เลือดออกตามไรฟัน (Scurvy) คือ อาการที่เกิดจากการขาดวิตามินซี อาจนำไปสู่โรคโลหิตจาง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยเนื้อตัว และอาการบวมในบางส่วนของร่างกาย
ข้อเท็จจริงที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเลือดออกตามไรฟัน
นี่คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับบทความนี้
- เลือดออกตามไรฟัน เป็นผลจากการขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง
- การขาดวิตามินซีอาจทำให้สูญเสียฟัน โลหิตจาง และหายป่วยได้ช้ากว่าปกติ
- การขาดวิตามินสามารถนำไปสู่การเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการแก้ไข
- เลือดออกตามไรฟันรักษาได้ด้วยอาหารเสริมวิตามินซี
เลือดออกตามไรฟันคืออะไร?
เลือดออกตามไรฟันเกิดจากการขาดวิตามินซี หรือกรดแอสคอร์บิกนำไปสู่สุขภาพร่างกายที่อ่อนแอ โรคโลหิตจาง โรคเหงือก และปัญหาผิวหนัง
เนื่องจากวิตามินซีจำเป็นสำหรับการสร้างคอลลาเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันนั้นมีความจำเป็นสำหรับโครงสร้างและระบบต่างๆ ในร่างกาย รวมไปถึงโครงสร้างของหลอดเลือด
การขาดวิตามินซีจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน การดูดซึมธาตุเหล็ก ระบบเผาผลาญคอเลสเตอรอล และการทำงานที่สำคัญอื่นๆ ในร่างกาย
อาการของเลือดออกตามไรฟัน
วิตามินซีเป็นสารอาหารจำเป็นทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กและผลิตคอลลาเจน ถ้าร่างกายผลิตคอลลาเจนไม่เพียงพอเนื้อเยื่อจะเริ่มเสื่อม และสลาย
นอกจากนี้ยังจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์ Dopamine, Norepinephrine, Epinephrine และ Carnitine ซึ่งสำคัญต่อแหล่งพลังงานของร่างกาย
อาการของการขาดวิตามินซีจะเริ่มแสดงหลังจาก 8 ถึง 12 สัปดาห์ อาการเริ่มต้น ได้แก่ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย หงุดหงิด และซึม
หากขาดวิตามิน ภายใน 1-3 เดือน อาจทำให้มีอาการดังต่อไปนี้
- โรคโลหิตจาง
- ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดไขข้อ
- บวม
- มีจุดสีแดงเล็ก ๆ ที่เกิดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง
- ขนคุด
- โรคเหงือก เหงือกเลือดออกบ่อย ๆ
- แผลหายช้า
- หายใจถี่
- หงุดหงิด ซึม
หากไม่ได้รับการแก้ไขจะเกิดอาการบวมน้ำ ดีซ่านรุนแรง เซลล์เม็ดเลือดแดงถูกทำลายจนแตก โรคระบบประสาท มีไข้ และอาการชัก อาจถึงแก่ชีวิตได้
มีงานวิจัยทดลองการขาดวิตามินซีในสัตว์ทดลองพบว่า การขาดวิตามินซีในระหว่างตั้งครรภ์จะทำให้เกิดผลกระทบกับการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์
สาเหตุของเลือดออกตามไรฟัน
สาเหตุของโรคนี้มีดังนี้
1.การขาดวิตามิน C
วิตามินซีเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูแลฟันและเหงือกให้แข็งแรง ดังนั้นหากเราขาดวิตามินซีก็จะทำให้ ขาดเกราะป้องกันเหงือก ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบ และมีเลือดออก ดังนั้นเราควรรับประทานวิตามินซี ในปริมาณที่พอดีกับร่างกายและควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดและในปริมาณที่เพียงพอ วิตามินซีดีต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไปก็อาจเป็นนิ่วในไตได้เช่นกัน
2.ดูแลรักษาช่องปากไม่ถูกวิธีและไม่ดีพอ
การดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี ทำให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียมาสะสม ทำให้เกิดการอักเสบของเหงือกได้ ดังนั้นเราจึงควรแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ บ้วนน้ำหลังจากทานอาหารเสร็จ เพื่อป้องกันการสะสมของเศษอาหารตามซอกฟัน
3.ไม่ควรใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งเกินไปหรือใช้นานเกินไป
การใช้แปรงสีฟันแข็งๆแปรงฟัน อาจทำให้เหงือกระคายเคือง และเกิดการบาดเจ็บจากการที่แปรงโดนเหงือกและการใช้แปรงสีฟันเป็นระยะเวลานานเกินไปจะทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่ในแปรงสีฟัน ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนแปรงใหม่ในทุกๆ 3 เดือน หรือ เมื่อแปรงบาน
4.การแปรงฟันที่แรงเกินไป
บางคนมีความเชื่อที่ผิดๆว่าการแปรงฟันแรงๆจะช่วยให้ฟันสะอาดมากขึ้น แต่ที่จริงแล้วการแปรงฟันแรงเกินไป มีผลเสียกับฟันมาก ทำให้ระคายเคืองเหงือก ฟันสึก และมีเลือดออกตามไรฟันได้
การรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
การรักษาเลือดออกตามไรฟันด้วยการให้วิตามินซีเพิ่มผ่านทางอาหารเสริม หรือการฉีดเข้าเส้นเลือด
ปริมาณวิตามินที่แนะนำให้บริโภค:
- 1 – 2 กรัม ต่อวัน นาน 3 วัน
- 500 มิลลิกรัม ต่อวัน นานอีก 7 วัน
- 100 มก. มิลลิกรัม ต่อวัน นานอีก 1-3 เดือนอย่างต่อเนื่อง
ภายใน 24 ชั่วโมง หลังได้รับวิตามินซี อาการอ่อนเพลีย ซึม ปวดเมื่อย เบื่ออาหา รและหงุดหงิดจะดีขึ้น อาการเลือดออกใต้ผิวหนัง และร่างกายอ่อนแอจะหายภายใน 1 ถึง 2 สัปดาห์
หลังจาก 3 เดือนที่ได้รับวิตามินซีตามคำแนะนำ ร่างกายจะได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ตามมา เว้นเสียแต่ฟันถูกทำลายไปแล้ว
การป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
การป้องกันที่สำคัญคือการบริโภควิตามินให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และวิธีป้องกันอื่นๆ มีดังนี้
- ควรกินผลไม้ที่ให้วิตามิน C สูงหรือรับประทานยา วิตามิน C บำรุงร่างกาย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอดีกับร่างกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด เข้าห้องน้ำบ่อยๆ เพื่อให้วิตามิน C ระบายออกมา เพราะวิตามิน C ไม่สะสมในร่างกาย
- ควรแปรงฟันให้ทั่วทั้งช่องปากและซอกฟัน ใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่ขนแปรงทำความสะอาดไม่ถึง และบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก เพื่อทำความสะอาดให้ทั่วช่องปาก ถ้ามีฟันผุหรือหินปูน ควรรักษาโดยเร็วที่สุด
- ควรใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงอ่อนนุ่มและเปลี่ยนแปรงทุกๆ 2-4 เดือน
- เมื่อมีอาการของเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคทางช่องปากอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์และรับการรักษาทันที
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.nhs.uk/conditions/scurvy/
- https://www.healthline.com/health/scurvy
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2567249/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก