบนใบหน้า เปลือกตา หรือบริเวณจมูก
- หูดที่แบนจะนูนขึ้นเล็กน้อย เรียบ มีขนาด 1–5 มม. มีตุ่ม มักพบเห็นบนใบหน้า มือ หรือหน้าแข้ง
- หูดที่ฝ่าเท้ามีความหนา หยาบกร้าน คล้ายแคลลัส อาจดูคล้ายกับตาปลา
การติดเชื้อหูดสามารถแบ่งความรุนแรงได้ดังนี้
- ไม่รุนแรง – เพียง 1-3 แผลที่ไม่เจ็บปวด
- ปานกลาง – มี 10–20 แผลที่ไม่เจ็บปวด
- รุนแรง – ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ การตกเลือด และเป็นมากกว่า 20 แผล
การดูแลหูดด้วยตนเอง
หูดสามารถหายได้เอง อาจจำเป็นไม่ต้องพบแพทย์ และสามารถดูแลด้วยตนเองดังนี้
- ยากำจัดหูดที่จำหน่ายตามร้านขายยา ที่มีกรดซาลิไซลิกสูง และออกฤทธิ์โดยการละลายชั้นผิวหนังที่ติดเชื้อไวรัสออกไป
- มียาแช่แข็งหูดตามร้านขายยา
- แช่หูดในน้ำอุ่น และควรลอกผิวหนังที่หลุดออกทุกๆ 2-3 วัน ด้วยสารกัดกร่อนเล็กน้อย เช่น หินภูเขาไฟ
- หลีกเลี่ยงการแบ่งปันสิ่งของส่วนตัว เช่นผ้าเช็ดตัว
เมื่อใดควรไปพบแพทย์
- มีหูดที่เจ็บปวด หรือมีเลือดออก
- หูดที่ใบหน้า และบริเวณที่รบกวนชีวิตประจำวัน
- หูดที่ไม่สามารถหายไปเอง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีหูดที่เท้าควรได้รับการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แผลเบาหวาน
การรักษาหูด
แพทย์จะให้การรักษาหูดด้วยวิธีต่อไปนี้
- การทำลายด้วยการแช่แข็ง (ใช้ความเย็น)
- การทำลายด้วยการเผาไหม้ (ใช้ไฟฟ้า)
- การทำลายด้วยเลเซอร์ หรือแคนทาริดินโพโดฟิลลิน และเตรติโนอิน
- การทำลายด้วยการใช้กรด
- ฉีดยาเคมีบำบัด
- การใช้ Imiquimod ตัวแทนภูมิคุ้มกันหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพื่อทำลายหูด
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก