หูดคืออะไร (Common Wart) 

หูดคืออะไร (Common Wart) 

13.11
5406
0

หูด (Wart) คือ การเจริญเติบโตของผิวหนัง และเยื่อเมือก (ปาก หรืออวัยวะเพศ) ที่เกิดจากเชื้อ HPV ของมนุษย์กว่า 100 ชนิด หูดทั่วไปมักพบตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น ข้อศอก เข่า และมือ ไวรัสนี้ทำให้ชั้นผิวหนังชั้นบนหนาขึ้น พวกเขามักจะไม่เจ็บปวด และหายไปเอง บางครั้งใช้เวลา 2-3 เดือนในการรักษา หรือเป็นปี

หูดสามารถติดต่อได้ ไวรัสไม่สามารถแพร่เชื้อได้สูง แต่สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้โดยการเข้าสู่ผิวที่แตกเล็กน้อย ในทำนองเดียวกัน หูดสามารถแพร่กระจายไปยังที่อื่นบนร่างกายของคุณได้ 

ผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นหูด

หูดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แต่พบได้บ่อยที่สุดในช่วงอายุ 12-16 ปี ประมาณ 20% และประมาณ 10% ของประชากรทั่วไป สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงเพิ่ม ได้แก่

  • ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี 
  • การปลูกถ่ายอวัยวะ 
  • การรักษาด้วยเคมีบำบัด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความรู้เรื่องโรค HIVs

อาการของหูด

หูดสามารถเกิดขึ้นได้หลายๆ จุด โดยอาการของการเป็นหูด มีดังต่อไปนี้

  • หูดที่พบบ่อย คือ ตุ่มหยาบ หนา สีผิว ชมพูหรือขาว ตั้งแต่ 1-10 มม. ขึ้นไป มักเป็นที่มือ ใบหน้า ข้อศอก และเข่า
  • หูด Filiform ยาว และแคบ มักจะมีขนาดเล็กที่ฐาน (1–3 มม.) มักเกิดบนใบหน้า เปลือกตา หรือบริเวณจมูก
  • หูดที่แบนจะนูนขึ้นเล็กน้อย เรียบ มีขนาด 1–5 มม. มีตุ่ม มักพบเห็นบนใบหน้า มือ หรือหน้าแข้ง
  • หูดที่ฝ่าเท้ามีความหนา หยาบกร้าน คล้ายแคลลัส อาจดูคล้ายกับตาปลา

Common Wart

การติดเชื้อหูดสามารถแบ่งความรุนแรงได้ดังนี้

  • ไม่รุนแรง – เพียง 1-3 แผลที่ไม่เจ็บปวด
  • ปานกลาง – มี 10–20 แผลที่ไม่เจ็บปวด
  • รุนแรง – ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ การตกเลือด และเป็นมากกว่า 20 แผล

การดูแลหูดด้วยตนเอง

หูดสามารถหายได้เอง อาจจำเป็นไม่ต้องพบแพทย์ และสามารถดูแลด้วยตนเองดังนี้

  • ยากำจัดหูดที่จำหน่ายตามร้านขายยา ที่มีกรดซาลิไซลิกสูง และออกฤทธิ์โดยการละลายชั้นผิวหนังที่ติดเชื้อไวรัสออกไป 
  • มียาแช่แข็งหูดตามร้านขายยา
  • แช่หูดในน้ำอุ่น และควรลอกผิวหนังที่หลุดออกทุกๆ 2-3 วัน ด้วยสารกัดกร่อนเล็กน้อย เช่น หินภูเขาไฟ
  • หลีกเลี่ยงการแบ่งปันสิ่งของส่วนตัว เช่นผ้าเช็ดตัว

เมื่อใดควรไปพบแพทย์

  • มีหูดที่เจ็บปวด หรือมีเลือดออก
  • หูดที่ใบหน้า และบริเวณที่รบกวนชีวิตประจำวัน
  • หูดที่ไม่สามารถหายไปเอง
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีหูดที่เท้าควรได้รับการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แผลเบาหวาน

การรักษาหูด

แพทย์จะให้การรักษาหูดด้วยวิธีต่อไปนี้

  • การทำลายด้วยการแช่แข็ง (ใช้ความเย็น)
  • การทำลายด้วยการเผาไหม้ (ใช้ไฟฟ้า)
  • การทำลายด้วยเลเซอร์ หรือแคนทาริดินโพโดฟิลลิน และเตรติโนอิน
  • การทำลายด้วยการใช้กรด
  • ฉีดยาเคมีบำบัด
  • การใช้ Imiquimod ตัวแทนภูมิคุ้มกันหรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพื่อทำลายหูด
Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *