หากคุณคิดว่าดวงตาและการมองเห็นของคุณนั้นยังสำคัญต่อการใช้ชีวิตของคุณอยู่ละก็ คุณควรทำตามขั้นตอนง่ายๆเหล่านี้เพื่อดูแลดวงตาของคุณ
1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
สุขภาพตาที่ดี เริ่มต้นที่การกินอาหารของคุณ สารอาหาร เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 ลูทีน สังกะสี และวิตามิน C และ E นั้นช่วยป้องกันปัญหาการมองเห็นที่มีสาเหตุมาจากตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้นได้ เช่น จอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก และสิ่งเหล่านี้คืออาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตาของคุณ
- ผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า กระหล่ำปลี
- แซลมอน ทูน่า และปลาผิวมันอื่นๆ
- ไข่ ถั่ว และแหล่งโปรตีนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์
- ส้มและผลไม้รสเปรี้ยวหรือน้ำผลไม้อื่นๆ
- หอยนางรม
การรับประทานอาหารที่สมดุลยังช่วยให้คุณควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย ซึ่งช่วยลดโอกาสการเป็นโรคอ้วนและโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของตาบอดในผู้ใหญ่
2. เลิกสูบบุหรี่
มันเพิ่มความเสี่ยงที่คุณจะเป็นต้อกระจก ทำลายเส้นประสาทตา และจอประสาทตาเสื่อม รวมถึงปัญหาสุขภาพอันตรายขี้แตกอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณเคยพยายามเลิกนิสัยนี้แล้ว แต่ยังทำไม่ได้ ให้คุณเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ลองอีกครั้ง และอีกครั้ง ยิ่งคุณพยายามเลิกมากเท่าไร คุณก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
3. ใส่แว่นกันแดด
เฉดสีที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องรักษาสายตาของคุณจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ของดวงอาทิตย์ การได้รับรังสียูวีมากเกินไปจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเกิดต้อกระจกและการเสื่อมสภาพของเม็ดสี
ควรเลือกแว่นที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB ได้ 99% ถึง 100% เลนส์แบบรอบตาจะช่วยปกป้องดวงตาของคุณจากด้านข้าง เลนส์โพลาไรซ์จะช่วยลดแสงสะท้อนในขณะที่คุณขับรถ แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไป
หากคุณใส่คอนแทคเลนส์ คอนแทคเลนส์บางตัวสามารถป้องกันรังสียูวีได้ แต่ถึงกระนั้นการใส่แว่นกันแดดก็จะยิ่งเพิ่มการป้องกันที่ดีมากขึ้นให้กับดวงตาของคุณ
4. สวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา
หากคุณต้องใช้เครื่องมืออันตรายหรืองานที่ต้องมีเศษละอองของชิ้นงานที่คุณตัดลอยอยู่ในอากาศ คุณก็ควรถนอมสายตาสวมแว่นตานิรภัยเอาไว้เพื่อปกป้องดวงตาของคุณจะรองของชิ้นส่วนเหล่านั้น
กีฬาต่างๆ เช่น ฮ็อกกี้น้ำแข็ง แร็กเก็ตบอล และลาครอส อาจสามารถทำให้คุณบาดเจ็บที่ดวงตาได้ คุณควรสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา หมวกกันน็อคที่มีหน้ากากป้องกันใบหน้า หรือแว่นตาสำหรับเล่นกีฬาที่มีเลนส์โพลีคาร์บอเนตจะช่วยปกป้องดวงตาของคุณ
5. พักสายตาจากหน้าจอของคุณบ้าง
การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์นานเกินไปอาจทำให้ :
- ปวดตา
- มองเห็นไม่ชัด
- มีปัญหาในการโฟกัสที่ระยะไกล
- ตาแห้ง
- ปวดศีรษะ
- ปวดคอ หลัง ไหล่
- เพื่อปกป้องดวงตาของคุณ:
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ของคุณช่วยในการดูหน้าจอคอมพิวเตอร์
- หากอาการปวดตาของคุณไม่หายไป ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับแว่นตาสำหรับใช้คอมพิวเตอร์นานๆ
- ปรับหน้าจอเพื่อให้ดวงตาของคุณอยู่ในระดับเดียวกับด้านบนของจอภาพ โดยสามารถให้คุณมองลงมาที่หน้าจอได้เล็กน้อย
- พยายามหลีกเลี่ยงแสงสะท้อนจากหน้าต่างและไฟ ใช้หน้าจอป้องกันแสงสะท้อนหากจำเป็น
- เลือกเก้าอี้ที่สะดวกสบายและรองรับกับหลังของคุณได้ และสามารถวางเท้าให้ราบกับพื้นได้
- ถ้าตาแห้ง ให้กะพริบตาถี่ๆหรือใช้น้ำตาเทียม
- พักสายตาทุกๆ 20 นาที มองออกไปไกล 20 ฟุตเป็นเวลา 20 วินาที ลุกขึ้นอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมงและหยุดพัก 15 นาที
6. ไปหาหมอเพื่อตรวจเช็คดวงตา
ทุกคนต้องได้รับการตรวจตาเป็นประจำ แม้แต่เด็กเล็ก การตรวจตายังสามารถพบโรคต่างๆ เช่น ต้อหิน ที่ไม่มีอาการ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะพวกมันสามารถรักษาได้ง่ายกว่า
ขึ้นอยู่กับความต้องการด้านสุขภาพดวงตาของคุณ คุณสามารถพบแพทย์ประเภทใดประเภทหนึ่งจากสองประเภทนี้
- จักษุแพทย์ เป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการดูแลดวงตา พวกเขาสามารถให้การดูแลดวงตาทั่วไป รักษาโรคตา และทำการผ่าตัดตาได้
- นักตรวจวัดสายตาได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางเป็นเวลา 4 ปีหลังจบการศึกษา พวกเขาให้การดูแลดวงตาทั่วไปและสามารถวินิจฉัยการรักษาโรคตาได้เกือบทั้งหมด แต่พวกเขาไม่สามารถผ่าตัดตาได้
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก