Lithium คืออะไร
ลิเทียม (Lithium) เป็นธาตุมีสัญลักษณ์ Li เป็นโลหะหนักที่ใช้เป็นยาในรูปของ Lithium carbonate มีคุณสมบัติดูดซึมได้ดี ไม่จับตัวกับพลาสมาโปรตีน โดยยาจะกระจายไปตามกระดูก ต่อมไทรอยด์และสมองบางส่วน ใช้สำหรับป้องกัน โรคไบโพลาร์ และโรคซึมเศร้า ใช้ป้องกันและรักษาโรคเมเนีย หรือ โรคเมเนียขั้นรุนแรง และสามารถใช้ควบคุมอาการก้าวร้าว ความรุนแรง มีคุณสมบัติสามารถกระจายไปตามเนื้อเยื่อต่างๆ ได้ดีโดยมีกลไกออกฤทธิ์ด้วยการเข้าไปแทนที่ของโซเดียมในเซลล์ ทำให้ลดการกระตุ้นของเซลล์ประสาท และการเก็บกลับของสารสื่อต่างๆ เข้าในเซลล์ และสามารถกำจัดออกทางไต เหงื่อและน้ำลาย
รูปแบบยา
ยา Lithium carbonate จะอยู่ในรูปของแคปซูล ขนาด 300 mg
ใครไม่ควรใช้ยา Lithium carbonate
ผู้ที่ไม่ควรใช้ยา Lithium carbonate คือผู้ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ มีภาวะการทำงานของไตบกพร่อง ผู้ป่วยที่ท้องเสียและมีภาวะขาดน้ำ ผู้ป่วยที่ได้รับยาขับปัสสาวะ ยากลุ่ม ACE inhibitor, NSAIDs เนื่องจากยาที่กล่าวมาจะรบกวนการขับ sodium
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา
อาการข้างเคียงทั่วไป
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ถ่ายเหลว
- ปัสสาวะบ่อย
- มีอาการของระบบประสาทส่วนกลางหลงเหลือจากภาวะเป็นพิษเรื้อรัง
อาการข้างเคียงรุนแรง ควรพบแพทย์ทันที
- หายใจลำบาก แน่นหน้าอก
- คลื่นไส้ อาเจียนมาก
- แขนขาอ่อนแรง
- มีผื่น
- มีไข้ ไอ
- ใบหน้า ปาก คอและลิ้นมีอาการบวม
- มีอาการมึนงงอย่างรุนแรง
ข้อควรระมัดระวังใ/ตนการใช้ยา
- ไม่ควรใช้ยาในผู้ป่วยที่แพ้ยา Lithium
- ก่อนใช้ยาควรปรึกษาและแจ้งแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลการใช้ยา สมุนไพร วิตามิน อาหารเสริม
- ควรรับประทานยาตอนท้องว่าง หรือรับประทานพร้อมอาหาร เพื่อลดอาการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจรุนแรงไม่ควรใช้ยา
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรใช้ยา เนื่องจากยาสามารถผ่านเข้าสู่บุตรได้ทางรกและน้ำนม
- เมื่อใช้ยาควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- เมื่อใช้ยาควรลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของ caffeine
- หลักเลี่ยงการใช้ยาในผู้ป่วย โรคไต ขาดน้ำหรือขาด sodium
- ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือในปริมาณมาก
- เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำควรดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ห้ามเคี้ยว หัก แบ่งหรือตัดเม็ดยา
- หากลืมรับประทานยา สามารถรับประทานได้ทันที หรือรับปรัทานในมื้อต่อไปหากใกล้ถึงเวลาของมื้อถัดไป โดยรับปรัทานปริมาณตามปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่า
- ควรปรึกษาแพทย์หากต้องการหยุดยา ไม่ควรปรับปริมาณยาหรือหยุดยาเอง
- หากต้องใช้ยาควรมีการคุมกำเนิด
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก