อาการเป็นลมหรือโรคหมดสติวูบ (Fainting) คืออาการหมดสติชั่วคราว ที่โดยปกติมักเกิดจากการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมอง
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดการขาดแคลนออกซิเจนที่ไปหล่อเลี้ยงสมองได้แก่ความดันเลือด
โดยปกติภาวะเป็นลมไม่ได้เป็นอาการที่ร้ายเเรง อย่างไรก็ตามบางครั้งภาวะดังกล่าวสามารถบ่งบอกถึงโรคร้ายได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นลมทุกคนควรเข้ารับการรักษาฉุกเฉินจนกระทั่งพวกเขาได้ทราบถึงสาเหตุและรักษาอาการต่างๆที่เกิดขึ้น
ในบทความนี้เราได้ค้นหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะเป็นลมและเมื่อไหร่ที่ภาวะเป็นลมควรได้รับการรักษาจากแพทย์
สาเหตุของการเป็นลม
โดยปกติภาวะเป็นลมเกิดจากการขาดออกซิเจนที่ไปหล่อเลี้ยงสมองเช่นมีปัญหาเกี่ยวกับปอดหรือระบบไหลเวียนเลือดรวมถึงภาวะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์
อาการเป็นลมเป็นกลไกของความอยู่รอด ถ้าหากเลือดและระดับออกซิเจนในสมองลดลงต่ำเกินไป ร่างกายส่วนที่ไม่สำคัญจะหยุดทำงานทันทีเพื่อให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ
เมื่อสมองพบว่ามีระดับออกซิเจนต่ำจะสั่งการให้หายใจเร็วขึ้นเพื่อเพิ่มระดับออกซิเจน
อัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มขึ้นเช่นกันดังนั้นจึงมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ความดันเลือดที่ส่วนอื่นๆของร่างกายลดลงด้วย จากนั้นสมองจะได้รับเลือดเพิ่มมากขึ้นกว่าที่ใช้หล่อเลี้ยงส่วนอื่นๆของร่างกาย
โรคหายใจเกินและโรคความดันโลหิตสูงสามารถทำให้เกิดอาการหมดสติชั่ววูบได้ กล้ามเนื้ออ่อนเเรงและเป็นลมได้
สาเหตุที่ทำให้คนเป็นลมมีหลายอย่างแตกต่างกัน เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของแต่ละสาเหตุดังต่อไปนี้
อาการหน้ามืดหมดสติที่เกิดจากการทำงานระบบประสาทอัตโนมัติ
อาการหน้ามืดที่เกิดจากระบบประสาทอัตโนมัติเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติ (ANS) บางคนเรียกอาการนี้ว่าภาวะหมดสติเนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติถูกกระตุ้นมากเกินไปและมีความดันต่ำจนเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
ระบบประสาทอัตโนมัติควบคุมการทำงานของร่างกายได้แก่อัตราการเต้นของหัวใจ ระบบย่อยอาหารและการหายใจ
อาการเป็นลมเนื่องจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติทำให้ความดันเลือดต่ำและทำให้อัตราการเต้นของหัวใจรวมถึงชีพจรต่ำลงจึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดการรบกวนกระเเสเลือดและออกซิเจนที่ไปหล่อเลี้ยงสมองชั่วคราว
ปัจจัยกระตุ้นของอาการเป็นลมเนื่องจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติได้แก่
- อาการช็อกเนื่องจากการเห็นภาพเช่นการเห็นเลือด
- การสัมผัสหรือการมองเห็นหรือประสบเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัว
- อารมณ์เศร้าเฉียบพลันเช่นการได้รับข่าวร้าย
- เกิดความอึดอัดใจอย่างรุนเเรง
- การยืนเป็นเวลานาน
- การอยู่ในสภาวะเเวดล้อมที่ร้อนและอบอ้าว
การหมดสติในที่ทำงาน
อาการเป็นลมในที่ทำงานหรือสถานการณ์บางอย่างเป็นอาการหมดสติเนื่องจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลางประเภทหนึ่ง ซึ่งเกิดจากอารมณ์ จิตใจ หรือปัจจัยกระตุ้นบางอย่าง รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต้องออกเเรงมากเช่นการยกของหนัก
ภาวะเป็นลมที่เกิดจากความดันโลหิตตกในท่ายืน
การดื่มแอลกอฮอลมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการเป็นลมได้
อาการเป็นลมเนื่องจากความดันเลือดต่ำในท่ายืนหมายถึงอาการเป็นลมเฉียบพลันหลังยืนขึ้นอย่างรวดเร็วจากท่านอน
เนื่องจากแรงดึงดูดโลกดึงเลือดลงสู่ขาทำให้ความดันเลือดลงสู่บริเวณส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยปกติระบบประสาททำงานตอบสนองด้วยการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและทำให้หลอดเลือดหดลงจึงทำให้เกิดความดันเลือดที่สมดุล
การดื่มแอลกอฮอล บางคนเป็นเนื่องจากพวกเขาดื่มแอลกอฮอลมากเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ
โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทบางชนิดเช่นโรคพาคินสันและโรคระบบประสาทอื่นๆที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเป็นลมเนื่องจากความดันเลือดต่ำในขณะเปลี่ยนท่าทางได้
เป็นลมหมดสติที่เกิดจากการกระตุ้นคาโรติด ไซนัส ( Carotid sinus ) เส้นเลือดแดงใหญ่คาโรติดอาเทอรีเป็นเส้นเลือดหลักที่นำเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง เมื่อเกิดแรงกดทับขึ้นบนเส้นประสาทรับความรู้สึกหรือเส้นเลือดคาโรติดที่อยู่บริเวณโพรงไซนัสซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เป็นลมได้
ถ้าหากผู้ที่มีเส้นเลือดคาโรติดที่ไซนัสอ่อนไหวมาก ความดันเลือดอาจลดลงเมื่อหันศีรษะไปด้านข้างหรือการใส่เสื้อที่มีคอเสื้อหรือไทด์รัดคอมากเกินไป นอกจากนี้การโกนหนวดบ่อยๆบริเวณใกล้กับเส้นเลือดคาโรติดที่โพรงไซนัสยังทำให้เป็นลมได้เช่นกัน
ภาวะเป็นลมจากโรคหัวใจ
ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับหัวใจสามารถทำให้เลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
โรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจที่เป็นไปได้มีดังต่อไปนี้
- ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ (arrhythmias)
- หลอดเลือดตีบหรือหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
- ความดันเลือดสูง
- หัวใจวายซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเนื่องจากขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง
โดยปกติภาวะเป้นลมที่เกิดจากสาเหตุดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการรักษาทันทีและเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
อาการเป็นลม
อาการหมดสติเป็นอาการแรกของภาวะเป็นลม อาการดังต่อไปนี้ที่เกิดขึ้นอาจทำให้เป็นลมได้เช่นกัน
- รู้สึกหนักขา
- เห็นภาพเบลอหรือเห็นภาพเป็น “หลุมดำ”
- สับสนงุนงง
- รู้สึกร้อนๆหนาวๆ
- วิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกตัวลอย
- คลื่นไส้ อาเจียน
- มีเหงื่ออก
เมื่อคนเป็นลม พวกเขาอาจจะ
- หกล้มหรือหน้าคว่ำ
- หน้าซีดผิดปกติ
- ความดันเลือดลดลงและชีพจรอ่อนลง
การรักษาและปฐมพยาบาล
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพที่ทำให้เป็นลม พวกเขาควรได้รับการรักษาเพื่อป้องกันอาการเป็นลมในอนาคต อย่างไรก็ตามไม่มีการรักษาอย่างอื่นที่จำเป็น
เพื่อป้องกันอาการเป็นลมอื่นๆ เราควรหลีกเลี่ยงสาเหตุที่กระตุ้นทำให้เกิดภาวะเป็นลมเช่นการยืนเป็นเวลานาน ภาวะขาดน้ำและการอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ร้อนเป็นเวลานาน
ถ้าหากมองเห็นเลือดไหลออกจากผู้ที่เป็นลม ควรแจ้งให้แพทย์พยาบาลให้ทราบเกี่ยวกับอาการดังกล่าวก่อนการปฐมพยาบาลคนเป็นลม จากนั้นแพทย์และพยาบาลจะทำการรักษาผู้ป่วยด้วยท่าที่ปลอดภัยเช่นให้ผู้ป่วยนอนพักก่อนเริ่มทำการรักษา
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.medicalnewstoday.com/articles/182524
- https://www.webmd.com/brain/understanding-fainting-basics
- https://www.nhs.uk/conditions/fainting/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก