โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease) : อาการ สาเหตุ การรักษา

โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease) : อาการ สาเหตุ การรักษา

25.05
1564
0

โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease :IBD) คือ ภาวะความผิดปกติเรื้อรัง รวมถึงการอักเสบของทางเดินอาหาร หรือลำไส้

บทความนี้กล่าวถึงประเภทของโรคลำไส้อักเสบ และความแตกต่างระหว่างโรคลำไส้แปรปรวนกับโรคนี้ รวมทั้ง อาการ สาเหตุ และการรักษา

ประเภทของลำไส้อักเสบเรื้อรัง

โรคลำไส้อักเสบเรื้อรังที่พบบ่อยมีสองประเภทคือ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ และ โรคโครห์น 

โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ

โรคนี้เกิดจากการอักเสบในลำไส้ใหญ่ มีหลายระดับขึ้นอยู่กับส่วนของลำไส้ใหญ่ที่อักเสบและความรุนแรง 

  • ลำไส้ตรงอักเสบ เกิดเมื่อมีการอักเสบที่ลำไส้ตรง เป็นอาการลำไส้อักเสบที่รุนแรงน้อยที่สุด
  • Universal colitis, or pancolitis: เกิดเมื่อการอักเสบลามไปทั้งลำไส้ใหญ่
  • Proctosigmoiditis: เกิดเมื่อลำไส้ตรงและส่วนปลายล่างของลำไส้ใหญ่มีการอักเสบ
  • Distal colitis: เกิดเมื่อมีการอักเสบจากลำไส้ตรงขึ้นไปถึงลำไส้ใหญ่ฝั่งซ้าย
  • Acute severe ulcerative colitis: เกิดจากการอักเสบทั้งลำไส้ ใหญ่ ทำให้เกิดอาการรุนแรงและปวดมาก พบไม่บ่อยนัก 

โรคโครห์น

โรคโครห์น (Cohrn’s disease) สามารถเกิดได้ทุกที่ในทางเดินอาหารระหว่างปากไปจนถึงรูทวาร แต่มักเกิดบ่อยที่ส่วนท้ายของลำไส้เล็กต่อกับลำไส้ใหญ่ มักเกิดเมื่ออายุ 20 -29 ปี

ประเภทอื่นๆ

หานแพทย์ไม่สามารถแยกประเภททั้งสองได้ จะเรียกเป็น “indeterminate colitis” (ไม่แน่นอน)

ลำไส้อักเสบเรื้อรังชนิดอื่นๆ เช่น lymphocytic colitis and collagenous colitis.  

สาเหตุของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

อาจมีหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรค เช่น ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติต่อแบคทีเรีย ไวรัส หรืออาหาร กระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบในลำไส้

งานวิจัยพบว่าเอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli or E.Coli) มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคลำไส้อักเสบ

แม้ว่ายังไม่พบสาเหตุแน่ชัด แต่มีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงในการเกิดโรค

อาการของโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

อาการจะต่างไปขึ้นอยู่กับประเภท จุดที่เกิด และความรุนแรง

ผู้ป่วยอาจรู้สึกว่าบางช่วงอาการเลวลง และบางช่วงที่ไม่มีอาการหรือมีน้อย ช่วงที่อาการเลวลงจะแตกต่างกันไปตามปริมาณ ความรุนแรง และช่วงเวลาที่เกิด

อาการของลำไส้อักเสบสองประเภทหลักมีดังต่อไปนี้

อาการอื่นๆที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากระบบย่อยอาหาร

  • ไข้
  • ปวดตามข้อ
  • โรคผิวหนัง

โรคลำไส้อักเสบอาจทำให้ผลกระทบจากประจำเดือนหนักขึ้น และอาการของโรคอาจแย่ลงในช่วงมีประจำเดือน ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะขาดธาตุเหล็กในเพศหญิงอีกด้วย

 การรักษาโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางรักษาให้หายขาด แนวทางการรักษาคือ บรรเทาอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การรักษาที่นิยมใช้คือ ใช้ยา และ ผ่าตัด 

inflammatory bowel disease

ยา

แพทย์อาจสั่งยาบางชนิดเพื่อรักษาโรค เริ่มจากยาที่ไม่รุนแรงจนถึงยาที่แรงขึ้น มีดังนี้

  • ยาต้านอาการอักเสบ:  มักเริ่มด้วย 5-ASA เพื่อลดอาการอักเสบในลำไส้ อาจช่วยทำให้โรคบรรเทาลงด้วย
  • คอร์ติโคสเตอรอยด์ : แพทย์อาจสั่งยาต้านอาการอักเสบที่ออกฤทธิ์เร็ว หากยาที่อ่อนกว่าไม่ได้ผล ผู้ป่วยควรใช้ยาแค่ในช่วงระยะสั้นเพื่อรักษาในช่วงที่อาการเลวลง หากใช้ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์เป็นเวลานานอาจทำให้อาการแย่ลงเช่นกัน
  •  ยากดภูมิคุ้มกัน: ทำงานโดยหยุดภูมิคุ้มกันไม่ให้ทำร้ายเซลล์ลำไส้ ทำให้อาการอักเสบลดลง แต่ใช้เวลาประมาณสามเดือนกว่าจะออกฤทธิ์และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น มีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น
  • รักษาทางชีวภาพ ใช้แอนตี้บอดี้เพื่อจัดการกับสารที่ทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย

ยาอื่นๆที่ช่วยบรรเทาอาการ มีดังนี้

  • ยาปฏิชีวนะ
  • ยาแก้ท้องเสีย
  • ยาถ่าย
  • วิตามินและเกลือแร่เสริม ในกรณีที่เกิดจากการขาดวิตามิน

การผ่าตัด

ในบางกรณีผู้ป่วยอาจต้องได้รับการผ่าตัด เช่น ผ่าตัดเพื่อให้ขยายลำไส้ หรือ ปิดรูในลำไส้

ผู้ป่วยลำไส้อักเสบอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อเอาลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงออก ผู้ป่วยโรคโครห์นอาจต้องผ่าเอาบางส่วนของลำไส้ออก

วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

อาหารบางอย่างหรือแนวทางการใช้ชีวิตอาจทำให้อาการแย่ลง แต่หากเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสามารถช่วยให้จัดการกับอาการได้ ไม่ทำให้แย่ลง และทำให้โรคสงบ

อาหาร

อาหารบางอย่างมีประโยชน์ต่อผู้ป่วย เช่น

  • ทำบันทึกอาหารที่รับประทาน เพื่อสังเกตว่ามีอาหารชนิดใดทำให้เกิดอาการ
  • ลดการกินผลิตภัณฑ์จากนม
  • ลดอาหารที่มีไขมันสูง
  • หลีกเลี่ยงหรือลดอาหารที่มีรสจัด มีคาเฟอีน และแอลกอฮอล์
  • ลดอาหารที่มีไฟเบอร์สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลำไส้ตีบแคบ
  • รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยๆ แทนอาหารมื้อใหญ่
  • ดื่มน้ำมากๆ
  • รับประทานวิตามินและเกลือแร่เสริมเพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร

 สรุป

ถึงแม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการรักษาหายขาด แต่สามารถจัดการกับอาการโดยวิธีการทางการแพทย์และเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้ชีวิต

พบว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ป่วยเป็นโรคโครห์น หากรักษาได้ผล โรคจะสงบลงหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ภายใน 5 ปี

หากโรคสงบลงได้ ผู้ป่วย 45 เปอร์เซ็นต์ จะไม่กลับไปป่วยอีกในปีถัดไป

อาการแทรกซ้อนที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตนั้นเกิดขึ้นยาก ผู้ที่ป่วยเป็นโรคโครห์นมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคเพียงนิดเดียว ผู้ที่มีอาการน้อยหรือปานกลางไม่ได้มีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่ป่วยเลย

ควรปรึกษาแพทย์ หากมีการเปลี่ยนแปลงของระบบลำไส้หรือมีอาการของโรคลำไส้อักเสบ

นี่คือที่มาในแหล่งบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *