เราทุกคนล้วนเคยใช้พลาสเตอร์ในช่วงชีวิตของเรา ใช้ปิดรอยถลอก และบาดแผลช่วยห้ามเลือด และให้การป้องกันบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ แม้ว่าพลาสเตอร์อาจดูเหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมดา แต่การพลาสเตอร์ปิดแผลให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ คุณอาจใช้พลาสเตอรืเตอร์แบบใดก็ได้ แต่การเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอาจสร้างความแตกต่างอย่างมากในด้านความสะดวกสบาย พลาสเตอร์มีหลายประเภทสำหรับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน และการใช้รูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับบาดแผลต่างๆ หรือแม้แต่กิจกรรมต่างๆ ก็สามารถช่วยปกป้องบาดแผลของคุณได้มากขึ้น และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
พลาสเตอร์มีหลายรูปแบบ ซึ่งมีประโยชน์มากในการปิดบาดแผลในบริเวณต่างๆ รูปร่างของพลาสเตอร์ทั่วไปคือแถบยาว ออกแบบมาเพื่อปกปิดอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่คุณยังพบเห็นพลาสเตอร์ สี่เหลี่ยม วงกลม และอื่นๆ ที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ต่างๆ พลาสเตอร์ธรรมดานั้นใช้ได้สำหรับบาดแผลหลายๆ อย่าง รวมถึงที่แขน ขา หรือส้นเท้า แต่อาจทำให้อวัยวะบางส่วนใช้ได้ไม่สะดวก ตัวอย่างเช่น พลาสเตอร์รูปตัว H ได้รับการออกแบบมาให้พอดีกับนิ้วมือและนิ้วเท้ามากขึ้น ซึ่งพลาสเตอร์สมานแผลแบบมาตรฐานอาจไม่เหมาะกับการใช้งานเสมอไป
พลาสเตอร์ขนาดเล็ก และกลมอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแผลเล็กๆ ที่อาจไม่ต้องใช้พลาสเตอร์ขนาดใหญ่ เช่น บริเวณที่ฉีดวัคซีน หรือบาดแผลเล็กๆ แผ่น หรือม้วนพลาสเตอร์ช่วยให้คุณตัดพลาสเตอร์ที่มีขนาด และรูปร่างเหมาะสมกับบาดแผล
อ่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การดูแลแผลถลอก
การเลือกใช้วัสดุสำหรับพลาสเตอร์ยังช่วยให้คุณพบพลาสเตอร์ที่ใช่สำหรับการใช้งานที่เหมาะสม พลาสเตอร์แบบผ้าเป็นตัวเลือกที่ทนทาน และยืดหยุ่น แม้ว่าจะไม่กันน้ำ ดังนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับการรักษาบาดแผลให้แห้ง พลาสเตอร์กันน้ำ หรือกันการชะล้างเป็นทางเลือกหนึ่งหากคุณต้องการบางสิ่งบางอย่างสำหรับการว่ายน้ำ หรือบางทีสำหรับใช้ติดมือ ไม่ต้องกังวลว่าพลาสเตอร์จะหลุดออกมาเวลาล้างมือ หรือล้างทำความสะอาดสะดวกเสมอ หากคุณมีผิวแพ้ง่าย คุณอาจชอบพลาสเตอร์ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสิ่งนั้น พวกมันอ่อนโยนกว่า และเลี่ยงการใช้กาว และวัสดุอื่นๆ ที่อาจระคายเคืองผิวของคุณ
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การดูแลแผลเปิด
คุณยังสามารถเลือกพลาสเตอร์ในสีต่างๆ ได้ บางครั้งด้วยเหตุผลเชิงปฏิบัติหรือเพื่อความสนุกสนาน คุณอาจพิจารณาพลาสเตอร์ที่มีสีต่างกันเพื่อให้เข้ากับสีผิวของคุณ พลาสเตอร์จำนวนมากผลิตด้วยสีเบจที่ออกแบบมาให้เข้ากับผิว แต่โดยทั่วไปแล้วจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวขาวเท่านั้น พลาสเตอร์สีต่างๆมีออกมาเพิ่มมากขึ้น มีจำหน่ายแล้ว เพื่อให้ผู้ที่มีผิวคล้ำสามารถเลือกพลาสเตอร์ที่เข้าชุดกัน พลาสเตอร์ใสก็เป็นทางเลือกหนึ่งเช่นกัน และสามารถใช้ในตอนว่ายน้ำได้ดี พลาสเตอร์ใสเหมาะกับทุกสีผิว และไม่โดดเด่นจนเกินไป
คุณสามารถเลือกพลาสเตอร์ที่มีสีสัน และลวดลายสนุกๆ ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาพลาสเตอร์สำหรับเด็ก การได้รับบาดเจ็บอาจทำให้ไม่สบายใจ และจะสบายใจขึ้นมากเมื่อได้ใช้พลาสเตอร์สีโปรด พลาสเตอร์สำหรับเด็กไม่เพียงแต่นำเสนอลวดลายที่สนุกสนานเท่านั้น พวกเขามักจะล้างทำความสะอาดได้ และอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบาง ดังนั้นจึงใช้งานได้จริงเช่นกัน
พลาสเตอร์บางชนิดได้รับการออกแบบเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ พลาสเตอร์สีน้ำเงินมักใช้ในงานจัดเลี้ยง และสภาพแวดล้อมการทำงานอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เตรียมอาหาร สีฟ้าทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าคุณมีบาดแผล และทำให้พลาสเตอร์มองเห็นได้ง่าย ป้องกันไม่ให้เข้าไปในอาหารโดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเขายังมีแถบโลหะที่สามารถตรวจจับได้เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถตรวจจับได้เป็นสองเท่า การรักษาสุขอนามัยในสภาพแวดล้อมการเตรียมอาหารเป็นสิ่งสำคัญ และพลาสเตอร์สีน้ำเงินช่วยทำให้ง่ายขึ้น
พลาสเตอร์กันรองเท้ากัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพลาสเตอร์ประเภทอื่น ออกแบบมาให้พอดีกับบาดแผล เช่นเดียวกับพลาสเตอร์อื่นๆ แต่ให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปมาก พลาสเตอร์กันรองเท้ากัดมักจะมีแผ่นเจลซึ่งช่วยลดแรงกดบนตุ่มพอง และป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองเพิ่มเติม แผลพุพองเป็นแผลที่เต็มไปด้วยของเหลวที่อาจเกิดขึ้นจากการเสียดสี และการเสียดสีจำนวนมาก หลายคนเข้าใจเป็นอย่างดีเมื่อใส่รองเท้าคู่ใหม่ หรือเดินมาก พลาสเตอร์กันรองเท้ากัดไม่เพียงแต่ช่วยรักษาแผลพุพอง แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดตุ่มพองได้อีกด้วย
พลาสเตอร์มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด การเลือกพลาสเตอร์ในชุดปฐมพยาบาลของคุณหมายความว่าคุณสามารถเลือกพลาสเตอร์ที่เหมาะสมสำหรับบาดแผล และสถานการณ์ต่างๆ (ดูพลาสเตอร์ทั้งหมดของเราที่นี่) พลาสเตอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณรู้สึกสบาย และปกป้องบาดแผลของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะทำงานในครัว วางแผนจะไปว่ายน้ำ หรือต้องการให้เท้าของคุณมี TLC บ้างหลังจากการปีนเขาที่ยาวนาน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเลือกรองเท้าออกกำลังกาย
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก