

ฝุ่น PM 2.5 คือ อะไร
ฝุ่น PM 2.5 คือ ประเภทของฝุ่นละอองที่มีขนาด 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่า เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในกรณีที่ฝุ่น PM 2.5 มีความหนาแน่นในอากาศมากเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ เช่น อาจทำให้จมูก และดวงตาเกิดอาการระคายเคือง และกรณีที่เข้าฝุ่น PM 2.5 เข้าปอด จะเพิ่มโอกาศในการเกิดโรคทางเดินหายใจ
การเกิดไฟป่า หรือมลพิษทางอากาศในระดับสูงก่อให้เกิดฝุ่น PM 2.5 และยังส่งผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เช่น โรคทางเดินหายใจ หัวใจวาย และปัญหาสุขภาพอื่นๆ
อนุภาคที่มีขนาด 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่านั้นถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเรา เพราะ เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 สามารถเข้าไปในปอด และสามารถเข้าถึงถุงลม และเข้าสู่กระแสเลือดได้ในที่สุด
ฝุ่น PM 2.5 มีอันตรายอย่างมาก เพราะในอนุภาคของฝุ่นสามารถประกอบจากสารเคมี และอนุภาคอื่นๆ ได้อีกหลายประเภท รวมไปถึงของเหลว ซึ่งจะแตกต่างจากฝุ่นโดยทั่วไป สารมลพิษที่เป็นอนุภาคที่ประกอบด้วยหยดของเหลวทั้งหมด หรือบางส่วนเรียกว่า ละอองลอย สำหรับละอองลอยที่พบได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ ฝุ่น เกลือทะเล และเถ้าภูเขาไฟ ในขณะที่แหล่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ การปล่อยมลพิษในโรงงาน และรถยนต์ การเผาไหม้ถ่านหิน และการเผาไหม้ชีวมวล เพื่อชะล้างที่ดิน หรือทำการเกษตร
PM 2.5 เกิดจากอะไร
ฝุ่น PM 2.5 สามารถมาจากแหล่งมลพิษต่าง ๆ ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ไฟป่า และโรงไฟฟ้า และมลภาวะจากอุตสาหกรรมบางประเภท อนุภาคของฝุ่น PM 2.5 ทุติยภูมิเกิดขึ้นได้เมื่อสารเคมีต่างๆ รวมตัวกันในอากาศ สารเคมีจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือไอเสียรถยนต์จากท่อรถสามารถทำปฏิกิริยากับไอน้ำในบรรยากาศ และแสงแดดเพื่อสร้างอนุภาค หรือสารประกอบใหม่ และอนุภาคเหล่านี้อาจมีขนาดน้อยกว่า 2.5 ไมครอน เนื่องจากมีหลายวิธีที่อนุภาคเกิดขึ้นจากสารประกอบทางเคมี รวมทั้งจำนวนของปัจจัยที่แปรผันได้ เช่น ภูมิภาค สภาพอากาศ สภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
ทำไม PM 2.5 ถึงเป็นอันตราย
จากการวิจัยพบว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศที่มีปริมาณที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น เช่น การเกิดโรคทางเดินหายใจ ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจอยู่ก่อนหน้านี้แล้วอาจจะมีอาการแย่ลง และผลกระทบต่อระบบหัวใจ และหลอดเลือดที่อาจนำไปสู่อาการหัวใจวาย และเสียชีวิตได้
PM 2.5 มีผลกระทบระยะยาว และระยะยาว เนื่องจากอนุภาคของฝุ่นเหล่านี้มีปฏิสัมพันธ์กับร่างกายเมื่อเข้าสู่ปอด ผ่านการกรองขนจมูกจนเข้าไปในทางเดินหายใจ และเกิดการสะสมบริเวณนั้น และแพร่กระจาย และทำลายส่วนอื่น ๆ เมื่อเข้าสู่กระบวนการฟอกอากาศในปอด
สาเหตุที่ทำให้ฝุ่น PM 2.5 เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เนื่องจากฝุ่นจะเกิดการปกคลุมบริเวณทางเดินหายใจ และปอด ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ
จากการวิจัยในปี 2010 พบว่า การสัมผัสกับ PM 2.5 เป็นเวลาชั่วโมงถึงหลายสัปดาห์สามารถกระตุ้นการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ กรณีที่ร่างกายเกิดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ในระยะยาว ( เช่น ระยะเวลานับปี) จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และหลอดเลือด
ใครก็ตามที่เป็นโรคหัวใจ หรือปอด รวมไปถึง ผู้สูงอายุ ทารก และเด็กเล็ก จะได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM 2.5 ผู้ที่เป็นโรคหัวใจอาจมีอาการทันทีเมื่อสัมผัส PM 2.5 ที่มีความหนาแน่นสูง
การเติบโตของประชากร และการอพยพย้ายถิ่นโดยแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการควบคุมมลพิษทางอากาศที่น้อยลง และการบังคับใช้ที่หละหลวมส่งผลให้ในปัจจุบันมีฝุ่น PM 2.5 เกิดขึ้นแพร่กระจายไปในหลายพื้นที่ในโลกนี้
ชาวอินเดียมากกว่า 4 ใน 10 คน ต้องสัมผัสกับฝุ่นละอองในอากาศที่หายใจเข้าไปถึง 5 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองเดลีในเดือนพฤศจิกายนจะพบว่าท้องฟ้ามีสีมืดครึ้มเป็นเรื่องธรรมดา และลมจะพัดควันไปทั่วที่ราบอินโด และแม่น้ำคงคา หมอกควันที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้ระดับฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับที่มีความอันตรายอย่างมากในเดลี
ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้ก็ประสบปัญหามลพิษทางอากาศเนื่องจากอยู่ติดกับประเทศจีน รวมกับผลกระทบจากกระบวนการอุตสาหกรรมภายในประเทศ ทำให้ดัชนีคุณภาพอากาศของโซลไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับประชากร เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจอยู่
ต่างกับในยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาค่าระดับฝุ่น PM2.5 ลดน้อยลงเนื่องจากการควบคุมมลพิษทางอากาศ ในขณะเดียวกันในเอเชียตะวันออกก็เกิดฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากคุณภาพอากาศที่แย่ลง
วิธีป้องกันฝุ่น PM 2.5 ขณะที่อยู่นอกบ้าน
ขั้นตอนแรกในการป้องกันตัวเองจากระดับมลพิษที่เป็นอันตรายภายนอกอาคาร เราควรรู้ว่าระดับ PM 2.5 ที่เป็นอันตรายอยู่ที่ไหน โดยสามารถเข้าไปดูรายงานจากกรมควบคุมมลพิษได้
หากดัชนีคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่คุณอยู่แสดงระดับมลพิษในระดับสูง ให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง และควรระวังไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น เนื่องจากระดับการออกแรงที่สูงขึ้นจะเพิ่มอัตราการหายใจ และทำให้ต้องสูดสัมผัสกับมลพิษเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากขึ้น หากคุณเป็นโรคหอบหืด หรือโรคระบบทางเดินหายใจอื่นๆ หรือโรคหัวใจ และหลอดเลือด จำเป็นต้องระวังเป็พิเศษ ดังนั้นการตรวจสอบสภาพมลพิษประจำวันอาจจะทำให้คุณวางแผนกิจกรรมการเดินทางได้ดีขึ้น
ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันทุกครั้งก่อนออกจากบ้านหากพบว่าบริเวณพื้นที่ที่คุณอยู่อาศัยเกิดปัญหาจากมลภาวะฝุ่น PM 2.5 จากการวิจัยพบว่าหน้ากากสามารถลดปริมาณ PM 2.5 ที่คุณหายใจเข้าไปได้ แต่ต้องเป็นหน้ากากที่สามารถกรองฝุ่นได้ PM 2.5 และต้องสวมใส่แล้วพอดีกันเพื่อไม่ให้มีช่องว่างให้ฝุ่นผ่านเข้าไปยังโพรงจมูก
วิธีป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM เมื่ออยู่ในบ้าน
การอยู่ในที่ร่มเป็นวิธีที่สำคัญในการลดการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ควรปิดหน้าต่าง และประตูร่วมกับการใช้เครื่องฟอกอากาศ
ใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรอง HEPA เพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นที่ปล่อยออกมา หลีกเลี่ยงการจุดไฟฟืน หรือเทียนภายในบ้าน และเมื่อปรุงอาหาร และใช้เตาอบ และในบ้านต้องมีการระบายอากาศที่ดี
เครื่องฟอกอากาศเป็นวิธีที่ดีในการกำจัดฝุ่นละอองออกจากอากาศในบ้าน ตัวกรองอากาศแบบดั้งเดิม เช่น HEPA สามารถกำจัดอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97 เปอร์เซ็นต์
เครื่องฟอกอากาศโมเลกุลสามารถขจัดอนุภาคละเอียด และทำลายสารเคมีในอากาศในอากาศ โดยเฉพาะสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย
PM 2.5 เป็นกลุ่มมลพิษทางอากาศที่อาจเป็นอันตราย และจำเป็นต้องเข้าใจว่ามันคือ อะไร มาจากไหน และเราควรจัดการกับมันอย่างไร การตรวจสอบคุณภาพอากาศภายนอก และทำตามขั้นตอนง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอนในบ้าน คุณสามารถจำกัดการสัมผัส PM 2.5 ได้
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก