กรดไขมันโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 และโอเมก้า 9 เป็นกรดไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยประโยชน์ของกรดไขมันเหล่านี้มีอยู่มากมาย วันนี้เราจะมารู้จักกับกรดไขมันโอเมก้าแต่ละชนิดกัน
กรดไขมันโอเมก้า 3 คืออะไร
กรดไขมันโอเมก้า 3 คือไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน และเป็นไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง
เนื่องจากร่างกายของคนเราไม่สามารถผลิตโอเมก้า 3 ได้ ไขมันเหล่านี้จึงเรียกว่า “ไขมันจำเป็น” ซึ่งหมายความว่าคุณต้องได้รับจากอาหารของคุณ
กรดไขมันโอเมก้า 3 มีหลายประเภทที่แตกต่างกันไป ดังนี้:
- กรด Eicosapentaenoic (EPA): มีหน้าที่ทำการผลิตสารเคมี Eicosanoids ซึ่งช่วยลดการอักเสบ และอาจจะสามารช่วยลดอาการซึมเศร้าได้
- กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA): คือกรดไขมัน 22 คาร์บอน DHA โดยสาร DHA นี้ใช้ในกระบวนการพัฒนาสมอง และช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- กรดอัลฟ่า-ไลโนเลนิก (ALA): คือกรดไขมัน 18 คาร์บอน มีประโยชน์ต่อหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบประสาท
กรดไขมันโอเมก้า 3 นับว่าเป็นส่วนสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ของมนุษย์ นอกจากนี้แล้วยังมีหน้าที่ที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ :
- บำรุงหัวใจ และมีความเป็นไปได้ว่าสามารถช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ให้อยู่ในระดับปกติ
- ป้องกันภาวะซึมเศร้า
- ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคพาร์กินสัน
- ลดไขมันตับ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า โอเมก้า 3 อาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับได้
- Omega-3s สามารถพัฒนาสมองของทารกในครรภ์
กรดไขมันโอเมก้า 6
กรดไขมันโอเมก้า 6 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งมีความจำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากไขมันโอเมก้า 6 สามารถให้พลังงานได้ และกรดไขมันโอเมก้า 6 บางชนิดมีคุณสมบัติในการรักษาโรคเรื้อรังบางประเภท
กรดแกมมา-ไลโนเลนิก (GLA) เป็นกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่พบในน้ำมันบางชนิด ได้แก่
- น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
- น้ำมันโบราจ
เมื่อบริโภคน้ำมันเหล่านี้เข้าไปแล้วร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดไขมันชนิดอื่นที่เรียกว่ากรดไดโฮโม-แกมมา-ลิโนเลนิก (DGLA)
จากผลวิจัยพบว่า GLA อาจช่วยลดกระบวนการของการอักเสบได้ แต่อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
กรดไขมันโอเมก้า 9
กรดไขมันโอเมก้า 9 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว โดยมีกรดโอเลอิกเป็นกรดไขมันโอเมก้า 9 ที่พบมากที่สุดและเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบมากที่สุดในอาหาร แต่ทั้งนี้ร่างกายของเราสามารถผลิตกรดไขมันโอเมก้า 9 ได้เอง
แต่ทั้งนี้ การบริโภคอาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 9 แทนไขมันประเภทอื่นอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3-6-9
รายการอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 -6 และ -9 สูงมีดังนี้
อาหารที่มีไขมันโอเมก้า-3 สูง
ปลาทะเลเป็นแหล่งรวมกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีที่สุด นอกจากนี้แล้วโอเมก้า 3 ยังพบได้มากในน้ำมันจากสาหร่าย รวมไปถึงถั่ว และธัญพืข
โดยปริมาณแนะนำให้บริโภคอยู่ที่ปริมาณ 250–300 มิลลิกรัม/วัน
ปริมาณและประเภทของโอเมก้า 3 ในอาหาร :
- ปลาแซลมอน: 4.0 กรัม EPA และ DHA
- ปลาแมคเคอเรล: 3.0 กรัม EPA และ DHA
- ปลาซาร์ดีน: 2.2 กรัม EPA และ DHA
- ปลากะตัก: 1.0 กรัม EPA และ DHA
- เมล็ดเจีย: 4.9 กรัม ALA
- วอลนัท: 2.5 กรัม ALA
- เมล็ดแฟลกซ์: 2.3 กรัม ALA
อาหารที่มีไขมันโอเมก้า 6 สูง
ไขมันโอเมก้า 6 มีอยู่ในน้ำมันพืชที่ผ่านการกลั่นและอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันพืช
นอกจากนี้แล้วถั่ว และเมล็ดพืชยังมีกรดไขมันโอเมก้า 6 ในปริมาณมากอีกด้วย
ตามหลักโภชนาการปริมาณโอเมก้า 6 ที่เพียงพอต่อวันคือ 17 กรัมสำหรับผู้ชายและ 12 กรัมสำหรับสตรีอายุ 19-50 ปี
ปริมาณของโอเมก้า 6 ใน อาหาร 100 กรัม ของอาหารดังต่อไปนี้:
- น้ำมันถั่วเหลือง 50 กรัม
- น้ำมันข้าวโพด 49 กรัม
- มายองเนส 39 กรัม
- วอลนัท: 37 กรัม
- เมล็ดทานตะวัน 34 กรัม
- อัลมอนด์: 12 กรัม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์: 8 กรัม
อาหารที่มีไขมันโอเมก้า 9 สูง
ไขมันโอเมก้า 9 มีอยู่ทั่วไปใน:
- น้ำมันพืช และเมล็ดพืช
- ถั่ว
- ธัญพืช
ปริมาณโอเมก้า 9 ในอาหาร 100 กรัมมีดังนี้
- น้ำมันมะกอก 83 กรัม
- น้ำมันเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 73 กรัม
- น้ำมันอัลมอนด์ 70 กรัม
- น้ำมันอะโวคาโด 60 กรัม
- น้ำมันถั่วลิสง 47 กรัม
- อัลมอนด์ 30 กรัม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 24 กรัม
- วอลนัท 9 กรัม
อาหารเสริมโอเมก้า 3-6-9 จำเป็นหรือไม่
อาหารเสริมที่มีโอเมก้า 3-6-9 รวมกันมักจะให้กรดไขมันในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยทั่วไปเราได้รับโอเมก้า 6 ที่รับประทานก็เพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้อรับประทานอาหารเสริมเพิ่ม เนื่องจากร่างกายสามารถผลิตโอเมก้า-9 ได้ด้วยตัวเอง
แต่ควรใส่ใจความสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า 3-6-9 ที่ได้รับมาอย่างสมดุล ด้วยวิธีการง่าย ๆ เช่น รับประทานปลาทะเลที่มีโอเมก้าอย่างน้อยสองส่วนต่อสัปดาห์ ปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอก เพิ่มเมล็ดเจียในสลัด หรือมื้ออาหาร
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก