ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam)

ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam)

06.07
10645
0

ยาโคลนาซีแพม คือ

ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) คือ ยากันชัก และรักษาอาการตื่นตระหนก และความผิดปกติของการเคลื่อนไหวที่เรียกอาการนั่งไม่ติดที่ (Akathisia) จัดอยู่ในกลุ่มยาเบ็นโซไดอาเซพีน ใช้ยาด้วยการรับประทาน ออกฤทธิ์ภายใน 1 ชั่วโมง และอยู่ในร่างกายได้นาน 6–12 ชั่วโมง การรับประทานยาจะทำให้รู้สึกง่วงนอน ร่างกายทำงานไม่ประสานกัน และกระวนกระวาย

การใช้ในระยะยาว อาจส่งผลให้เกิดอาการชินยา (Tolerance) และการติดยา ซึ่งหากหยุดยากะทันหันอาจเกิดอาการขาดยาได้ พบอาการติดยาเกิดขึ้นกับคน 1/3 ที่ใช้ยานานเกิน 4 อาทิตย์ ยาอาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้ฆ่าตัวตายสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า กรณีใช้ในระหว่างตั้งครรภ์อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อทารก

ปัจจุบัน Clonazepam คือยาสามัญของประเทศที่กำลังพัฒนา แต่บางประเทศจะถือเป็นยาเสพติดที่ต้องควบคุม

กลไกการออกฤทธิ์ของยา

เมื่อรับประทานหรือฉีดยา Clonazepam ยาจะไปออกฤทธิ์ลดการส่งกระแสประสาทของมอเตอร์คอร์เทกซ์ (Motor cortex) ซึ่งจะหยุดการขัดขวาง (Spike) ของคลื่นสมองในโรคลมชักชนิดเหม่อ  (Absence seizure) ทำให้ยานี้ช่วยรักษาโรคลมชักเฉพาะที่ (Focal epilepsy) และลมชักทั้งตัว (Generalized seizure) ได้

คาดว่ากลไกการออกฤทธิ์ของยา Clonazepam เกี่ยวกับความสามารถในการเพิ่มกระบวนการทำงานของกาบา (GABA) ทางการแพทย์จึงนำผลการออกฤทธิ์ของยามาใช้เป็นยาคลายกังวล (Anxiolytic) และรักษาอาการตื่นตระหนก (Panic attacks) โดยจะออกฤทธิ์ไปยังสมอง และช่วยให้ระบบประสาทสงบขึ้น รวมถึงช่วยให้นอนหลับได้ แต่การใช้ยาต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์เป็นสำคัญ

สรรพคุณยา Clonazepam หรือข้อบ่งใช้

  • รักษาอาการชักเกร็ง
  • ลดอาการตื่นตระหนก (Panic)

ขนาดยา และวิธีการใช้

สำหรับกันชัก

ผู้ใหญ่: ช่วงแรกรับประทานยา Clonazepam ครั้งละไม่เกิน 0.5 มก.วันละ 3 คร้ัง หากจำเป็นสามารถเพิ่มปริมาณยาเป็นครั้งละ 0.5-1 มก. ในทุก ๆ 3 วัน จนสามารถควบคุมอาการได้ แต่ระหว่างนั้นต้องพิจารณาด้วยว่ามีอาการข้างเคียงใด ๆ หรือไม่ ขนาดยาสูงสุดต้องไม่เกินวันละ 20 มก.หรือตามที่แพทยกำหนด

ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีโรคทางกายอื่น ๆ ในระดับรุนแรง ควรลดขนาดยาลง

ทารกและเด็กที่อายุไม่เกิน 10 ปี หรือมีน้ำหนักตัวไม่เกิน 30 กก. : ในระยะแรกให้รับประทานยาขนาด 0.01- 0.03 มก./น้ำหนักตัว 1 กก/วัน แต่ต้องไม่เกิน 0.05 มก. / น้ำ หนักตัว 1กก. / วัน แบ่งรับประทานเป็นมื้อ ๆ 2-3 คร้ังต่อวัน

หากจำเป็นสามารถเพิ่มขนาดยาโคลนาซีแพมได้ ครั้งละไม่เกิน  0.25 – 0.5 มก.ในทุก ๆ 3 วันจนสามารถควบคุมอาการได้แต่ต้องไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงอื่น ๆ และขนาดยาสูงสุดต้องไม่เกินวันละ 0.1-0.2 มก./น้ำหนักตัว 1 กก. หรือตามที่แพทยกำหนด

สำหรับลดอาการตื่นตระหนก (Panic)

ผู้ใหญ่:ในระยะแรกรับประทานยา Clonazepam ครั้งละ 0.25 มก. วันละ 2 ครั้ง แต่หากจำเป็นสามารถเพิ่มปริมาณยาอีก 0.125-0.25 มก. วันละ 2 ครั้ง ทุก ๆ 3 วัน จนสามารถควบคุมอาการตื่นตระหนกได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ทำใหเ้กิดผลข้างเคียง สามารถเพิ่มขนาดยาสูงสุดไม่เกินวันละ 4 มก. หรือตามที่แพทยกำหนด ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่มีโรคทางกายอื่น ๆ ในระดับรุนแรง ควรลดขนาดยาลง 

เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ควรใช้ยานี้ลดอาการตื่นตระหนก เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานยืนยันประสิทธิผล และความปลอดภัยที่เพียงพอ

Clonazepam

ผลข้างเคียงของยา Clonazepam

Clonazepam side effect คืออาการง่วงซึม มึนงง เวียนศีรษะ มีน้ำลายไหลออกมามาก ปวดบริเวณข้อ ปัสสาวะถี่ มีการเปลี่ยนแปลงทางสมรรถภาพทางเพศ การมองเห็นเปลี่ยนแปลง เกิดปัญหาเรื่องความทรงจำ หรือมีปัญหาในการทรงตัว ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ แต่หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบแจ้งให้แพทย์ หรือเภสัชกรทราบทันที ได้แก่

  • เกิดอาการแพ้ เช่น ลมพิษ ผื่นคัน บริเวณใบหน้าบวม ริมฝีปากบวม รวมทั้งลิ้นบวมหรือคอบวม  
  • เวียนศีรษะรุนแรง
  • ใจเต้นแรง หรือใจสั่น
  • เสียงแหบ หายใจตื้น หายใจไม่ค่อยออก หรือกลืนอาหารลำบาก
  • กระสับกระส่าย หวาดวิตก ตื่นตระหนก  สับสน
  • หงุดหงิด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ  
  • อาจเกิดความคิดฆ่าตัวตาย หรือมีพฤติกรรมอยากทำร้ายตนเอง
  • การมองเห็นภาพเปลี่ยนแปลงไป
  • ดวงตาเคลื่อนไหวผิดปกติ
  • กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย กล้ามเนื้อกระตุก หรือเป็นตะคริว
  • มีอาการสั่นตลอดเวลา ทำให้นั่งหรืออยู่เฉย ๆ ไม่ได้
  • มีอาการชักเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หรือมีอาการแย่ลง
  • อาการประสาทหลอน เช่น เห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
  • พฤติกรรมหรืออารมณ์แปรปรวน เช่น ตื่นเต้น และก้าวร้าว

นอกจากอาการข้างเคียงตามที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ อีก ดังนั้นหากผู้ป่วยพบอาการผิดปกติใด ๆ ให้รีบแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที


นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *