โบทูลิซึม (Botulism) เป็นการป่วยที่รุนแรงที่เกิดจาก โบทูลินัม ท็อกซิน (botulinum toxin) สารพิษชนิดนี้ทำให้เกิดการอัมพาต โดยจะเริ่มที่ใบหน้าและแพร่กระจายไปยังแขนขา หากมันไปถึงกล้ามเนื้อที่เกี่ยวกับการหายใจ อาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวได้
สาพิษนี้ถูกผลิตขึ้นโดย Clostridium botulinum (C. botulinum) ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง
โบทูลิซึมทุกชนิดทำให้เกิดอาการอัมพาต ดังนั้น ผู้ที่เป็นโรคโบทูลิซึมจึงเป็นภาวะเร่งด่วนทางการแพทย์
ในอดีต ผู้ป่วยเมื่อเป็นโรคนี้แล้วอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนายาด้านพิษแล้ว
ในปี 2015 เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ที่สุดของโบทูลิซึมในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมันเริ่มจากมะเขือเทศกระป๋องที่รับประทานร่วมกันที่บ้าน
อาการของโรคโบทูลิซึม
อาการและสัญญาณนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของโบทูลิซึม
ในโรคโบทูลิซึมที่เกิดจากการกินอาหาร อาจมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย ตามมาด้วยท้องผูกและท้องอืด อาจมีอาการอ่อนแรงและหายใจลำบาก อาการจะเกิดขึ้นภายใน 18 ถึง 36 ชั่วโมงหลังจากได้รับเชื้อ แต่ก็อาจเกิดขึ้นใน 3 ชั่วโมงถึง 8 วัน
ในภาวะโบทูลิซึมจากแผล จะเกิดอาการที่เส้นประสาทที่เชื่อมต่อจากสมองสู่กระดูกสันหลังที่ชื่อว่า เส้นประสาทสมอง เป็นที่แรก จากนั้นจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย การฟักตัวของโรคนั้นจะอยู่ที่ 4 วัน ถึง 2 สัปดาห์
อาการทางระบบประสาทของผู้ใหญ่ที่เป็นโรคโบทูลิซึมที่เกิดจากแผลกับอาหารนั้นเหมือนกัน แต่อาการของโบทูลิซึมที่เกิดจากแผลนั้นจะใช้เวลานานกว่าถึงจะแสดงอาการ
ผู้ป่วยอาจมีการมองเห็นที่ไม่ชัดเจน ตาตก กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง ปากแห้ง กลืนลำบาก หรือพูดไม่ชัด กล้ามเนื้อต่าง ๆ จะอ่อนแรง
ต่อไป จะเกิดอาการอัมพาต หากไม่ได้รับการรักษา กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจจะอ่อนแรง ทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิต
ผู้ป่วยจะยังมีสติในขณะเกิดอาการเหล่านี้
โบทูลิซึมในทารก จะมีอาการดังนี้:
- ท้องผูก
- กินได้น้อย
- อารมณ์ไม่ดี
- น้ำลายไหลมากเกินไปขณะป้อนอาหาร
- หนังตาตก
- สีหน้าราบเรียบ
- ง่วงซึม และ กระสับกระส่าย
- หายใจลำบาก
- โต้ตอบช้า
- ร้องไห้อย่างไม่มีแรง
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ไม่มีการตอบสนองต่อการสำรอกอาหาร
- สายตาไม่โฟกัส
ระยะฟักตัวของโบทูลิซึมในทารกจะอยู่ที่ 3 ถึง 30 วัน
สาเหตุของโรคโบทูลิซึม
โบทูลิเนียมท็อกซินเป็นสารพิษที่ถูกสร้างโดยแบคทีเรีย Clostridium botulinum (C. botulinum) ซึ่งปกติแล้วมีชีวิตอยู่ในดินและแหล่งน้ำที่ไม่ได้รับการดูแล พวกมันมีชีวิตในสภาพแวดล้อมเหล่านั้นได้ในรูปแบบของสปอร์
- botulinum สร้างสปอร์ที่สามารถมีชีวิตอยูได้บนกระป๋องอาหารที่ไม่ได้มาตราฐาน เมื่อรับประทานเข้าไป ถึงแม้จะเป็นปริมาณเล็กน้อยแต่ก็เป็นพิษอย่างรุนแรง
โบทูลิซึมนั้นมีหลากหลายชนิด
โบทูลิซึมที่เกิดจากอาหารนั้นเกิดจากอาหารที่ปนเปื้อนโบทูลิเนียมท็อกซิน
โบทูลิซึมที่เกิดจากแผลนั้นเกิดจากการที่แบคทีเรียเข้าไปในแผลแล้วสร้างสารพิษในแผลนั้น ซึ่งผู้ที่ใช้สารเสพติดแบบฉีดมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อชนิดนี้
โบทูลิซึมในทารกเกิดขึ้นเมื่อทารกกินแบคทีเรียหรือสปอร์ของมัน แล้วพวกมันเติบโตในลำไส้ของทารก
การเกิดโบทูลิซึมในทางเดินอาหารของผู้ใหญ่นั้นเกิดขึ้นได้น้อย
โบทูลิซึมในกระแสเลือด เกิดขึ้นเมื่อมีการใช้โบทูลิซึมท็อกซินหรือโบท็อกซ์มากเกินไป
การรักษาโรคโบทูลิซึม
ผู้ป่วยที่เป็นโรคโบทูลิซึมจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
ทารกจะได้รับโบทูลิซึมอิมมูนโกลบูลิน หรือ ที่รู็จักกันในชื่อ BIG-V หรือ BabyBIG
อาจต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน รวมถึงการดูแลที่ใกล้ชิด เมื่อเวลาผ่านไป อาการอัมพาตอาจดีขึ้น
ผู้ป่วยที่ถูกสงสัยว่าเป็นโบทูลิซึมจะได้รับการฉีดยาแอนตี้ท็อกซินทันที โดยที่ไม่ต้องรอผลตรวจ
หากการติดเชื้อเกิดขึ้นจากแผล แผลจะต้องถูกรักษาโดยการผ่าตัด เนื้อเยื่อใกล้ ๆ แผลจะถูกตัดออก ซึ่งเรียกว่า การเล็มแผล แพทย์จะจ่ายยาปฏิชีวนะให้ด้วยเพื่อป้องกันการติดเชื้อรอบสอง
นี่คือที่มาในบทความของเรา
- https://www.cdc.gov/botulism/general.html
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/botulism/symptoms-causes/syc-20370262
- https://www.cdc.gov/botulism/index.html
- https://www.nhs.uk/conditions/botulism/
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก