Astaxanthin คืออะไร
Astaxanthin คือหนึ่งในสารประเภทแคโรทีนอยด์ที่ทำให้เกิดสีแดง เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสาหร่ายบางชนิดและเป็นสารที่ทำให้ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ ล็อปเตอร์ กุ้งและอาหารทะเลอื่นๆมีสีแดงหรือสีชมพู
แอสต้าแซนทินมักถูกนำมารับประทานเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง คอเลสเตอรอลสูง โรคตับ โรคจอตาเสื่อมในผู้สูงอายุและช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องกลุ่มโรคการเผาผลาญ ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองและโรคเบาหวาน และยังมีประโยชน์ทำให้กระออกกำลังกายมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ลดความเสียหายของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย และลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังการออกกำลังกาย แอสต้าแซนทินชนิดรับประทานยังช่วยป้องกันผิวไหม้แดด ทำให้การนอนหลับดีขึ้นและช่วยโรคในกลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณมือ ภาวะการมีบุตรยาก อาการภาวะวัยทองและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
แอสต้าแซนทินชนิดทาโดยตรงที่ผิวหนังจะช่วยป้องกันผิวไหม้แดด ลดริ้วรอยและใช้ประโยชน์ในเครื่องสำอางอื่นๆ
ในอาหารมักใช้ในอาหารที่มีสีเช่นแซลมอน ปู กุ้ง ไก่และผลิตภัณฑ์จากไข่
ในการเกษตรกรรม แอสต้าแซนทินมักถูกนำมาใช้ในอาหารเสริมสำหรับผลิตภัณฑ์จากไก่
แอสต้าแซนทินทำงานอย่างไร
แอสต้าแซนทินคือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ส่งผลในการป้องกันเซลล์เสียหาย แอสต้าแซนทินยังช่วยทำให้การทำงานของระบบภูมิต้านทานดีขึ้น
การใช้และประสิทธิภาพ
หลักฐานของการไม่เกิดประสิทธิภาพสำหรับ
- โรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ มักเกิดขึ้นเมื่อบางส่วนของจอเรติน่าเริ่มมีความเสียหาย จากการวิจัยพบว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่แอสต้าแซนทิน ลูทีน ซีแซนทีน วิตามินอี วิตามินซี สังกะสีและทองแดงเป็นส่วนประกอบด้วยการรับประทานเพื่อทำให้จุดศูนย์กลางจอเรติน่าที่เสียหายในคนที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมดีขึ้น แต่จะไม่ทำให้จอเรติน่าในพื้นที่รอบนอกดีขึ้น
- กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณมือ การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีแอสต้าแซนทิน ลูทีน เบต้าแคโรทีนและวิตามินน่วมกันจะสามารถลดอาการเจ็บปวดในคนที่มีอาการเส้นประสาทถูกกดทับบริเวณมือ
- อาหารไม่ย่อย (โรคกระเพาะอาหาร) จากการวิจัยพบว่าการรับประทานแอสต้าแซนทินวันละ 40 มก.เป็นประจำทุกวันสามารถลดอาการกรดไหลย้อนในคนที่อาหารไม่ย่อยได้ และได้ผลดีในคนที่อาหารไม่ย่อยเพราะติดเชื้อเอช.ไพโลไร การทานปริมาณต่ำ 16 มก.จะไม่ช่วยให้อาการกรดไหลย้อนดีขึ้น รวมถึงจะไม่ช่วยลดอาการปวดท้อง อาหารไม่ย่อยหรือไม่ลดจำนวนการติดเชื้อแบคทีเรียเอช.ไพโลไรในกระเพาะอาหารของคนที่อาหารไม่ย่อย
- กล้ามเนื้อเสียหายเพราะการออกกำลังกาย การรับประทานแอสต้าแซนทินเป็นเวลา 90 วันจะไม่ช่วยลดความเสียหายของกล้ามเนื้อที่มีสาเหตุมาจากการออกกำลังในนักกีฬาฟุตบอลชาย
- กล้ามเนื้อบาดเจ็บเพราะการออกกำลังกาย การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีแอสต้าแซนทิน ลูทีนและน้ำมันเมล็ดคำฝอยไม่ได้ชาวยลดการเจ็บกล้ามเนื้อหรือทำให้กล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพดีขึ้น 4 วันหลังการออกกำลังกายเมื่อเทียบกับการรับประทานน้ำมันเมล็ดคำฝอยเพียงอย่างเดียว
- ประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ผลที่ได้ในเรื่องประสิทธิภาพในการออกกำลังกายยังคงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันอยู่ บางการวิจัยพบว่าการรับประทานแอสต้าแซนทินจะช่วยลดเวลาในการฝึกปั่นจักรยานครบรอบในนักกีฬาลงได้ แต่บางการวิจัยก็พบว่าไม่ได้ช่วยทำให้ดีขึ้น
- ความเหนื่อยล้า การรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีแอสต้าแซนทินและเซวามินผสมอยู่ดู้หมือนจะไม่ได้ช่วยแก้อาการเหนื่อยล้าในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีให้ดีขึ้นได้
- คอเลสเตอรอลสูง การรับประทานแอสต้าแซนทินช่วยลดไขมันในเลือดที่เรียกว่าไตรกลีเซอร์ไรด์และช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลไลโพโปรตีนหนาแน่นสูง (HDL หรือไขมันดี)ในคนที่มีคอเลสเตอรอลสูง การรับประทานแอสต้าแซนทินร่วมกับเบอร์แบร์รีน โพลิโคซานอล ข้าวยีสต์แดง โคเอนไซม์คิว10 และกรดโฟลิคจะช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล HDL และช่วยลดคอเลสเตอรอลรวม ลดคอเลสเตอรอลไลโพโปรตีนหนาแน่นต่ำ (LDL หรือไขมันเลว) และไตรกลีเซอร์ไรด์ในคนที่มีระดับคอเลสเตอรอลผิดปกติ
- ภาวะการมีบุตรยาก การรับประทานแอสต้าแซนทินจะช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ได้
- อาการวัยทอง การรับประทานแอสต้าแซนทิน วิตามินดี3 ไลโคปีนและซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์เป็นประจำทุกวันจะช่วยลดอาการวัยหมดประจำเดือนเช่นอาการร้อนวูบวาย ปวดข้อต่อ อารมณ์ไม่ดีและปัญหาเรื่องกระเพาะปัสสาวะ
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานแอสต้าแซนทิน ลูทีน วิตามินเอ วิตามันอีและน้ำมันดอกคำฝอยจะช่วยลดอาการปวดและช่วยทำให้รู่สึกพอใจมากขึ้นในคนที่เป็นโรคดังกล่าว
- ผิวไหม้แดด แอสต้าแซนทินอาจช่วยลดการเสียหายของผิวที่มีสาเหตุมาจากแสงแดด การรับประทานแอสต้าแซนทินเป็นเวลา 9 สัปดาห์จะช่วยลดอาการแดงหรือผิวสูญเสียความชุ่มชื้นที่มีสาเหตุจากแสงของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่าแสง “ยูวี”
- iริ้วรอยของผิว การรับประทาน Astaxanthin สรรพคุณช่วยความยืดหยุ่นของผิวและลดริ้วรอยในหญิงและชายในวัยกลางคน และยังช่วยเพิ่มเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดีขึ้น หากยิ่งรับประทานร่วมกับการทาครีมแอสต้าแซนทินที่ใบหน้าวันละสองครั้งจะช่วยลดริ้วรอยของผิวได้
ผลข้างเคียง
มีความปลอดภัยเมื่อบริโภคแอสต้าแซนทินที่ได้จากอาหาร
แอสต้าแซนทินค่อนข้างมีความปลอดภัยเมื่อรับประทานเป็นอาหารเสริม การรับประทานที่ปลอดภัยคือ 4 ถึง 40 มก.เป็นประจำทุกวันได้นานกว่า 12 สัปดาห์ หรือ 12 มก.เป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 6 เดือน และยังมีความปลอดภัยเมื่อเมื่อใช้ร่วมกับคาโรทีนอยด์อื่นๆ วิตามินและแร่ธาตุ วันละ 4 มก.ได้นานมากถึง 12 เดือน ผลข้างเคียงจากแอสต้าแซนทินอาจรวมไปถึงการขับถ่ายที่เพิ่มมากขึ้นและอุจจาระมีสีแดง การบริโภคแอสต้าแซนทินในปริมาณสูงอาจเป็นสาเหตุของอาการปวดท้อง
ข้อควรระวังเป็นพิเศษและคำเตือน
หญิงตั้งครรถ์และหญิงให้นมบุตร ยังไม่รู้ปริมาณที่แน่ชัดในการใช้แอสต้าแซนทินในระหว่างตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร เพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการใช้
ปริมาณการใช้
ปริมาณการใช้แอสต้าแซนทินที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่นอายุของผู้ใช้ สุขภาพ และโรคอื่นๆ ในเวลานี้ยังไม่มีข้อมูลที่มากพอในการระบุปริมาณแอสต้าแซยทินที่เหมาะสม ควรปฏิบัติตามตำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์และคำแนะนำจากเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนการใช้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.healthline.com/health/health-claims-astaxanthin
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5946307/
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/16431409/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก