ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

ฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)

20.10
821
0

ฮอร์โมนเพศชาย สำคัญอย่างไร

ฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนสำคัญที่ใช้ควบคุมภาวะเจริญพันธุ์ มวลกล้ามเนื้อ การกระจายไขมัน และการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง

เมื่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดต่ำกว่าระดับที่ดีต่อสุขภาพ อาจนำไปสู่สภาวะ เช่น ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ หรือภาวะมีบุตรยาก อย่างไรก็ตามปัญหาฮอร์โมนเพศชายต่ำสามารถแก้ไขได้

ฮอร์โมนเพศชายต่ำกำลังกลายเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชาย

  • ฮอร์โมนเพศชายควบคุมกระบวนการหลายอย่างในร่างกายของผู้ชาย
  • ระดับเทสโทสเตอโรนมักลดลงเมื่ออายุมากขึ้น
  • อาหารเสริมที่มี Prohormone ไม่มีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย
  • อาหารเสริมที่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีใช้เพื่อเงื่อนไขทางการแพทย์โดยเฉพาะเท่านั้น แต่ไม่สามารถต้านปัญหาระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงตามธรรมชาติอันเนื่องมาจากเงื่อนไขทางอายุ
  • กระบวนการบำบัดเพื่อทดแทนฮอร์โมนเพศชาย (TRT) อาจมีผลข้างเคียง และความเสี่ยงปัญหาทางสุขภาพบางประการได้

ฮอร์โมน Testosterone คือ

เทสโทสเตอโรนคือ หรือ ฮอร์โมนเพศชายเป็นฮอร์โมนที่ส่งผลการพัฒนาด้านลักษณะของเพศชาย ฮอร์โมนคือสารเคมีที่สามารถกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ส่วนในกรณีของเพศหญิงจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่น้อยกว่า

ฮอร์โมนเพศชายเป็นแอนโดรเจนที่ผลิตโดยเซลล์อัณฑะ หรือที่เรียกว่า Leydig Cell

ในเพศชาย ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะควบคุมการทำงานหลายอย่างควบคู่ไปกับการผลิตสเปิร์ม ซึ่งรวมถึง: 

  • ความต้องการทางเพศ
  • มวลกระดูก
  • การย่อยไขมัน
  • ขนาด และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
  • การผลิตเม็ดเลือดแดง 

หากไม่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพียงพอ ผู้ชายจะเกิดภาวะการมีบุตรยาก เนื่องจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะช่วยพัฒนาอสุจิให้โตเต็มที่

ฮอร์โมนเพศชายยังก่อให้เกิดความต้องการทางเพศ ความหนาแน่นของมวลกระดูก และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อในเพศหญิง ดังนั้นหากผู้หญิงมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงเกินไปอาจทำให้มีอาการศีรษะล้านแบบผู้ชาย และเกิดภาวะมีบุตรยากได้

สมอง และต่อมใต้สมองจะเป็นตัวควบคุมระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เมื่อผลิตแล้ว ฮอร์โมนจะเคลื่อนผ่านเลือดเพื่อไปทำหน้าที่สำคัญต่างๆ

ฮอร์โมนเพศชายไม่สมดุล

หากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูง หรือต่ำเกินไป จะทำให้เกิดภาวะความผิดปกติในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ควบคุมโดยฮอร์โมนตามปกติ

เมื่อเพศชายมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ หรือภาวะ Hypogonadism อาจมีปัญหาสุขภาพ ดังนี้:

  • ความต้องการทางเพศลดลง
  • หย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  • จำนวนอสุจิต่ำ
  • เนื้อเยื่อเต้านมขยาย หรือบวม

หากระดับฮอร์โมนต่ำอย่างต่อเนื่อง อาการเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาต่อไปนี้:

ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำที่เกิดขึ้นแบบเรื้อรัง หรือต่อเนื่องอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุน อารมณ์แปรปรวน พลังงานลดลง และการหดตัวของอัณฑะ

สาเหตุอาจเกิดจาก:

  • การบาดเจ็บของลูกอัณฑะ เช่น การตัดอัณฑะ
  • การติดเชื้อของลูกอัณฑะ
  • ยา เช่น ยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยล์
  • ความผิดปกติที่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมน เช่น เนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง หรือระดับโปรแลคตินสูงผิดปกติ
  • โรคเรื้อรัง ได้แก่ เบาหวานประเภทที่ 2 โรคไต โรคตับ โรคอ้วน และเอชไอวี/เอดส์
  • โรคทางพันธุกรรม เช่น Klinefelter Syndrome, Prader-Willi sSyndrome, Hemochromatosis, Kallman Syndrome และ Myotonic Dystrophy

หากระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงเกินไปสามารถนำไปสู่ปัญหาการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ก่อนอายุ 9 ปี ภาวะนี้จะส่งผลกระทบต่อเพศชายเป็นหลัก แต่พบได้ยากมาก

Testosterone

กรณีเพศหญิงระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่สูงเกินไปสามารถจะนำไปสู่อาการหัวล้านแบบผู้ชาย เสียงทุ้มขึ้น  และมีประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมไปถึง:

  • คลิตอริสโต หรือบวม
  • รูปร่างเกิดการเปลี่ยนแปลง
  • ขนาดหน้าอกลดลง 
  • ผิวมัน
  • เกิดสิว
  • ขนขึ้นตามร่างกาย ริมฝีปาก และคาง

ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในสตรีที่สูงเกินไปยังเพิ่มความเสี่ยงของเนื้องอกในมดลูก

ความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศชายสามารถตรวจฮอร์โมนได้จากการตรวจเลือด และเพื่อรักษาตามอาการ

การรักษาอาการฮอร์โมนเพศชายผิดปกติ

การรักษาภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำอันเป็นผลข้างเคียงมาจากโรคต่าง ๆ รวมทั้งการรักษาภาวะภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำในผู้สูงอายุ

อาหารเสริมฮอร์โมนเพศชาย

การรักษาภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำด้วยอาหารเสริมเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นอาหารเสริมที่มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนชนิดหนึ่งคือ เมทิลเทสโทสเตอโรน ซึ่งหากผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับตับจะไม่สามารถใช้วิธีการรักษานี้ได้

เนื่องจากอาหารเสริมชนิดนี้สามารถนำพิษไปสู่ตับได้ ดังนั้นแพทย์จึงมักพิจารณาใช้อาหารเสริมชนิดนี้รักษาอาการเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีอาการเกี่ยวกับระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ต่ำอย่างรุนแรงเท่านั้น

การบำบัดเพื่อทดแทนฮอร์โมนชาย

การบำบัดเพื่อทดแทนฮอร์โมนชาย (TRT) จะช่วยฟื้นฟูการทำงานของร่างกายที่เกิดจากผลกระทบของระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำได้ แต่ TRT อาจส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของกระดูก และระดับฮีโมโกลบินในเลือดได้

วิธีการรักษา อาจรวมถึง:

  • เจล หรือแผ่นแปะที่ผิว
  • ยาฉีด
  • ยาเม็ดที่ซึมผ่านเหงือก

แต่การรักษาวิธีนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ได้แก่:

  • จำนวนเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น
  • ต่อมลูกหมาก และเต้านมโต
  • เกิดสิว
  • บางกรณีจะเกิดอาการหายใจลำบากขณะนอนหลับ
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือด

การพิจารณารักษาด้วย TRT แพทย์จะพิจารณาจากผลประโยชน์ในการรักษาตามอาการของแต่ละบุคคล และความเสี่ยงที่เกิดจากการรักษา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *