โรคกลัวความรัก (Philophobia) มาจากคำในภาษากรีก “philos” ที่แปลว่าความรักและ “phobos” แปลว่ากลัว ปัจจุบันแพทย์ยังไม่ทราบว่ามีผู้ป่วยที่ใช้ชีวิตอยู่กับโรคกลัวความรักในชีวิตจริงอย่างไรบ้างเนื่องจากพวกเขาทราบเพียงคำนิยามตามพจนานุกรม
ตั้งแต่เเพทย์สามารถให้คำนิยามของโรคกลัวความรักตามพจนานุกรมเท่านั้น ผู้ที่มีอาการกลัวความรักหลายรายอาจพบกับความท้าทายเพื่อขอความช่วยเหลือ
อ่านและเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคกลัวความรักได้แก่ สาเหตุที่สามารถเป็นไปได้ อาการและทางเลือกของการรักษา
โรคกลัวความรักคืออะไร
ผู้ที่เป็นโรคกลัวความรักอาจมีประสบการณ์เกี่ยวกับอาการปวดหัวอ่อนๆและคลื่นไส้อาเจียน
ความกลัวเป็นอาการที่รุนเเรงมากอย่างเช่นโดยส่วนมากมีเกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผลเช่นอาการกลัวสิ่งของ สถานที่ เหตุการณ์ ความรู้สึกหรือสัตว์ที่ทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวลว่าจะทำอันตรายได้ โดยส่วนใหญ่เเล้วอาการกลัวมีดังต่อไปนี้
- กลัวเเมงมุมหรือโรคกลัวแมงมุม
- กลัวเครื่องบินหรือโรคกลัวการขึ้นเครื่องบิน
- กลัวลิฟท์หรือโรคกลัวลิฟท์
- กลัวความสูง
- กลัวห้องปิดหรือโรคกลัวที่ปิดทึบ
- อาการกลัวการอยู่ในที่โล่งที่มีคนพลุกพล่านโรคกลัวอยู่ในที่โล่งหรือที่ชุมชน
- โรคกลัวการถูกเยาะเย้ย
โรคกลัวความักเป็นโรควิตกกังวลประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เป็นโรคนี้มักไม่มีอาการใดๆแสดงจนกระทั่งเกิดการเผชิญหน้า
สำหรับผู้ที่มีอาการหวาดกลัวความรักอย่างรุนเเรงอาจเคยมีประสบการณ์กับอาการกลัวความรักและรู้สึกวิตกกังวลเมื่อพูดถึงเกี่ยวกับความรัก แพทย์เรียกปรากฎการณ์นี้ว่าความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ในอนาคต
อาการโรคกลัวความรัก
แตกต่างจากความกลัวประเภทอื่นๆ ตัวอย่างเช่นโรคกลัวที่ชุมชน ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจไม่มีอาการวิตกกังวลทุกวันแต่บางคนอาจมีประสบการณ์กลัวหรือวิตกกังวลทุกวัน อย่างไรก็ตามถ้าหากผู้ป่วยมีความรู้สึกกลัวและวิตกกังวลทุกวันเป็นประจำอาจทำให้การใช้ชีวิตผิดปกติ
ผู้ที่มีอาการกลัวความรักมีอาการดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับอาการกลัวประเภทอื่นๆ
- ทรงตัวไม่ได้
- วิงเวียนศีรษะ
- ปวดหัวอ่อนๆ
- อาเจียน
- มีเหงื่อออก
- อัตราการเต้นของหัวใจแรงขึ้นหรือหัวใจเต้นไม่ปกติ
- หายใจสั้น
- ตัวสั่น
- ปวดท้อง
ผู้เชี่ยวชาญยังสามารถระบุอาการของโรคกลัวความรักโดยเฉพาะได้ ดังนั้นแพทย์จำเป็นต้องได้รับข้อมูลมากพอเกี่ยวกับอาการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยเพื่อให้ทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสม
สาเหตุของโรคกลัวความรัก
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกลัวได้แก่
- อุบัติเหตุหรือความทุกข์ทรมานอย่างรุนเเรง
- ประสบการณ์เรียนรู้ในวัยเด็ก
- พันธุกรรม
ผู้เชี่ยวชาญบางคนอาจเกิดมาพร้อมกับอาการกลัวหรือกังวลซึ่งก่อให้เกิดความกลัวบางประเภท แต่ปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดโรคกลัวความรัก
การวินิจฉัยโรค
ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้จัดให้โรคกลัวความรักอยู่ในระบบการจำแนกโรคทางจิตเวชฉบับปรับปรุงครั้งที่ 5 ซึ่งระบบนี้เป็นคู่มือเกี่ยวกับโรคทางจิตเวชที่แพทย์ทั่วโลกใช้ โดยปกติไม่มีคู่มือมาตรฐานอันไหนที่กำหนดเเนวทางสำหรับการวินิจฉัยโรคกลัวความรัก
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่จำกัดเกี่ยวกับโรคกลัวความรัก โดยผู้ที่มีอาการกลัวความรักนี้มักเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับโรคนี้หรือหาวิธีรักษา ยิ่งไปกว่านั้นในขณะที่คนส่วนใหญ่ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับอาการกลัวมักมีความรู้สึกกลัวเเละรู้สึกกังวลมากที่จะปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้ที่เป็นโรคกลัวความรักมักจะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดอาการตกหลุมรัก อย่างไรก็ตามการเพิกเฉยต่ออาการกลัวอาจทำให้เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น
การรักษา
ผู้ที่เป็นโรคกลัวความรักควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับความช่วยเหลือ
สำหรับอาการกลัวประเภทอื่นๆ แพทย์จะรักษาผู้ป่วยด้วยการให้ผู้ป่วยค่อยๆสัมผัสกับสิ่งของ สถานที่ เหตุการณ์ สัตว์หรือค่อยๆพูดถึงเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขารู้สึกกลัว แพทย์เรียกวิธีการรักษานี้ว่าการบำบัดเพื่อลดพฤติกรรมที่อ่อนไหวลง
สำหรับความกลัวที่มีความซับซ้อนจำเป็นต้องใช้เวลาในการรักษายาวนานมากขึ้น ซึ่งวิธีการรักษาโรคเกี่ยวกับจิตใจประเภทอื่นๆที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสามารถนำมาใช้รักษามีดังต่อไปนี้
- การปรึกษา
- การทำจิตบำบัด
- การบําบัดทางความคิดและพฤติกรรม (CBT)
มีโอกาสน้อยมากที่ผู้ที่เป็นโรคกลัวความรักจำเป็นต้องทานยาร่วมกับการทำจิตบำบัดเพื่อบรรเทาอาการกลัว ซึ่งแพทย์อาจสั่งยาให้ผู้ป่วยได้แก่ยาดังต่อไปนี้
- ยาต้านอาการซึมเศร้า
- ยากล่อมประสาท
- ยากลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์
ปัจจัยเสี่ยง
ความกลัวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนวัยไหน เพศอะไรหรือมีสถานภาพทางสังคมอย่างไร
การวินิจฉัยสาเหตุที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดโรคกลัวความรักมาจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในครอบครัวของพ่อเเม่
ความสัมพันธ์แรกที่เด็กมีคือความสัมพันธ์กับแม่ เมื่อพวกเขามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเเม่ของพวกเขา เมื่อเติบโตขึ้นพวกเขาอาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีในวัยผู้ใหญ่
หนึ่งงานวิจัยที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคกลัวความรักระบุว่า อาการกลัวความรักเกิดขึ้นจากพื้นฐานจิตใจของผู้ชายเเละผู้หญิง ในงานวิจัยได้ระบุว่าคนเรามักมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเเม่มากกว่าพ่อเนื่องจากมีสภาวะทางจิตใจที่แต่ต่างกัน ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าพันธุกรรมเป็นอาจปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการกลัวได้ แต่ยังไม่มีงานวิจัยยืนยันความเป็นไปได้นี้
ภาวะแทรกซ้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการอยู่กับความกลัว ทำให้ผู้ที่มีอาการนี้ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์กับคู่รักและผู้อื่นได้ยาวนานเเละมั่นคงได้
ผู้ที่มีอาการกลัวความรักอาจรู้สึกมีระยะห่างกับคู่รักหรือพยายามรักษาระยะห่างในความสัมพันธ์หรือแม้แต่รู้สึกหวาดกลัวพวกเขา ในบางกรณีอาการกลัวความรักสามารถทำให้ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
ผู้ป่วยบางคนอาจรู้สึกผิดเกี่ยวกับการต้องการความรักเพราะพวกเขาได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์ของพ่อเเม่ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการอยู่อย่างอิสระ
สำหรับภาวะแทรกซ้อนอื่นๆยังขาดงานวิจัยที่สนับสนุน
บทสรุป
แพทย์มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคกลัวความรักอย่างจำกัด และผู้ที่อยู่กับอาการกลัวนี้มักเลือกที่จะไม่พูดถึงความกังวลของพวกเขา
เช่นเดียวกับนักวิจัยคนอื่นๆที่พบอุปสรรค์ในการศึกษาเกี่ยวกับโรคกลัวความรัก เนื่องจากผู้ที่อาการกลัวความรักไม่เต็มใจที่จะปรึกษาหรือเข้าร่วมทำการวิจัย นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังไม่ได้จัดให้โรคกลัวความรักอยู่ในคู่มือโรคทางจิต DSM-5 ดังนั้นแพทย์จำเป็นต้องใช้คู่มือการรักษาโรคอื่นๆ
วิธีที่ดีที่สุดคือการทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคกลัวความรัก ซึ่งแพทย์จำเป็นต้องทำการวิจัยในอนาคตเพื่อเรียนรู้วิธีรักษาและดูแลผู้ที่อาศัยอยู่กับอาการกลัวความรัก
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.healthline.com/health/philophobia
- https://www.tripboba.com/article_health_know-more-about-philophobia-and-how-to-treat-it.html
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก