โรคเลือดออกในสมองหมายถึง (Brain Hemorrhage) คือภาวะเลือดออกในสมองหรือสมองมีก้อนเลือดคั่งอยู่ข้างใน ภาวะนี้เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ และผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สมองของคนเราได้รับการปกป้องโดยมีกะโหลกศีรษะ ล้อมรอบสมองเอาไว้ หากสมองมีเลือดออกข้างในจะทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะและทำให้เกิดความเสียหายต่อเยื่อหุ้มสมอง
ถ้าหลอดเลือดในสมองรั่วหรือแตก จะทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง
แรงดันจากการที่เลือดออกมากเกินไปอาจรุนแรงจนทำให้เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงเยื่อหุ้มสมองได้ ส่งผลให้สมองการขาดออกซิเจน สามารถทำให้เกิดภาวะสมองบวม
เลือดที่ออกมามาก สามารถที่จะรวมกันแล้วเกิดเป็นก้อนเลือดได้ แรงดันที่เพิ่มขึ้นนี้จะไปขัดขวางออกซิเจนไม่ให้ไปเลี้ยงเซลล์สมอง ซึ่งอาจส่งผลให้เสียชีวิตได้
ในบทความนี้ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะเลือดออกในสมองสาเหตุ และจะทำอย่างไรถึงจะรู้ว่ามันเกิดขึ้น และควรปฎิบัติตัวอย่างไร
สาเหตุของภาวะเลือดออกในสมอง
- มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง ปัจจัยเหล่านั้นคือ :
- การบาดเจ็บที่ศีรษะ สมองกระทบกระเทือน
- การพองตัวของหลอดเลือดสมองหรือผนังหลอดเลือดสมองอ่อนแอ
- ความดันโลหิตสูงมากเกินไป
- โรคหลอดเลือดผิดปกติ
- เลือดออกผิดปกติ
- โรคตับ
- เนื้องอกในสมอง
- การใช้ยาเสพติด
อายุ
การเกิดภาวะเลือดออกในสมองนั้นสามารถเกิดในกลุ่มบุคคลที่มีอายุต่างกันออกไป แต่โดยส่วนมากนั้นมักจะเกิดในผู้สูงอายุ
ภาวะเลือดออกในสมองฉับพลันที่เกิดในเด็กส่วนใหญ่นั้นเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด
ส่วนสาเหตุที่เป็นไปได้อื่น ๆ คือ โรคเลือดต่าง ๆ หรือเนื้อในงอกสมอง ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาเสพติด
ภาวะเลือดออกในสมองในทารกสามารถเกิดขึ้นได้จาก การบาดเจ็บจากการคลอด หรือ การถูกกระแทกระหว่างที่ยังอยู่ในครรภ์ของมารดา
อาการและการรักษาต่าง ๆ ในเด็กและผู้ใหญ่นั้นคล้ายคลึงกัน การรักษาในเด็กนั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่เลือดออกและความรุนแรงของอาการในผู้ป่วยแต่ละราย
ภาวะเลือดออกในสมองมักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ แต่ในบางครั้งก็สามารถเกิดขึ้นกับเด็กได้เช่นกัน
จากข้อมูลของ National Stroke Association โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นในทารกแรกเกิดประมาณ 1 ใน 4,000 คน พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
โดยทั่วไปผลลัพท์ของการรักษา เด็กที่มีภาวะเลือดออกในสมองนั้นจะตอบรับการรักษาได้ดีกว่าผู้ใหญ่เพราะสมองของเด็กนั้นยังพัฒนาอยู่
อาการเลือดออกในสมอง
ภาวะเลือดออกในสมองมีอาการที่แตกต่างกันไป หลายอาการ ผู้ป่วยอาจมีอาการ เสียวแปล๊บ ๆ ขึ้นมาทันที อ่อนแรง ชา หรืออาการอัมพาตของใบหน้า แขน ขา ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงด้านใดด้านหนึ่งของร่างกายเท่านั้น
อาการอื่น ๆ คือ:
-
ปวดศีรษะฉับพลัน รุนแรง
-
กลืนลำบาก
-
ปัญหาการมองเห็น
-
สูญเสียการทรงตัวหรือการสัมพันธ์กันของร่างกาย
-
สับสน และมีความยากลำบากในการเข้าใจสิ่งต่าง ๆ
-
มีความยากลำบากในการพูด พูดติดขัด
-
มึนงง เซื่องซึม หรือ หมดสติ
-
อาการชัก
หากเกิดอาการเหล่านี้ผู้ป่วยควรเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด
ประเภทของภาวะเลือดออกในสมอง
ภาวะเลือดออกในสมองนั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับบริเวณที่เลือดออก
-
ภาวะเลือดออกในสมอง: ภาวะเลือดออกชนิดนี้เกิดขึ้นภายในเนื้อสมอง
-
ภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง: ภาวะเลือดออกประเภทนี้เกิดขึ้นระหว่างเนื้อสมองและเยื่อหุ้มสมอง
-
ภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง: ภาวะเลือดออกชนิดนี้เกิดขึ้นระหว่างเยื่อหุ้มสมองชั้นดูราและเนื้อสมอง
-
ภาวะเลือดออกบริเวณเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก: ภาวะเลือดออกชนิดนี้เกิดขึ้นระหว่างกะโหลกศีรษะและเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก
ประเภทของภาวะเลือดออกในสมองทั้งหมดนี้สามารถทำให้เกิดความเสี่ยงที่รุนแรงต่อสุขภาพได้
การวินิจฉัยภาวะเลือดออกในสมอง
การวินิจฉัยโรคเลือดออกในสมองนั้นสามารถทำได้ยากเพราะในผู้ป่วยบางรายนั้นไม่มีอาการแสดงออกมาแต่อย่างใด และแพทย์ต้องทำการทดสอบเพื่อหาตำแหน่งที่แน่นอนที่เลือดออกในสมอง
ตัวเลือกของการตรวจสอบภาวะเลือดออกในสมองได้แก่:
-
ซีที หรือเอ็มอาร์ไอสแกน
-
การเจาะตรวจน้ำไขสันหลัง ทำได้โดยแพทย์จะนำน้ำไขสันหลังออกผ่านเข็มท่อกลวงเพื่อนำไปทดสอบ
-
การฉีดสีเข้าหลอดเลือดสมอง โดยที่แพทย์จะฉีดสารย้อมเข้าไป แล้วทำการเอ็กซเรย์สมอง สารที่ฉีดเข้าไปจะสามารถทำให้เห็นความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองหรือใกล้สมองได้
การรักษาภาวะเลือดออกในสมอง
ภาวะเลือดออกในสมองที่รุนแรงอาจจำเป็นต้องรักษาโดยการผ่าตัด ศัลยแพทย์อาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อบรรเทาภาวะสมองบีบตัว
หากหลอดเลือดสมองโป่งพองเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะเลือดออกในสมอง ศัลยแพทย์อาจต้องผ่าตัดเอาส่วนนึงของกะโหลกศีรษะออกแล้วหนีบหลอดเลือดนั้น ซึ่งวิธีการนี้เรียกว่า การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะแล้วปิดกะโหลก
ตัวเลือกการรักษาอื่น ๆ ได้แก่ ยาลดความวิตกกังวล ยาป้องกันโรคลมชัก และยาอื่นๆ ที่ช่วยควบคุมอาการ เช่น อาการชัก และการปวดหัวอย่างรุนแรง
ผู้ป่วยสามารถหายจากภาวะเลือดออกในสมองได้ แต่พวกเขาต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที เวชศาสตร์ฟื้นฟูสามารถช่วยให้ผู้ป่วยปรับตัวได้หลังจากการมีภาวะเลือดออกในสมอง
การรักษาโดยเวชศาสตร์ฟื้นฟูได้แก่:
-
กายภาพบำบัด
-
การรักษาด้วยยา
-
กิจกรรมบำบัด
-
การเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกในสมองอีกครั้งได้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
-
https://www.webmd.com/brain/brain-hemorrhage-bleeding-causes-symptoms-treatments
-
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/14480-brain-bleed-hemorrhage-intracranial-hemorrhage
-
https://www.aurorahealthcare.org/services/neuroscience/brain-skull-base-care/brain-hemorrhage
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก