การใช้ถุงยางนั้นไม่ใช่วิธีการที่ซับซ้อน แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่คุณจะรู้วิธีที่ถูกต้องในการใช้ถุงยาง ถุงยางอนามัยนอกจากจะช่วยคุมกำเนิดแล้วยังช่วยป้องกันโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย
คำแนะนำข้างกล่องนั้นก็เป็นสิ่งที่คุณควรอ่านแต่มันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งที่คุณควรรู้ เพราะยังมีรายละเอียดบางอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อทำให้คุณปลอดภัยและสามารถใช้ถุงยางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ขั้นตอนแรกของการใช้ถุงยางก็คือตรวจสอบว่าทุกอย่างนั้นยังไม่หมดอายุ
การตรวจสอบวันหมดอายุนั้นเป็นสิ่งสำคัญคุณต้องตรวจสอบวันหมดอายุข้าง กล่องก่อนที่จะใช้งานทุกครั้ง
เพราะเมื่อถุงยางอนามัยนั้นเก่าเกินไปหรือว่าถูกเก็บไว้อย่างไม่เหมาะสมน้ำหล่อลื่นในยางก็จะสลายตัวและนั่นจะเพิ่มความเสี่ยงที่ถุงยางอนามัยจะไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
อย่าลืมประเมินความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ด้วยและต้องแน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์นั้นไม่ได้มีการฉีกขาดหรือกระแทกอย่างรุนแรง
อีกวิธีหนึ่งในการตรวจสอบถุงยางนั้นก็คือการสัมผัสฟองอากาศ
ฟองอากาศนั้นมีไว้ เพื่อปกป้องถุงยางอนามัยจากความเสียหายโดยเฉพาะถ้าหากที่บรรจุภัณฑ์ยังมีฟองอากาศอยู่นั่นหมายความว่าถุงยางอนามัยที่อยู่ภายในนั้นยังมีสภาพดีและยังสามารถใช้งานได้
วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบของอากาศก็คือค่อยๆบีบบรรจุภัณฑ์ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้และลองสัมผัสดูว่ามันยังมีฟองอากาศอยู่ภายในหรือไม่
ซองฟอยล์ของถุงยางอนามัยนั้นสามารถเปิดได้ง่ายแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องเปิดอย่างระมัดระวังถ้าหากคุณเปิดไม่น้อยระวังคุณอาจทำให้ถุงยางอนามัยภายในนั้นเสียหายได้
ขั้นแรกคุณต้องล้างมือเพราะนี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดอย่างยิ่งโดยเฉพาะหากคุณได้สัมผัสตัวของคู่รักของคุณก่อนที่คุณจะมาจับถุงยางการล้างมือนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คุณปลอดภัยจากการติดเชื้อโรคต่างๆได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นให้ฉีดบรรจุภัณฑ์อย่างระมัดระวังที่สุดโดยให้ฉีดตามมุมหรือขอบของบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่จะบอกตำแหน่งที่คุณควรจะฉีก ระวังอย่าใช้เล็บกรรไกรหรือของมีคมอื่นๆเพราะว่าคุณอาจทำให้มันฉีกขาดได้
ถุงยางอนามัยขึ้นและตรวจสอบให้แน่ใจว่าด้านใดที่คุณจะใส่ไปที่องคชาตของคน
ขอบของมันจะม้วนขึ้นจากด้านนอก ไม่ใช่อยู่ด้านใน
คุณสามารถคิดถุงยางอนามัยออกเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบได้ว่ามันมวนขึ้นด้านไหนแต่คุณไม่ควรสอดนิ้วเข้าไปในถุงยางเพื่อทำเช่นนี้เพราะมันอาจติดเชื้อจากนิ้วของคุณ
อีกวิธีง่ายๆคือเมื่อคุณลองสวมถุงยางอนามัยเข้าไปที่องคชาตแล้วถ้าหากว่ามันสามารถสวมลงไปได้อย่างง่ายดายนั่นแสดงว่าคุณใช้ด้านที่ถูกต้องแล้ว
ให้บีบที่ปลายถุงยางอนามัยจากนั้นค่อยๆใส่เข้าไปในองคชาติของคุณ
การทำเช่นนี้จะช่วยให้แน่ใจว่ามีที่ว่างสำหรับของเหลวที่จะปล่อยออกมาในระหว่างการถึงจุดสุดยอด เพราะถ้าหากไม่มีที่ว่างบริเวณนั้นถุงยางอนามัยอาจแตกได้
นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปติดอยู่ภายในถุงยางอนามัย
ถุงยางอนามัยส่วนใหญ่แล้วมีสิ่งที่เรียกว่าปลายสิ่งเพื่อช่วยเก็บสิ่งนี้เป็นการเฉพาะอยู่แล้ว
เมื่อคุณใส่ถุงยางอนามัยเข้าที่แล้วให้ใช้ถุงยางอนามัยออกจนสุดองคชาติของคุณ
การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ถ่ายทอดจากผิวหนังสู่ผิวหนัง เช่น โรคซิฟิลิส.
นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ถุงยางอนามัยมีโอกาสลื่นน้อยกว่าการรีดเพียงบางส่วนเท่านั้น
หากถุงยางอนามัยปิดไม่สนิทกับขอบขององคชาต หรือรู้สึกแน่นเกินไป แสดงว่าถุงยางอนามัยนั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป การใช้ถุงยางอนามัยที่เล็กหรือใหญ่เกินไปนั้นจะเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรค การติดเชื้อ หรือการตั้งครรภ์ได้
หากคุณรู้สึกว่าปลายของถุงยางอนามัยนั้นทองออกแสดงว่ามีอากาศติดอยู่ภายในการปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ถุงยางแตกระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ได้
ให้คุณรีดอากาศเหล่านั้นออกด้วยการวางมือของคุณไว้รอบๆโครงการชาติและค่อยๆรีดถุงยางอนามัยจะไลน์ถึงโคนนี่จะทำให้อากาศออกมาจากช่องบริเวณโคนองคชาติ
หรือคุณอาจจะใช้สารหล่อลื่นใส่เข้าไปลึกหน่อยก่อนใส่ถุงยางเพื่อช่วยในการรีดอากาศได้ง่ายขึ้น
ขณะที่ดึงอวัยวะเพศของคุณออกจากช่องคลอด หรือทวารหนักหรือเปล่า ให้จับถุงยางอนามัยที่ฐานเอาไว้เพื่อให้น้ำอสุจิที่อยู่ภายในนั้นไม่รั่วไหลออกมา และในขณะที่อวัยวะเพศของคุณหลุดออกจากช่องคลอดก็ให้บิดปลายที่เก็บน้ำอสุจิเอาไว้
เพราะถ้าหากคุณไม่ทำเช่นนี้อาจเป็นไปได้ว่าถุงยางอนามัยจะลื่นสุกหรือรั่วได้
ถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วควรทิ้งลงในถังขยะไม่ใช่โถส้วมเพราะมันอาจทำให้ท่ออุดตันได้
หรือถ้าจะให้ดีให้คุณห่อถุงยางอนามัยด้วยกระดาษชำระหรือทิชชู่เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวภายในนั้นรั่วไหลออกมา
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก