ภาวะการติดเชื้อรา (Fungal Infection)

ภาวะการติดเชื้อรา (Fungal Infection)

23.07
2189
0

การติดเชื้อราเป็นอย่างไร

การติดเชื้อราผิวหนังเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ในมนุษย์ภาวะการติดเชื้อราจะเกิดขึ้น เมื่อเชื้อรารบกวนส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือเมื่อมีจำนวนเชื้อรา มากเกินไป เกินกว่าที่ระบบภูมิคุ้มกันจะรับมือได้

เชื้อราสามารถอาศัยอยู่ในอากาศ ดิน น้ำ และพืช นอกจากนี้ยังมีเชื้อราบางชนิดที่อาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์

เช่นเดียวกับจุลินทรีย์หลายชนิด มีทั้งเชื้อราที่เป็นประโยชน์ และเชื้อราที่เป็นอันตราย เมื่อเชื้อราที่เป็นอันตรายเข้าสู่ร่างกาย เชื้อราเหล่านี้มักจัดการได้ยาก  เนื่องจากสามารถอยู่รอดได้ในสิ่งแวดล้อม และแพร่ระบาดเชื้อซ้ำไปยังบุคคลที่กำลังจะหายให้กลับมาเป็นซ้ำได้

อาการของการติดเชื้อรา

อาการของการติดเชื้อราที่ผิวหนังจะขึ้นกับประเภทของเชื้อ โดยอาการทั่วไป จะมีดังนี้:

  • การเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง เกิดสีแดง และอาจมีผิวแตก หรือลอกได้
  • อาการคัน

ประเภทของเชื้อรา

ภาวะการติดเชื้อราบนผิวหนังจะมีอาการแสดงตามประเภทของเชื้อ ดังนี้

โรคน้ำกัดเท้า

ฮ่องกงฟุตหรือโรคน้ำกัดเท้าเป็นอาการของโรคผิวหนัง เชื้อราที่มีผลต่อเท้า และพบได้ทั่วไป

โรคน้ำกัดเท้าเป็นอาการที่มักเกิดกับกีฬา และนักกรีฑา เนื่องจากเชื้อราบนผิวหนังสามารถเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและชื้น เช่นในถุงเท้าและรองเท้า อุปกรณ์กีฬา และห้องล็อกเกอร์

แต่ที่จริง ทุกคนล้วนมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากโรคน้ำกัดเท้านี้ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น และช่วงฤดูร้อน เพราะเชื้อราสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว

อาการของโรคน้ำกัดเท้า

อาการของโรคน้ำกัดเท้า อาจแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในผู้ป่วยแต่ละคน อาการทั่วไปคือ :

  • ผื่นแดงหรือตุ่มพองบริเวณที่ติดเชื้อ
  • ผิวหนังที่ติดเชื้ออาจอ่อนนุ่ม หรือแตกลอก
  • ผิวลอก หรือแตก
  • ผิวหนังอาจหลุดลอกเป็นแผ่น ๆ
  • อาการคัน แสบ หรือแสบร้อนในบริเวณที่ติดเชื้อ

การวินิจฉัย การรักษา และการป้องกัน

อาการคันที่เท้า อาจไม้ได้เป็นผลมาจากโรคน้ำกัดเท้าเพียงอย่างเดียว แพทย์มักวินิจฉัยการติดเชื้อโดยการขูดผิวหนังของผู้ป่วย ไปตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์ เพื่อหาหลักฐานว่ามีเชื้อราหรือไม่

มีเชื้อราหลายชนิดที่สามารถทำให้เกิดโรคน้ำกัดเท้าได้ การติดเชื้ออาจมีลักษณะแตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อรา

โรคน้ำกัดเท้ามักรักษาด้วยการทาขี้ผึ้งทาต้านเชื้อราบริเวณที่เกิดอาการ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป การติดเชื้อรุนแรงจะจำเป็นต้องใช้ยารักษาเฉพาะทางเพิ่มเติม และเท้าจะต้องได้รับการดูแล และรักษาให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อกำจัดเชื้อรา

การป้องกันโรคจึงรวมถึงการปล่อยให้เท้าได้รับอากาศมากขึ้น และทำให้เท้าสะอาดและแห้งอยู่เสมอ ควรสวมรองเท้าแตะเมื่อใช้ห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือห้องล็อกเกอร์

การติดเชื้อยีสต์

โรคเชื้อราผิวหนังในช่องคลอดเป็นรูปแบบทั่วไปของการเติบโตของเชื้อราชนิด Candida albicans ในสตรี

การเจริญเติบโตที่มากเกินไปของ Candida จะทำให้สมดุลระหว่างแบคทีเรีย และยีสต์ในช่องคลอดเกิดความผิดปกติ ความไม่สมดุลของเชื้อรานี้อาจเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ความเครียด ความไม่สมดุลของฮอร์โมน และนิสัยการกินที่ไม่ดี เป็นต้น

การติดเชื้อ Candida มักทำให้เกิดการติดเชื้อราที่เล็บ เท้า และผื่นผ้าอ้อมอีกด้วย อาการของการติดเชื้อราชนิดนี้ ได้แก่:

  • คัน และบวมบริเวณช่องคลอด
  • รู้สึกปวดแสบปวดร้อนขณะถ่ายปัสสาวะ หรือมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการแดง และเจ็บบริเวณช่องคลอด
  • ตกขาวผิดปกติ เช่น ก้อนสีเทาคล้ายคอทเทจชีส  หรือตกขาวออกมามาก

บางกรณีอาจมีผื่นขึ้น การติดเชื้อยีสต์ควรได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาการสามารถรุนแรงขึ้น หากไม่ได้รับการรักษา

Fungal Infection

การวินิจฉัย การรักษา และการป้องกัน

อาการทั่วไปของการติดเชื้อราจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้ง่าย แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติการรักษาของผู้ป่วย เช่น การติดเชื้อรา หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) รวมถึงยาปฏิชีวนะที่เพิ่งรับประทานไป

แพทย์จะตรวจผนังช่องคลอด และปากมดลูกเพื่อหาสัญญาณของการติดเชื้อ หากจำเป็นอาจมีการนำตัวอย่างเซลล์จากช่องคลอดไปวินิจฉัยหาเชื้อ เพื่อความถูกต้อง

การรักษาโรคติดเชื้อยีสต์ แพทย์จะพิจารณาตามระดับความรุนแรง การรักษาทั่วไปคือครีม ยาเม็ด หรือยาเหน็บ ซึ่งมีจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ หรือหาซื้อตามร้านขายยาทั่วไป หากเป็นการติดเชื้อที่ซับซ้อนอาจต้องใช้วิธีการรักษาร่วมระหว่างอาการต่าง

การป้องกันการติดเชื้อยีสต์ ควรเริ่มจากการรับประทานอาหารที่สมดุล และมีสุขอนามัยที่ดี การสวมเสื้อผ้าที่สบาย ๆ ทำจากเส้นใยธรรมชาติจะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ การซักชุดชั้นในด้วยน้ำร้อน และเปลี่ยนผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงบ่อย ๆ จะช่วยป้องกันการเติบโตของเชื้อราได้เช่นกัน

ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา

การเกิดโรคที่เกิดจากเชื้อราเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ และมักมีอาการไม่รุนแรง หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสม

ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมักมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อราได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับผู้ที่กำลังใช้ยาปฏิชีวนะ

การรักษาโรคมะเร็ง และโรคเบาหวานอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดแนวโน้มที่จะติดเชื้อราง่ายขึ้น

ภาพรวมโรคเชื้อราผิวหนัง

วิธีรักษาเชื้อราผิวหนัง ส่วนมากสามารถรักษาให้หายได้ด้วยครีมที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป แต่การติดเชื้อในระดับรุนแรงอาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติม

การป้องกันการติดเชื้อจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อราที่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี

จึงเป็นการดี หากผู้ป่วยแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีที่พบสัญญาณการติดเชื้ออย่างรวดเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น ส่วนมากการติดเชื้อราที่ผิวหนังสามารถรักษาได้ง่ายในระยะเริ่มแรก


นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *