ปลาหมึกเป็นอาหารที่มีประโยชน์ที่หลายคนมักไม่ให้ความสนใจ ปลาหมึกมีหนวด เนื้อหนุบหนับ และหมึกที่ไว้ใช้ป้องกันตัวเมื่อรู้สึกว่าถูกคุกคาม โดยในไทยเรานั้นมีปลาหมึกหลายสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยม เช่น ปลาหมึกสาย ปลาหมึกกล้วย เป็นต้น

ส่วนต่าง ๆ ของหมึกสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้ หมึกของหมึกสามารถใช้แต่งสีอาหาร และเนื้อก็สามารถเอามาทำอาหารได้หลายอย่าง ในประเทศไทยเรานิยมทำกับข้าวจากปลาหมึกหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นยำปลาหมึก หรือผัด ทอด ต้ม ไข่ปลาหมึกเป็นที่นิยมในการยำรับประทานเป็นอย่างมาก 

ประโยชน์ของปลาหมึกมีดังนี้ 

ทำให้รูปร่างดี 

ปลาหมึกเป็นปลาที่มีคาร์โบไอเดรตต่ำ ไม่มีกระดูก ปลาหมึก 1 ออนซ์จะให้คาร์โบไฮเดรต 0.87 กรัม ซึ่งดีต่ออาหาร เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นสารที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นกลูโคส ซึ่งทำให้น้ำหนักขึ้นได้ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงจะทำให้คุณรักษารูปร่างได้ยาก คุณสามารถเพิ่มปลาหมึกเข้าไปในอาหารได้ เพราะปลาหมึกมีคาร์โบไฮเดรตน้อยมากจนถึงไม่มีเลย 

มีคอเลสเตอรอลต่ำ 

ประโยชน์ของการรับประทานปลาหมึกคืออะไร ต่างจากอาหารทะเลชนิดอื่นที่ทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดเพิ่มขึ้น ปลาหมึกสามารถทำให้ระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ ปลาหมึก 100 กรัมยังมีพลังงานเพียงแค่ 1.4 กรัม 

ต่อสู้กับมะเร็ง และเนื้องอก 

หมึกของปลาหมึก และเนื้อของมันสามารถช่วยป้องกัน และต่อสู้กับมะเร็งได้ ทั้งสองส่วนมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง สารต้านอนุมูลอิสระเป็นเกราะป้องกันเซลล์จากโมเลกุลที่เป็นอันตราย และไม่สเถียรที่เรียกว่า อนุมูลอิสระ 

ทำให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

หมึกของปลาหมึกเป็นแหล่งของโดพามีนที่ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้ ส่วนของสมองที่ทำให้คุณโฟกัส มีความสุข และมีความจำที่ดีได้ถูกสนับสนุนโดยสารเคมีที่ชื่อว่า โดปามีน การรับประทานปลาหมึกจะช่วยหล่อเลี้ยงโดปามีนในสมอง ซึ่งทำให้คุณตื่นตัว และมีพลังงานที่จะทำงานมากขึ้น 

ช่วยทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ 

เบาหวานเป็นการเจ็บป่วยที่ทำให้คุณต้องตัดอาหารบางอย่างที่จะทำให้น้ำตาลขึ้น โชคดีที่ในปลาหมึกไม่มีน้ำตาล ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานได้ ทั้งยังมีวิตามินบี 3 2.17% ในปลาหมึก 100 กรัมซึ่งคิดเป็น 11% ของปริมาณวิตามินบี 3 ที่ร่างกายต้องได้รับต่อวัน 

ลดความเสี่ยงของการเกิดไมเกรน 

ไมเกรนเป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน การคาดเดา และการป้องกันไมเกรนนั้นทำได้ยาก แต่การรับประทานปลาหมึกอาจจะช่วยได้ ความบ่อยของการเกิดไมเกรนสามารถลดลงได้ด้วยวิตามินบี 2 ปลาหมึกมีวิตามินบี 2 สูง การรับประทานปลาหมึกจึงช่วยป้องกันไมเกรน และเพิ่มพลังงานได้ 

ช่วยต่อสู้กับโรคโลหิตจาง 

เลือดเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของร่างกาย และบางครั้งเราก็ต้องการบางอย่างเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี การรับประทานปลาหมึกช่วยได้ เพราะปลาหมึกมีคอปเปอร์ เลือดต้องการคอปเปอร์ถึง 90% เพื่อให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม การรับบริโภคอาหารที่มีคอปเปอร์จะช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อเซลล์ประสาท และสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกัน 

ทำให้สุขภาพกระดูก และฟันดี 

ปลาหมึกมีฟอสฟอรัสสูง ฟอสฟอรัสเป็นสารที่กระคชตุ้นแคลเซียม ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก และฟัน 

มีโปรตีนสูง 

เช่น เดียวกับอาหารทะเลอื่น ๆ ปลาหมึกเป็นแหล่งของโปรตีนชั้นเยี่ยม โปรตีนเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพื่อจะไปซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เราต้องการโปรตีนจำนวนมากต่อวัน เพราะโปรตีนเป็นส่วนประกอบของส่วนสำคัญต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก เลือด และผิวหนัง 

ทำให้สุขภาพดีในระยะยาว 

ปลาหมึกช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพดีได้ในระยะยาว ซิงค์เป็นธาตุที่สำคัญในที่นี้ หากร่างกายขาดซิงค์จะทำให้ง่ายต่อการเกิดโรคต่าง ๆ 

ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ 

หัวใจเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย การรับประทานปลาหมึกหมายความว่าคุณรับประทานโพแทสเซียมไปด้วย โพแทสเซียมช่วยให้หัวใจทำงานเป็นปกติ ปลาหมึกยังมีวิตามินอี วิตามินอีจะช่วยให้เซลล์แข็งแรง และมีแนวโน้มถูกทำลายน้อยลง ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง

การอักเสบน้อยลง 

ทุกอย่างที่เราทำนั้นสามารถลด หรือเพิ่มการอักเสบได้ การอักเสบเรื้อรัง เช่น การอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งทำให้เกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง ปลาหมึกสามารถช่วยได้ เพราะเป็นอาหารหนึ่งที่ช่วยต้านการอักเสบ

ต้านแบคทีเรีย 

ปลาหมึกถือเป็นหนึ่งในอาหารที่เป็นยาทางเลือก พวกมันช่วยต้านแบคทีเรียได้ โดยเฉพาะหมึกของพวกมัน น้ำหมึกสามารถต่อสู้กับแบคทีเรีย เช่น  E.Coli และ K. Pneumonia ได้ 

ช่วยให้การเจริญเติบโตดีในเด็ก 

ด้วยประโยชน์ที่หลากหลาย ปลาหมึกสามารถช่วยให้เด็กเจริญเติบโตได้ดีได้ด้วย ปลาหมึกมีคอเลสเตอรอลต่ำ ซึ่งสามารถควบคุมได้ และสามารถช่วยในการพัฒนาของสมองได้ 

นอกจากนี้ ปลาหมึกยังมีวิตามินบี 2 ที่ช่วยในการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีนเป็นพลังงาน ทั้งยังมีเซเลเนียมสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเซลล์ต่อสู้กับการถูกทำลาย และยังสามารถช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นได้อีกด้วย 

ช่วยทำให้ระดับโซเดียมคงที่ 

เราต้องการโซเดียมเข้าร่างกายทุกวันเพื่อให้ความดันโลหิตคงที่ และให้แน่ใจว่าของเหลวในร่างกายสมดุล เมื่อมีโซเดียมมากไปจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตราย ปลาหมึกให้โซเดียมอย่างเพียงพอ ซึ่งมีอยู่ 744 มิลลิกรัมต่อปลาหมึก 100 กรัม