ประโยชน์ของอัลมอนด์ (Health Benefits of Almond)

ประโยชน์ของอัลมอนด์ (Health Benefits of Almond)

15.06
936
0

อัลมอนด์ (Almond) อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และไฟเบอร์ และยังให้คุณประโยชน์มากมายแก่สุขภาพ อัลมอนด์เพียงหนึ่งกำมือหรือประมาณ 1 ออนซ์ มีโปรตีน 1 ใน 8 ส่วนที่ร่างกายต้องการ

เราสามารถทานอัลมอนด์ดิบหรืออบแบบขนม หรือใส่ลงในอาหารหรือขนมได้ มีทั้งแบบอัลมอนด์สไลด์ เกล็ดเล็ก หรือเศษ เป็นน้ำมัน เนย หรือนมอัลมอนด์

คนส่วนมากเรียกว่าอัลมอนด์ว่าถั่ว แต่จริงๆแล้วอัลมอนด์เป็นเมล็ด

ประโยชน์ของอัลมอนด์

1) อัลมอนด์และคลอเลสเตอรอล

อัลมอนด์มีไขมันสูงแต่เป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัว ไขมันชนิดนี้จะไม่เพิ่มความเสี่ยงของไขมันที่มีความหนาแน่นต่ำ หรือคลอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และอัลมอนด์ก็ไม่มีคลอเลสเตอรอลด้วย 

การบริโภคอัลมอนด์จะช่วย: 

  • เพิ่มระดับวิตามิน อี ในพลาสมา และเซลล์เม็ดเลือดแดง
  • ลดคอเลสเตอรอล

จากงานวิจัย วิตามิน อี คือสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยหยุดกระบวนการออกซิเดชั่นที่จะทำให้เกิดการอุดตันเส้นเลือดอาร์เตอรี่ได้ 

2) อัลมอนด์และความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

งานวิจัยในปี 2015 ศึกษาเกี่ยวกับการบริโภคอัลมอนด์ และความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง

ผู้เขียนพิสูจน์ว่า ผู้ที่รับประทานอัลมอนด์สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมได้สองถึงสามเท่าของผู้ที่บริโภคถั่ว วอลนัต และอัลมอนด์ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่บริโภคเลย

พวกเขาสรุปได้ว่า ถั่ว วอลนัต และอัลมอนด์ป้องกันการเกิดปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านม

3) อัลมอนด์และโรคหัวใจ

อัลมอนด์ ถั่ว และเมล็ดพันธ์ต่าง ๆ ช่วยให้ระดับไขมันในเลือดดีขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าอัลมอนด์เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในกระแสเลือด ลดความดันในเลือด และช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

นักวิจัยเชื่อว่านี้อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจาก: 

  • วิตามินอี ไขมันดี และไฟเบอร์ ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่ม
  • สารต้านอนุมูลอิสระที่มีผลต่อฟลาโวนอยด์

นักวิจัยแนะนำให้ทานอัลมอนด์หนึ่งกำมือในหนึ่งวันเพื่อรับประโยชน์เหล่านี้

Health Benefits of Almond

4) อัลมอนด์และวิตามินอี

อัลมอนด์มีวิตามินอีสูง ซึ่งวิตามินอีนั้นประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างโทโคฟีรอล อัลมอนด์หนึ่งออนซ์ให้วิตามินอี 7.27 มิลลิกรัม ที่เป็นครึ่งนึงของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน

วิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการทำลายของกระบวนการออกซิเดชั่นในร่างกาย ซึ่งการนี้จะเกิดเมื่อมีอนุมูลอิสระสะสมมากเกินไป

อนุมูลอิสระเกิดจากกระบวนการธรรมชาติในร่างกายและความเครียดจากสิ่งแวดล้อม ร่างกายสามารถขจัดได้ แต่อาหารต้านอนุมูอิสระช่วยขจัดสารเหล่านี้ออกไปได้เช่นกัน ระดับการเกิดของอนุมูลอิสระที่มากเกิดไปจะทำให้เกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่น ซึ่งทำลายเซลล์ ซึ่งทำให้เกิดโรค และปัญหาสุขภาพต่างๆ

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่า การบริโภควิตามินอีในปริมาณมากจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้หรือไม่ 

5) อัลมอนด์และน้ำตาลในเลือด

มีหลักฐานว่าอัลมอนด์ช่วยจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้

หลาย ๆ คนที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 จะมีแมกนีเซียมต่ำ ภาวะนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่สามารถจัดการระดับน้ำตาลในเลือดได้ นักวิทยาศาสตร์แนะนำว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงระหว่างภาวะขาดแคลนแมกนีเซียมและความทนต่ออินซูลิน

งานวิจัยในปี 2011 ผู้เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 จำนวน 20 คน กินอัลมอนด์ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ทั้งหมดมีการพัฒนาดังนี้

  • ระดับน้ำตาลในเลือด
  • ระดับไขมัน

6) อัลมอนด์ช่วยจัดการน้ำหนัก

 อัลมอนด์มีคาร์โบไฮเดรตต่ำแต่มีโปรตีนสูง มีไขมันดี และไฟเบอร์

การรับประทานอัลมอนด์เป็นขนมทุกวันในตอนเช้าจะทำให้รู้สึกอิ่ม คนที่บริโภคอัลมอนด์ 28 กรัม (173 แคลอรี่ ) หรือ 42 กรัม (259 แคลอรี่) มีความอยากอาหารน้อยลง 

การรู้สึกอิ่มช่วยลดน้ำหนัก ทำให้ความอยากขนมลดลง

7) อัลมอนด์ช่วยเสริมสุขภาพของกระดูก

อัลมอนด์ประกอบไปด้วย แคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส คอปเปอร์ วิตามินเค โปรตีน และเหล็ก ที่มีส่วนทำให้เสริมสุขภาพของกระดูก

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าอัลมอนด์ยังประกอบไปด้วยธาตุอาหารดังต่อไปนี้

โภชนาการ

ตารางแสดงจำนวนสารอาหารของอัลมอนด์จำนวน 1 ออนซ์ (28.4 กรัม) ปริมาณอัลมอนด์หนึ่งกำมือเท่ากับอัลมอนด์แกะเปลือกประมาณ 23 เมล็ด

สารอาหาร

ปริมาณ 1 ออนซ์ จำนวนที่ร่างกายผู้ใหญ่ต้องการ

พลังงาน (แคลอรี่)

164

1,800–3,000

คาร์โบไฮเดรต (ก.)

ประกอบด้วยน้ำตาล 1.2 กรัม 130
ไขมัน ไขมันไม่อิ่มตัว 12.4 กรัม

20%-35% ของแคลอรี่ต่อวัน

ใยอาหาร (ก.)

3.5 25.2–30.8
โปรตีน (ก.) 6.0

46–56

แคลเซียม (มก.)

76.3 1,000–1,200

เหล็ก (มก.)

1.0

8–18

แมกนีเซียม (มก.) 76.5

310–420

ฟอสฟอรัส (มก.)

136 700
โพแทสเซียม (มก.) 208

4,700

สังกะสี (มก.)

0.9

8–11

คอปเปอร์ (มก.)

0.3

900

แมงกานีส (มก.)

0.6

1.8–2.3

เซเลเนียม (ไมโครกรัม)

1.2

55

โฟเลต 

12.5

300–400

วิตามินอี (มก.) 7.27

15

คอเลสเตอรอล 0

ไม่มีข้อมูล

ความเสี่ยง

ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้บอกไว้สำหรับการบริโภคอัลมอนด์

การแพ้

ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วต้องหลีกเลี่ยงอัลมอนด์ ผู้ที่มีอาการลมพิษ มีอาการบวม หายใจติดขัดหลังจากกินอัลมอนด์ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน อาการนี้เรียกว่าโรคภูมิแพ้สามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอันตรายต่อชีวิต

อาการหายใจลำบากและสำลักเข้าปอด

เด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ และผู้ที่กลืนอาหารยากควรหลีกเลี่ยงการทานอัลมอนด์แบบเต็มเมล็ดที่อาจจะทำให้เกิดการติดคอหายใจไม่ออก

ผู้มีอาการจิตเสื่อม โรคพาร์กินสัน และลดการเคลื่อนไหวอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงของการสำลัก ซึ่งจะทำให้อาหารเข้าไปในปอด อาการสำลักอาหารสามารถทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างโรคปอดบวม

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *