ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ หรือ Septic Shock คือ ภาวะที่รุนแรง และมีอันตรายถึงชีวิตเกิดขึ้นเมื่อความดันโลหิตลดลงต่ำ ภาวะช็อกจากการติดเชื้อเกิดจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อที่มากเกินไป
การรักษา
ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ เป็นการเจ็บป่วยที่รุนแรงมาก การได้รับการรักษาในทันทีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพื่อที่จะให้ผู้ป่วยรอดจากภาวะนี้ และป้องกันอาการช็อก ผู้ที่เป็นภาวะนี้ต้องนอนโรงพยาบาล และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด
การศึกษาแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีภาวะช็อกจากการติดเชื้อมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกชั่วโมงก่อนที่จะได้รับยาปฏิชีวนะ
แพทย์อาจใช้ยาเหล่านี้เพื่อรักษา Septic Shock :
ยาปฏิชีวนะ: การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะควรจะเริ่มขึ้นภายใน 6 ชั่วโมงแรกหลังจากการวินิจฉัย แพทย์จะฉีดยานี้เข้าเส้นเลือด
ปกติแล้วแพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะ Broad-Spectrum ที่มีฤทธิ์ต่อสู้กับแบคทีเรียส่วนมากที่เป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อ
เมื่อผลตรวจเลือดออกมาแล้วว่าเป็นแบคทีเรียชนิดใดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ แพทย์จะเปลี่ยนเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาแบคทีเรียนั้น ๆ
Vasopressors: ยานี้เป็นยาที่จำเป็นเพื่อรักษาความดันโลหิตในผู้ที่มีภาวะ Septic Shock แพทย์จะใช้ยานี้เมื่อความดันโลหิตของผู้ป่วยลดลงต่ำลง หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับของเหลวต่าง ๆ
Vasopressors ออกฤทธิ์โดยการทำให้หลอดเลือดตีบลง ซึ่งทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นหากความดันโลหิตลดลงจากการใช้ยานี้ ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล
Corticosteroids: แพทย์จะใช้ยานี้เมื่อความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจไม่เสถียรถึงแม้ว่าจะได้รับของเหลวต่าง ๆ และยา Vasopressors แล้วก็ตาม
ยาอื่น ๆ ที่แพทย์อาจใช้คืออินซูลิน ที่ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่ และยาที่ช่วยเปลี่ยนการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ในบางกรณี ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาฝีออกด้วย
ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อรุนแรง และภาวะช็อกจากการติดเชื้อ มักต้องอยู่ในห้องไอซียู เพราะจำเป็นต้องให้ออกซิเจน ให้ของเหลวทางเส้นเลือด และให้ยา ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ผู้ป่วยบางคนอาจต้องฟอกไตเพราะไตวายร่วมด้วย
สาเหตุ
สาเหตุส่วนมากของ Sepsis คือ การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อแบคทีเรียสามารถทำให้เกิดภาะวช็อกจากการติดเชื้อได้
เมื่อแบคทีเรียเข้าสู่กระแสเลือด อาจเกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตรายได้
แบคทีเรีย หรือตัวการที่ทำให้ติดเชื้ออื่น ๆ สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้จากแผลเปิดที่ผิว เช่น การถูกบาด หรือการถูกเผา
Sepsis สามารถเกิดจากการติดเชื้อที่อวัยวะ เช่น การติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อที่ปอด เชื้อรา และไวรัสก็ทำให้สามารถเกิดการติดเชื้อได้ เช่น กัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แต่ไม่พบมากนัก
การติดเชื้อที่ทำให้เกิดภาวะช็อกจากการติดเชื้อมากที่สุด คือ การติดเชื้อบริเวณท้อง ไต และทางเดินปัสสาวะ
กลุ่มคนเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะช็อกจากการติดเชื้อ:
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี หรือมากกว่า 65 ปี
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ที่กำลังรักษาแบบเคมีบำบัด
- ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง หรือป่วยอยู่ เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด หรือไตวาย
- ผู้ที่มีแผลเปิด ได้รับบาดเจ็บ หรือแผลไฟไหม้
- ผู้ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ฝังอยู่ในร่างกาย เช่น เข็มให้น้ำเกลือ หรือท่อช่วยหายใจ
อาการ
อาการของภาวะช็อกจากการติดเชื้ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน อาการเบื้องต้นมักมีดังนี้:
- หายใจถี่
- มีไข้ หนาวสั่น
- รู้สึกปวด ไม่สบายตัว
- อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น
- สับสนแบบไม่มีเหตุผล
- เหงื่อออก หรือตัวเย็น
อาการอื่น ๆ อาจมีดังนี้:
- สัญญาณของการติดเชื้อทั่วไป เช่น ไข้ ท้องเสีย อาเจียน หรือเจ็บคอ
- ปัสสาวะน้อยลง
- ผิวซีด
- มีผื่น
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/blood-and-lymph/septic-shock
- https://www.healthline.com/health/septic-shock
- https://www.mayoclinicproceedings.org/article/S0025-6196(11)63475-7/fulltext
- https://dermnetnz.org/topics/cholinergic-urticaria/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก