

สังคัง (Jock Itch) คือ โรคที่น่ารำคาญ และเป็นผื่นคันที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไปกับคนที่เหงื่อออกเยอะเช่น นักกีฬา ผื่นคันสามารถพบได้บ่อยในบริเวณ อวัยวะสืบพันธุ์ สะโพกและต้นขา
การติดเชื้อของสังคัง เกิดจากจุลินทรีย์ ประเภทราและยีสต์ ทำให้เกิดผื่นบริเวณหน้าขา มีสีแดงเป็นลักษณะคล้ายวงแหวน จะมีอาการคัน และขยายเป็นวงกว้างได้ในบริเวณที่อุ่นและชื้นของร่างกาย ผื่นคันนี้สามารถเกิดจากเชื้อราของโรคน้ำกัดเท้าได้ด้วย
Tinea คือ ชื่อเชื้อราประเภทกลาก ด้วยเหตุนี้ทำให้สังคังอาจมีลักษณะคล้ายกลากตรงบริเวณหน้าขา กลากสามารถเกิดได้ในโรคน้ำกัดเท้าและที่หนวดเคราได้ด้วย
อาการของสังคัง
อาการสังคัง จะเป็นผื่นสีแดงไม่นูนและมีอาการคัน โดยส่วนมากจะเริ่มต้นพบได้ในบริเวณขาหนีบ
จากนั้นผื่นจะขยายเป็นวงกว้างคล้ายวงแหวน บริเวณตรงกลางของวงแหวนจะมีอาการดีขึ้น ในบางครั้งสามารถเกิดเป็นขอบนูน รวมไปถึงอาจมีตุ่มหรืออาการพุพองเกิดขึ้นมาได้ด้วย
การขยายตัวของผื่นอาจรวมไปถึงบริเวณต้นขา หน้าขา สะโพกหรือบริเวณถุงอัณฑะ
นอกเหนือจากผื่นคัน ยังสามารถพบอาการอื่นๆได้ดังนี้:
- ผิวไหม้ คัน หรือปวดรอบๆบริเวณที่เป็นผื่นคัน
- อาการคันข้างขาหนีบและใกล้อวัยวะเพศ
- การขยายตัวหรือผิวที่แตกในบริเวณที่เกิดผื่น
- ผื่นสามารถมีอาการแย่ลงจากการออกกำลังการและไม่ตอบสนองต่อยาทาแก้คัน
โดยส่วนมากแพทย์สามารถวินิจฉัยอาการได้ด้วยลักษณะของผื่น อย่างไรก็ตามในบางครั้งผู้ป่วยอาจมีอาการที่ไม่ชัดเจน แพทย์อาจทำการส่งตัวอย่างของผิวหนังที่ติดเชื้อไปทำการเพาะเชื้อ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สังคังเกิดจากการติดเชื้อราเหมือนกับกลาก เชื้อราชนิดนี้เป็นโรคติดต่อที่สามารถพบเจอได้ง่าย และยังสามารถแพร่จากคนสู่คนได้ง่ายที่สุด จากการใช้เสื้อผ้าหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน เชื้อราชนิดนี้ยังสามารถอยู่บนพื้นผิวต่างๆ เช่น เครื่องออกกำลังกาย ทำให้สามารถติดต่อกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
เชื้อราที่ทำให้เกิดสังคัง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่อุ่นและชื้น คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการติดสังคัง คือ กลุ่มคนที่มีเหงื่อออกบ่อยและมีเหงื่อมากจากการออกกำลังกาย หรือจากภาวะน้ำหนักเกิน
ปัจจัยอื่นๆในการเกิดสังคังมี ดังนี้:
- เพศ: โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
- น้ำหนัก: คนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน จะมีชั้นพับบริเวณร่างกายมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นบริเวณที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา รวมถึงสังคังด้วย
- การที่มีเหงือออกมากๆ : เหงื่อปริมาณมากจะทำให้ผิวหนังมีความชื้น เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อราได้เช่นกัน
- อายุ: สังคังสามารถพบได้มากในวัยรุ่น
- การสวมใส่เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่รัดแน่นมากเกินไป: การรัดแน่นของเสื้อผ้า ทำให้เกิดความชื้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมของเชื้อราในการเจริญเติบโต
- มีภูมิคุ้มกันต่ำ: สังคังสามารถพบได้ในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติได้เช่นกัน
- ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน: คนที่มีอาการของโรคเบาหวาน มักมีอาการของโรคผิวหนังร่วมด้วยอยู่แล้ว ซึ่งรวมไปถึงโรคสังคังได้ด้วย
วิธีการรักษาและป้องกันสังคัง
สังคังสามารถรักษาได้ง่าย โดยส่วนมากสามารถหาซื้อยาได้ตามร้านขายยาทั่วไป เป็นยาสำหรับรักษาโรคเชื้อรา มีทั้งแบบครีม สเปรย์และโลชั่น
ถ้าหากว่ายาจากร้ายขายยาใช้ไม่ได้ผล หมออาจสั่งยาที่แรงขึ้นให้ใช้ทาควบคู่ไปกับการรับประทานยาฆ่าเชื้อ
การรักษาอื่นๆของสังคังจะรวมไปถึงการรักษาอาการคันด้วย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
สังคังสามารกลับมาเกิดได้ใหม่ โดยส่วนมากจะมีอาการคล้ายโรคน้ำกัดเท้าหรือโรคจากเชื้อราอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคสังคังได้
เราสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ เพื่อลดความเสี่ยงจากสังคังได้:
- รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ
- หลีกเลี่ยงการสร้างความชื้นที่มากเกินไปให้กับผิวหนัง เพราะความชื้นเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเชื้อรา หมั่นเช็ดขาหนีบและต้นขาให้แห้งหลังอาบน้ำอยู่เสมอ
- ทาแป้งเพื่อช่วยลดความอับชื้นหลังการออกกำลังกาย
- หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงขาลีบหรือชุดชั้นในที่รัดแน่นจนเกินไป การสวมใส่เสื้อผ้าที่แน่นจนเกินไปจะทำให้ผิวเกิดความชื้น ผู้ชายควรสวมใส่กางเกงในที่หลวมเมื่อมีโอกาส
- เปลี่ยนชุดชั้นในทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าหรือใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันกับผู้อื่น การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายด้วยการสัมผัสจากผิวหนัง
- รักษาความสะอาดของอุปกรณ์ออกกำลังกายก่อนใช้ทุกครั้ง เพราะเชื้อราโรคสังคังสามารถมีชีวิตอยู่บนพื้นผิวของสิ่งของได้
- สวมใส่รองเท้าแตะในห้องอาบน้ำสาธารณะ หรือสระว่ายน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อรา
ภาพรวมของสังคัง
แม้สังคังไม่ได้รุนแรง แต่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้ อีกทั้งยังสามารถสร้างความรำคาญ และเกิดอาการคันให้กับเราได้ สังคังจะไม่ส่งผลในระยะยาว แต่ผื่นคันต่างๆ จะสามารถกลับมาเกิดขึ้นได้ง่าย หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างเหมาะสม ปัจจุบันมีวิธีแก้สังคัง และยาทารักษาโรคสังคังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นยาทาแก้เชื้อรา ที่หาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไปโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.healthline.com/health/jock-itch
- https://kidshealth.org/en/teens/jock-itch.html
- https://www.health.harvard.edu/a_to_z/jock-itch-tinea-cruris-a-to-z
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก