โรคเลือดข้น (Polycythemia) หรือภาวะที่มีการสร้างเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติหมายถึงการที่ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดเเดงที่มีขนาดใหญ่จำนวนมากเกินไป ส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในเนื้อเยื่อ
เลือดข้นเกิดจากหลายสาเหตุและมีวิธีการรักษาเฉพาะ โดยการรักษาโรคเลือดข้นได้แก่การรักษาอาการที่เกิดขึ้น รวมถึงหาวิธีที่ทำให้ระดับของเซลล์เม็ดเลือดแดงลดลง
ในบทความนี้เราได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของโรคเลือดข้นและสาเหตุรวมถึงทางเลือกในการรักษา
อาการของโรคเลือดข้น
ภาวะเลือดข้นเป็นความผิดปกติการผลิตเซลล์เม็ดเลือดเเดง ดังนั้นผู้ที่มีอาการเลือดข้นควรระมัดระวังและมั่นสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นเนื่องจากอาการของโรคเลือดข้นจะค่อยๆเริ่มปรากฎขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
การที่ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงมากเกินไปซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดเเดงขนาดใหญ่กว่าปกติทำให้การไหลเวียนเลือดผิดปกติได้ นอกจากนี้คนที่เป็นโรคเลือดข้นยังมีความเสี่ยงเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเลือดข้นเนื่องจากมีเซลล์เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดมากเกินไป
แพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติของเม็ดเลือดแดงด้วยการตรวจเลือดหรือค้นหาอาการอื่นๆที่เกิดขึ้น
อาการของโรคเลือดข้นส่วนใหญ่มักมีอาการรุนเเรงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งอาการทั่วไปได้แก่
- วิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกบ้านหมุน
- ปวดหัว
- เหงื่อออกมาเกินไป
- คันผิวหนัง
- ได้ยินเสียงก้องในหู
- มองเห็นภาพเบลอ
- ร่างกายอ่อนล้า
- มีผื่นสีเเดงหรือสีม่วงขึ้นที่ฝ่ามือ ใบหูและจมูก
- เลือดออกหรือเกิดรอยฟกช้ำ
- รู้สึกปวดเเสบปวดร้อนที่เท้า
- ท้องบวมโต
- เลือดกำเดาไหลบ่อย
- เลือดออกที่เหงือก
ถ้าหากปล่อยให้เกิดอาการเลือดข้นและไม่ทำการรักษา ผู้ที่เป็นโรคเลือดข้นมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้เช่น
- ม้ามโต
- เกิดลิ่มเลือด
- ปวดเค้นในหน้าอก
- เส้นเลือดในสมองแตก
- แผลในกระเพาะอาหาร
- โรคหัวใจ
- โรคเก๊าต์
- ความผิดปกติเกี่ยวกับเลือดเช่นโรคลิวคีเมียหรือโรคผังพืดไขกระดูก
ประเภทของโรคเลือดข้น
โรคเลือดข้นมี 2 ประเภท ซึ่งเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน
ไขกระดูกผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากผิดปกติ (Primary polycythemia)
นอกจากนี้ภาวะเลือดข้นยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าโรคเกล็ดเลือดสูง (PV)
โรคเกล็ดเลือดสูง (PV) เป็นโรคที่พบได้น้อยมาก ซึ่งเป็นการเติบโตของเซลล์เม็ดเลือดมะเร็งที่เรียกว่าอาการของกลุ่มโรคไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดมากผิดปกติ (myeloproliferative neoplasm) ภาวะเกล็ดเลือดสูงทำให้ไขกระดูกสันหลังผลิตเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดมากเกินไป จึงส่งผลทำให้เกิดการผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ
นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคเลือดข้นยังมีปริมาณของเม็ดเลือดชนิดอื่นเช่นเม็ดเลือดขาวหรือเกล็ดเลือดเพิ่มสูงขึ้นด้วย
การผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิตินมากเกินไป (secondary polycythemia)
โรคเลือดข้นชนิดนี้เกิดจากการมีเซลล์เม็ดเลือดเเดงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับโรคไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดมากผิดปกติ
การผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงมากเกินไปและทำให้เกิดภาวะเลือดข้นชนิดนี้เกิดขึ้นเมื่อมีการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงผิดปกติเนื่องจากฮอร์โมนอีริโทโพอิตินเท่านั้น
สาเหตุของภาวะเลือดข้นที่เกิดจากการผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิตินมากเกินไปได้แก่:
- การอยู่บนที่สูงมากเกินไป
- ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- เนื้องอกบางชนิด
- โรคปอดหรือหัวใจที่ทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายลดลง
การวินิจฉัยโรค
แพทย์จะทำการวินิจฉัยเพื่อค้นหาภาวะเลือดข้นด้วยการตรวจหลากหลายวิธีเพื่อระบุสาเหตุของการเกิดภาวะเลือดข้นซึ่งได้แก่
การตรวจเลือด
การตรวจเลือดเช่นการนับจำนวนเม็ดเลือดที่กลายเป็นเซลล์เม็ดเลือดเเดงในกระเเสเลือด รวมถึงระดับของเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดที่เพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ถ้าหากพบสัญญาณผิดปกติของโรคเลือดข้น แพทย์จะสั่งให้ทำการตรวจเลือดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
การเจาะหรือดูดไขกระดูกเพื่อตรวจเนื้อเยื่อ
ในกรณีที่จำเป็น แพทย์จะทำการเจาะหรือดูดไขกระดูกออกมาตรวจสอบในห้องทดลองด้วยวิธีทดสอบเฉพาะ
การตรวจเนื้อเยื่อไขกระดูกสันหลังหมายถึงการเจาะไขสันหลังเพื่อนำตัวอย่างชิ้นเนื้อของไขกระดูกสันหลังออกมาตรวจด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์
การตรวจสารพันธุกรรม
แม้ว่าภาวะเลือดข้นที่มีสาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรมพบได้น้อยมาก แต่แพทย์สามารถวิเคราะห์สาเหตุของการเกิดภาวะเลือดหนืดที่มีความเชื่อมโยงกับการกลายพันธุ์ของยีนได้
นอกจากนี้แพทย์ยังเเนะนำให้ตรวจเซลล์ในเลือดเพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนที่มีชื่อว่า JAK2
วิธีการรักษา
วิธีการรักษาโรคเลือดข้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเลือดข้น
สำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดข้นเนื่องจากการผลิตฮอร์โมนอีริโทโพอิตินมากเกินไป (secondary polycythemia) อาจมีสาเหตุเกิดจากโรคนอนหยุดหายใจชนิดอุดกั้น ดังนั้นการรักษาอาการที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยทำให้ระดับเม็ดเลือดลดลง
อย่างไรก็ตามสำหรับโรคเลือดข้นหนืดชนิดเรื้อรังเป็นยังไม่มีวิธีการรักษา เนื่องจากการรักษาโรคเลือดข้นมีจุดประสงค์เพื่อลดระดับของปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาวหรือเซลล์เม็ดเลือดแดงเท่านั้น รวมถึงความเสี่ยงของการเกิดภาวะเเทรกซ้อนอย่างเช่นลิ่มเลือดอุดตันเป็นต้น ถ้าหากมีจำนวนเกล็ดเลือดมากเกินไปก็มีวิธีการรักษาเช่นกัน
วิธีการรักษาโรคเลือดข้นได้แก่
การถ่ายเลือด (Phlebotomy)
สำหรับวิธีจัดการกับโรคเลือดข้น แพทย์จะใช้วิธีลดปริมาณความเข้มข้นของเซลล์เม็ดเลือดแดงด้วยวิธีการที่เรียกว่าการถ่ายเลือด ซึ่งเป็นการเจาะน้ำเลือดออกจากเส้นเลือดดำเส้นหนึ่ง
ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน แพทย์แนะนำให้นำเลือดออกเพื่อทำให้ปริมาณเลือดในร่างกายสมดุลอยู่ในระดับปกติ
การใช้ยาเพื่อลดปริมาณเซลล์เม็ดเลือดแดง
บางครั้งการถ่ายเลือดอาจไม่เพียงพอต่อการควบคุมปริมาณการเติบโตของเซลล์เม็ดเลือด ดังนั้นแพทย์จะเเนะนำให้ใช้ยากดการทำงานของไขกระดูกเพื่อควบคุมการผลิตเซลล์เม็ดเลือด
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยา hydroxyurea (Hydrea) ที่ออกฤทธิ์กดการทำงานของไขกระดูกได้เช่นกันเพื่อยับยั้งการผลิตเซลล์เม็ดเลือดมากเกินไป
JAK2 อินฮิบิเตอร์
ในกรณีที่อาการเลือดข้นไม่ตอบสนองต่อการใช้ยารักษา แพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ JAK2 ที่ทำหน้าที่ผลิตสารพันธุกรรม JAK2 ซึ่งยาที่นำมาใช้ได้แก่ยา ruxolitinib (Jakafi)
การใช้ยาประเภทอื่นๆ
นอกจากนี้แพทย์มักแนะนำให้ใช้ยาชนิดอื่นเพื่อควบคุมอาการเลือดข้น ซึ่งได้แก่ยาแอสไพรินและยาต้านฮีสทามีน การทานยาอีสทามีนปริมาณเล็กน้อยช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเลือดอุดตันในผู้ที่มีภาวะเลือดข้นและยังช่วยบรรเทาอาการปวดหัว นอกจากนี้แพทย์จะเเนะนำให้ทานยาต้านฮีสทามีนเพื่อลดอาการคันผิวหนังด้วยเช่นกัน
บทสรุป
โรคเลือดข้นหมายถึงการมีเซลล์เม็ดเลือดเเดงในร่างกายเพิ่มมากขึ้น แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคนี้ด้วยการตรวจนับเซลล์เม็ดเลือดแดงประจำวันหรือตรวจร่างกายเมื่อมีอาการของโรคเลือดข้น
สำหรับโรคเลือดข้นเรื้อรังยังไม่มีวิธีการรักษา อย่างไรก็ตามการรักษาที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยจัดการกับโรคเลือดข้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ใดก็ตามที่มีอาการเลือดข้นหรือครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเกล็ดเลือดสูง ควรไปพบเเพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/polycythemia-vera/symptoms-causes/syc-20355850
- https://www.webmd.com/cancer/polycythemia-vera
- https://www.healthline.com/health/polycythemia-vera
- https://www.nhs.uk/conditions/polycythaemia/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก