เสียงอื้อในหู (Tinitus) คือการได้ยินเสียง “สั่นกระดิ่งเกิดขึ้นในหู” นอกจากเสียงนี้พวกเขายังได้ยินเสียงฟ่อ เสียงดังกริ๊กหรือเสียงกระซิบเกิดขึ้นภายในหู ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบชั่วคราวและเรื้อรังถาวร
สาเหตุทั่วไปที่ทำเกิดภาวะหูอื้อคือการได้ยินเสียงดังสะสมเป้นเวลานานหรือได้รับการบาดเจ็บที่คอและศีรษะรวมไปถึงการติดเชื้อในหู บางครั้งอาการหูอื้อสามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายเเรงได้
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาภาวะเสียงอื้อในหูแต่มีวิธีจัดการกับอาการนี้ คนส่วนใหญ่ที่มีภาวะเสียงอื้อในหูเรื้อรังจะสามารถปรับตัวกับเสียงสั่นกระดิ่งที่เกิดขึ้นในหูได้เมื่อเวลาผ่านไป โดย 1 ใน 5 ของผู้ที่มีภาวะเสียงอื้อพบว่าอาการนี้รบกวนการใช้ชีวิตของผู้ป่วยหรือมีอาการที่รุนเเรงขึ้น
ในผู้ป่วยบางรายอาการนี้นำไปสู่โรคนอนไม่หลับ ทำให้มีสมาธิจดจ่อได้น้อยลงในการทำงานหรือการเรียน รบกวนจิตใจ ทำให้เกิดอาการกังวลเเละเกิดโรคซึมเศร้าได้
ภาวะเสียงอื้อในหูคืออะไร
อาการเสียงหูอื้อเกิดขึ้นเมื่อเราได้ยินเสียงบางอย่างที่ไม่สามารถทราบถึงต้นกำเนิดของเสียงนั้นๆภายนอกร่างกายได้ ซึ่งภาวะนี้ไม่ใช่โรคแต่สามารถทำให้เกิดอาการต่างๆตามมาได้
โดยปกติเสียงที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีภาวะหูอื้อมีความเเตกต่างกันซึ่งหมายความว่าผู้ที่มีภาวะเสียงอื้อในหูเท่านั้นสามารถได้ยินเสียงเหล่านั้นได้
โดยอาการส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นมักมีรูปเเบบเสียงสั่นของกระดิ่งที่เกิดขึ้นสม่ำเสมอและมีเสียงสูงดังนั้นเสียงเหล่านี้จึงทำให้เกิดอาการรำคาญแต่โดยปกติเเล้วภาวะนี้ไม่ได้บ่งบอกถึงอาการร้ายเเรงชองโรคใดๆ
มีเพียง 1 เปอร์เซนต์ของภาวะเสียงอื้อในหูที่เกิดจากภาวะอื่นๆที่ทำให้ผู้คนได้ยินอื้อเกิดขึ้นในหู บางครั้งเสียงที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจหรือระบบกล้ามเนื้อเเละกระดูกภายในร่างกายของคน ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณของโรคร้ายเเรงที่อาจเกิดขึ้นได้
อาการหูอื้อ
ภาวะเสียงอื้อในหูไม่เกี่ยวกับการได้ยินเสียง โดยเสียงที่เกิดขึ้นภายในหูสามารถเกิดขึ้นเป็นพักๆหรือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจเกิดขึ้นในหูข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างไม่ว่าจะเป็นเสียงที่มีความถี่ต่ำหรือความถี่สูง
ภาวะเสียงอื้อในหูที่เกิดขึ้นมีหลายรูปแบบโดยสามารถอธิบายเป็นเสียงต่างๆดังต่อไปนี้เช่น เสียงผิวปาก เสียงกึ๊กกั๊ก เสียงแหลมเเละดัง เสียงฟ่อ เสียงไฟฟ้าสถิตย์ เสียงคำราม เสียงหึงๆเหมือนผึ้งบิน เสียงเต้นของชีพจร เสียงกระเเสน้ำไหลหรือเสียงเครื่องดนตรี
ระดับความดังของเสียงที่ได้ยินมีระดับความดังที่เกิดขึ้นเเตกต่างกัน โดยปกติสามารถสังเกตุเสียงที่เกิดขึ้นในหูได้ในช่วงกลางคืนหรือในช่วงที่มีเสียงเงียบ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยิน
การรักษาอาการหูอื้อ
ขั้นตอนเเรกของการรักษาคือการรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับภาวะเสียงอื้อในหู
วิธีการรักษาอาการที่เกี่ยวข้องได้แก่
- การรักษาภาวะติดเชื้อภายในช่องหู
- การใช้ยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดหูอื้อ
- การรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคความผิดปกติที่ข้อต่อขากรรไกรที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกแก้มเเละกระดูกขากรรไกร
ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาภาวะเสียงอื้อในหูโดยเฉพาะ โดยผู้คนส่วนมักมีการปรับตัวเเละเรียกรู้เกี่ยวกับลักษณะของเสียงที่เกิดขึ้นซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาจะเพิกเฉยต่อเสียงที่ได้ยินเเละมุ่งเน้นไปที่วิธีการบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นเเทน
ถ้าหากการรักษาใช้ไม่ได้ผล ผู้ป่วยอาจต่อสนองกับวิธีการรักษาอาการที่เกิดขึ้นจากภาวะเสียงอื้อในหูเช่นภาวะนอนไม่หลับ ภาวะวิตกกังวล ได้ยินเสียงแปลกๆ ไม่ชอบเข้าสังคมและโรคซึมเศร้า การรักษาโรคเหล่านี้ให้คุณภาพของผู้ป่วยดีขึ้นได้
สาเหตุหูอื้อ
สาเหตุส่วนใหญ่ของภาวะเสียงอื้อในหูเกิดจากความเสียหายและการสูญเสียเซลล์เส้นประสาทสัมผัสขนาดเล็กภายในอวัยวะรูปหอยโข่งของหูชั้นใน
ภาวะเสียงอื้อภายในหูมีเเนวโน้มเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยรวมถึงผู้ที่สัมผัสกับเสียงดังมากเกินไปเป็นระยะเวลายาวนาน ดังนั้นภาวะสูญเสียการได้ยินจึงเกิดจากภาวะเสียงอื้อในหู
นักวิจัยเเนะนำว่าการสูญเสียประสาทสัมผัสเสียงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการได้รับคลื่นความถี่ของเสียงจึงทำให้สมองเปลี่ยนกระบวนการรับรู้เสียง
เมื่อสมองได้รับการกระตุ้นภายนอกด้วยคลื่นความถี่เสียงเฉพาะ สมองจะเริ่มปรับตัวเเละเปลี่ยนแปลงการรับรู้เสียง ภาวะเสียงอื้อในหูอาจเกิดจากการที่สมองปรับเปลี่ยนวิธีรับเสียงเพื่อเติมเต็มสัญญาณของเสียงที่ขาดหายไปซึ่งเป็นเสียงที่ไม่สามารถได้ยินอีกต่อไป
การใช้ยาบางประเภทเช่นยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน ยาปฏิชีวนะบางชนิดและยาขับปัสสาวะสามารถทำให้เกิดภาวะหูอื้อหรือสูญเสียการได้ยินได้
สาเหตุที่สามารถทำให้เกิดภาวะหูอื้อมีดังต่อไปนี้
- อาการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอ
- การติดเชื้อภายในหู
- มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหูหรือขี้หูสัมผัสกับเยื่อเเก้วหู
- หูชั้นกลางมีปัญหา
- เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับกระดูกข้อต่อของขากรรไกร
- กระดูกของหูชั้นกลางเกิดอาการเเข็งทื่อ
- เกิดอาการบาดเจ็บในสมองอย่างรุนเเรง
- โรคเกี่ยวกับหัวใจเเละหลอดเลือดหัวใจ
- โรคเบาหวาน
ถ้าหากภาวะเสียงอื้อภายในหูเกิดจากขี้หูหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าไปในหู ควรรักษาด้วยการทำความสะอาดช่องหูหรือนำสิ่งแปลกปลอมออกจากหู
ภาวะเสียงอื้อในหูที่มีเสียงเหมือนหัวใจเต้นอาจมีเเนวโน้มที่รุนเเรงขึ้น โดยอาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นในช่องหูเช่นเนื้องอกหรือความผิดปกติของการเชื่อมต่อระหว่างเส้นเลือดดำเเละเส้นเลือดเเดง
ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นนี้จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยโรคจากเเพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วัยรุ่นส่วนใหญ่ที่ชอบฟังเพลงเสียงดังมักมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินในอนาคต
หนึ่งในงานวิจัยพบว่าในหมู่วัยรุ่นจำนวน 170 คนมากกว่าครึ่งของวัยรุ่นจำนวนนี้มีเคยมีอาการเสียงอื้อในหูเมื่อปีที่เเล้ว นักวิจัยค้นพบว่า “กิจกรรมที่ทำในช่วงเวลาว่างทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดเสียงอื้อในหู” เช่นการฟังเพลงเสียงดังด้วยการใช้หูฟังเป็นการกระตุ้นทำให้เกิดภาวะเสียงอื้อในหูได้
อย่างไรก็ตามนักวิจัยยังค้นพบว่าภาวะเสียงอื้อในหูสามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่ฟังเพลงเสียงเบาด้วยเช่นกันและนักวิจัยยังเเนะนำว่าพวกเขาอาจเป็นผู้ที่สูญเสียการได้ยินในอนาคตได้เช่นกัน
งานวิจัยได้ค้นพบว่าภาวะเสียงอื้อในหูเกิดขึ้นจากความอดทนต่อเสียงที่มีความถี่ต่ำและเสียงดังของหูในวัยรุ่นซึ่งทำให้เกิดภาวะการสูฐเสียการได้ยินในอนาคตเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้นได้
บทสรุปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับภาวะเสียงอื้อในหู
นี่คือข้อมูลหลักเกี่ยวกับอาการเสียงอื้อในหู รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในบทความหลัก
- ประชากรชาวอเมริกัน 50 ล้านรายเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับภาวะเสียงอื้อในหู
- ภาวะเสียงอื้อในหูส่วนใหญ่เกิดจาก อวัยวะรูปหอยโข่งในช่องหูหรือหูชั้นในถูกทำลาย
- การใช้ยาบางประเภททำให้ภาวะเสียงอื้อในหูรุนเเรงขึ้นได้เช่นการใช้ยาแอสไพรินปริมาณมาก
- ผู้ที่มีภาวะเสียงอื้อในหูมักอ่อนไหวกับเสียงดัง
- คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้เพื่อใช้ชีวิตอยู่กับภาวะเสียงอื้อภายในหูได้แต่อาการนี้มีวิธีรักษาสำหรับผู้ที่ไม่สามารถทดกับเสียงอื้อในหู
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tinnitus/symptoms-causes/syc-20350156
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/tinnitus/diagnosis-treatment/drc-20350162
- https://www.nidcd.nih.gov/health/tinnitus
- https://www.webmd.com/a-to-z-guides/understanding-tinnitus-basics
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก