ผดร้อนหรอผื่นร้อน (Heat Rash) เกิดขึ้นเมื่อเหงื่อติดอยู่ และอุดตันในต่อมเหงื่อในชั้นลึกของผิวหนัง อาจเกิดการอักเสบ รอยแดง และแผลพุพองได้ บางครั้งการติดเชื้ออาจเกิดขึ้นได้
ในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน และผู้ที่มีเหงื่อออกง่ายมักจะร้อนได้ง่าย รวมไปถึงทารก และเด็กมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้มากขึ้น เนื่องจากต่อมเหงื่อของพวกเขายังพัฒนาอยู่
อาการของผื่นร้อน
อาการของผื่นร้อนได้แก่
- ตุ่มเล็กๆ หรือจุดเล็กๆ (Papules)
- มีอาการคัน
- บวมเล็กน้อย
- บนผิวมีจุดสีแดง
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาการและวิธีบรรเทาความคัน
ผดร้อนมักส่งผลต่อบริเวณที่มีโอกาสเกิดเหงื่อออกมากขึ้น ได้แก่
- ใบหน้า
- คอ
- ใต้หน้าอก
- ใต้ถุงอัณฑะ
- นรอยพับของผิวหนัง และบริเวณที่ผิวหนังเสียดสีกับเสื้อผ้า เช่น หลัง หน้าอก และท้อง
หากแบคทีเรียเข้าสู่ต่อมเหงื่อที่อุดตัน อาจทำให้เกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้
การรักษาผื่นร้อน
ปกติผื่นร้อนมักจะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง และสำหรับการช่วยแก้ปัญหา ให้เข้าไปอยู่ในบริเวณที่เย็น และมีความชื้นน้อย ถ้าเป็นไปได้ ถอดเสื้อผ้า และสิ่งของอื่นๆ ที่อาจเพิ่มเหงื่อออก
เคล็ดลับอื่น ๆ ได้แก่
- สวมเสื้อผ้าฝ้ายเนื้อบาง และหลวม
- เมื่อออกกำลังกาย ให้เลือกสถานที่ที่เย็น หรือเวลาที่เย็นกว่าของวัน
- ใช้พัดลม และเครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย
- อาบน้ำเพื่อลดความร้อนของร่างกาย
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น ผ้าใยสังเคราะห์บางชนิด
- หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าเปียก เช่น หลังว่ายน้ำ
- ใช้ประคบเย็น เช่น ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือประคบน้ำแข็งที่ห่อด้วยผ้าขนหนู กับผื่นนานถึง 20 นาทีในแต่ละครั้ง
- ใช้ผ้าปูที่นอนน้ำหนักเบา
- ดื่มน้ำมาก ๆ โดยเฉพาะน้ำ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ
- หากมีผื่นคัน ให้แตะ หรือตบเบาๆ แทนการเกา
- ใช้ยาที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป
ยาทาเฉพาะที่สำหรับผื่นร้อน
ยาทาเฉพาะที่ เช่น คาลามีน เมนทอล ครีม หรือขี้ผึ้งที่มีการบูร สามารถช่วยบรรเทาอาการคันได้ รวมทั้งคาลาไมน์
ครีมสเตียรอยด์สามารถลดอาการคัน และอักเสบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 10 ปีได้
สำหรับผลิตภัณฑ์ต้านเชื้อแบคทีเรียสามารถช่วยจัดกา รหรือป้องกันการติดเชื้อได้
สาเหตุของการเกิดผื่นร้อน
ผื่นร้อนจะเกิดขึ้นเมื่อท่อต่อมเหงื่ออุดตัน
ปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดผดร้อน
- สภาพแวดล้อมที่ร้อนชื้น
- การออกกำลังกาย
- มีไข้
- สวมผ้าใยสังเคราะห์แนบชิดผิว
- สวมผ้าพันแผลที่ไม่มีรูพรุน
- นอนพักนานๆ
- การใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาลดเหงื่อ
- รังสีบำบัด
- ภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น การตายของผิวหนังชั้นนอก และเป็นพิษ
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร
ผื่นความร้อนมักจะหายไปโดยไม่ต้องรักษา แต่อย่างไรก็ตามควรไปพบแพทย์หากมีอาการต่อไปนี้
- ผื่นยังคงอยู่ หรือรุนแรงขึ้น
- มีอาการของการติดเชื้อ เช่น ตุ่มพอง หรือแผลพุพอง
- มีอาการอ่อนเพลียจากความร้อน และเหงื่อออกไม่ได้
- มีอาการอื่นๆ เช่น มีไข้ เป็นต้น
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก