ภาพรวม
วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิกเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เพื่อใช้สร้างหลอดเลือด กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ และคอลลาเจนในกระดูก วิตามินซีจึงมีความสำคัญต่อร่างกาย วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ จากผลกระทบของอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตขึ้นมา เพื่อสลายอาหาร หรือเมื่อสัมผัสกับควันบุหรี่ และรังสีจากแสงแดด รังสีเอกซ์ หรือแหล่งอื่น ๆ ที่สามารถก่อนให้เกิดอนุมูลอิสระได้ อนุมูลอิสระอาจมีผลต่อการเกิด โรคหัวใจ มะเร็ง และโรคอื่นๆ นอกจากนี้วิตามินซียังช่วยให้ร่างกายดูดซึม และเก็บธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
เนื่องจากร่างกายของเราไม่สามารถผลิตวิตามินซีได้เอง เราจึงต้องรับประทานอาหาร หรืออาหารเสริมที่มีวิตามินซี โดยวิตามินซีนั้นจะพบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น เบอร์รี่ ส้ม มะเขือเทศ พริก กะหล่ำปลี กะหล่ำดาว บร็อคโคลี่ และผักโขม หรืออาหารเสริม
ประโยชน์ของวิตามินซี
1. ช่วยสังเคราะห์คอลลาเจน
คอลลาเจนพบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทั่วร่างกายตามที่ เป็นที่ทราบกันดีว่าระดับวิตามินซีที่เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการผลิตคอลลาเจน เรารู้จักคอลลาเจนในฐานะตัวช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัยของผิว มีงานวิจัยที่พบว่าวิตามินซีเฉพาะที่ผิวทำให้การผลิตคอลลาเจนเพิ่มขึ้น และผิวดูอ่อนกว่าวัย
2. วิตามินซีทำให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น
วิตามินซีมีปฏิสัมพันธ์กับวิตามิน และแร่ธาตุอื่นๆ ในร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กรองรับการเจริญเติบโต และการพัฒนาความสามารถในการช่วยร่างกายในการส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกาย และมีบทบาทสำคัญต่อฮอร์โมน การรับประทานวิตามินซีจะช่วยให้สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
3. มีบทบาทในการทำงานของสมองที่เพิ่มขึ้น
วิตามินซีมีบทบาทในการสังเคราะห์สารสื่อประสาท และการทำงานของสมอง สารสื่อประสาทมีความสำคัญในการส่งข้อความจากสมองไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย การรับประทานวิตามินซีมากขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองที่เพิ่มขึ้นการเพราะมีงานวิจัยที่พบว่า ผู้ที่มีสติปัญญาดีมีความเข้มข้นของวิตามินซีสูง เมื่อเทียบกับผู้ที่มีปัญญาบกพร่อง
4. คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง
ประโยชน์มากมายของวิตามินซีสามารถตรวจสอบได้จากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารระเหย และสารอันตรายที่ผลิตขึ้นในร่างกาย ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ และเนื้อเยื่อ สารต้านอนุมูลอิสระสามารถป้องกันการพัฒนาของสภาวะสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง หรือ โรคหัวใจ เป็นต้น
5. วิตามินซีเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน I
ประโยชน์ของวิตามินซีที่ทราบกันดี คือ มีผลในเชิงบวกต่อระบบภูมิคุ้มกัน วิตามินซีสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันโดยการป้องกันความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ช่วยในการฆ่าจุลินทรีย์ และลดศักยภาพในการทำลายเนื้อเยื่อ สำหรับผู้ที่การขาดวิตามินซี มีความเสี่ยงที่อัตราการติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น วิตามินซีไม่ได้ช่วยป้องกันหวัด แต่ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น
6. วิตามินซีที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระปกป้องดวงตา
มีรายงานว่า วิตามินซีสามารถลดความเสี่ยงของการพัฒนาต้อกระจก และยังสามารถช่วยชะลอการลุกลามของอายุที่เกี่ยวข้องกับจอประสาทตาเสื่อม (AMD) ซึ่งอาจเป็นเพราะคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ หากต้องการรับประทานเป็นการบำรุงสายตาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ความปลอดภัย และผลข้างเคียง
การรับประทานวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริม โดยทั่วไปมีความปลอดภัย แต่หากรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้ดังนี้
- คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง
- ปวดท้อง หรือท้องอืด
- อ่อนเพลีย ง่วงนอน หรือบางครั้งนอนไม่หลับ
- ปวดศีรษะ
- ผิวแดง
ในบางรายหากได้รับวิตามินซีในปริมาณที่สูงกว่า 2000 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดนิ่วในไตได้
วิตามินซีมีปฎิกริยากับสารอื่น ๆ อย่างไร
- อลูมิเนียม วิตามินซีสามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุอะลูมิเนียมจากยาที่มีอะลูมิเนียม เช่น สารยึดเกาะฟอสเฟต ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เป็นโรคไต
- เคมีบำบัด การใช้สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี ระหว่างการทำเคมีบำบัดอาจลดประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัด
- เอสโตรเจน การรับประทานวิตามินซีร่วมกับยาคุมกำเนิด หรือการบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนอาจเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้
- สารยับยั้งโปรตีเอส อาหารเสริมวิตามินซีอาจลดผลกระทบของยาต้านไวรัสประเภทนี้ได้
- วาร์ฟาริน การได้รับวิตามินซีในปริมาณสูงอาจลดการตอบสนองต่อสารต้านการแข็งตัวของเลือดได้
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก