โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) : อาการ สาเหตุ การรักษา 

โรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) : อาการ สาเหตุ การรักษา 

05.05
8867
0

โรคซิสติก ไฟโบรซิส  (Cystic Fibrosis)  เป็นโรคติดต่อทางพันธุกรรมที่มีผลต่อปอดและระบบย่อยอาหาร ร่างกายจะผลิตเมือกเหนียวข้นซึ่งอาจไปอุดตันปอดและไปขัดขวางการทำงานของตับอ่อน 

โรคซิสติกไฟโบรซิส (CF) อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และผู้ที่มีภาวะนี้มักจะมีช่วงชีวิตที่สั้นกว่าปกติ

หกสิบปีที่ผ่านมา เด็กที่ป่วยเป็นโรค CF หลายคนเสียชีวิตก่อนถึงวัยประถม อย่างไรก็ตามความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบันทำให้ผู้ที่เป็นโรค CF มักมีอายุในช่วง 30 ปี 40 ปีขึ้นไป

ปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีรักษา CF 

จากการวินิจฉัยผู้ป่วยรายใหม่เหล่านี้พบว่า  เกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ถึง 75 เปอร์เซ็นต์

(Cystic Fibrosis) คืออะไร 

โรคซิสติกไฟโบรซิส เป็นโรคทางพันธุกรรมที่สร้างผลกระทบต่อปอดและระบบย่อยอาหารเป็นหลัก แต่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น โรคตับ และโรคเบาหวาน ตามมา 

การแสดงออกของยีนที่บกพร่องต่อซิสติกไฟโบรซิส  ส่งผลให้มีการสร้างเมือกที่หนาและเหนียวกว่าปกติ ซึ่งการขับเอามูกนี้ออกจากปอดด้วยการไอเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ส่งผลให้หายใจลำบากและนำไปสู่การติดเชื้อในปอดอย่างรุนแรง 

เมือกที่หนาเหล่านี้ยังรบกวนการทำงานของตับอ่อน โดยการขัดขวางไม่ให้เอนไซม์ทำหน้าที่ย่อยอาหารได้อย่างเหมาะสม จึงเกิดปัญหาการย่อยอาหารขึ้นและอาจนำไปสู่การขาดสารอาหารได้ 

เมือกที่หนาขึ้นนี้ส่งผลให้ผู้ชายมีบุตรยาก โดยการปิดกั้นหลอดนำอสุจิ (vas deferens) หรือท่อที่ทำหน้าที่นำอสุจิจากอัณฑะไปยังท่อปัสสาวะ 

ซิสติกไฟโบรซิส เป็นภาวะที่รุนแรงและอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต สาเหตุส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตในผู้ที่เป็นโรคซิสติกไฟโบรซิส คือ ระบบหายใจล้มเหลว

อาการของโรคซิสติกไฟโบรซิส 

อาการของโรคที่พบบ่อยที่สุดของ CF คือ

  • ผิวมีรสเค็ม 
  • ไออย่างต่อเนื่อง (ถาวร) 
  • หายใจหอบถี่ 
  • หายใจไม่ออก 
  • น้ำหนักไม่ขึ้นทั้งที่กินจุมาก 
  • อุจจาระเป็นมันเยิ้มและมีกลิ่นเหม็น 
  • พบติ่งเนื้อที่จมูก หรือก้อนเนื้อขนาดเล็กในจมูก 

CF เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในปอด เช่น หลอดลมอักเสบ และปอดบวม เนื่องจากการอุดตันของปอดทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค 

การอุดตันในตับอ่อนอาจนำไปสู่การขาดสารอาหารและการเจริญเติบโตช้า นอกจากนี้ยังทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและโรคกระดูกพรุนเพิ่มขึ้น 

การรักษาโรคซิสติกไฟโบรซิส 

ในปัจจุบันนี้ยังไม่พบวิธีรักษา CF แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาสามารถเยียวยาอาการของโรคและปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ อาการและแผนการรักษาอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล 

Cystic fibrosis

Airway Clearance

การกำจัดเมือกออกจากปอดเพื่อให้หายใจได้โล่งและลดการติดเชื้อในปอด เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรค CF 

เทคนิคการระบายอากาศ (ACT) ช่วยให้เมือกในผู้ที่เป็นโรค CF เกิดการคลายตัวและถูกกำจัดออกจากปอดได้

ตัวอย่างของ ACT คือการจัดท่าเพื่อระบายเสมหะและการเคาะ นักบำบัดจะเคาะมือที่หน้าอกและหลังของผู้ป่วยขณะนั่งยืนหรือนอนในท่าที่น่าจะช่วยให้น้ำมูกไหลออกมา การเคาะที่อกและหลัง ในขณะที่ผู้ช่วยเหลือนั่ง ยืน หรือเอนตัวอยู่ในตำแหน่งสามารถช่วยกำจัดเมือกออกไป 

ยาพ่นสูดใช้กันทั่วไปมีประสิทธิภาพที่ทางเดินหายใจและ สามารถให้ยาได้โดยใช้ละอองของเหลวหรือเป็นยาพ่นสูดชนิดใช้แก๊ส ยาเหล่านี้สามารถทำให้เมือกบางลง  ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และทำให้น้ำมูกไหลเวียนได้ดีขึ้น 

ยาปฏิชีวนะเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถให้ยาทางปาก ทางหลอดเลือดดำ หรือผ่านการสูดดม  

ยาอื่น ๆ ที่สามารถรักษาและฟื้นฟูการทำงานของปอด และปัจจุบันได้รับการพิจารณาให้เป็นส่วนหนึ่งของการบำบัดมาตรฐานสำหรับผู้ที่เป็นโรค CF ได้แก่ ibuprofen และ azithromycin

 ผู้ที่เป็นโรค CF สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในปอดได้ด้วยการทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

  • ล้างมือบ่อยๆ 
  • ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี 
  • ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงการรับควันบุหรี่มือสอง 
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่เป็นหวัดหรือโรคติดต่ออื่น ๆ โดยไม่จำเป็น

การรักษาในแบบอื่นๆ (Other Forms Of Treatment)

ทางเลือกในการดูแลรักษา CF ที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ 

อุปกรณ์ปลูกถ่ายที่สามารถช่วยให้สามารถเข้าถึงกระแสเลือดได้ในระยะยาวเพื่อให้ยาได้บ่อยและสม่ำเสมอ สามารถทำให้การดูแลรักษาอาการเรื้อรัง เช่น CF มีประสิทธิภาพมากขึ้นและรบกวนน้อย

CF transmembrane conductance regulator (CFTR) modulatorเป็นยารุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายในการทำงานที่ยีนที่ก่อให้เกิด CF ผิดพลาด ช่วยทำให้มีการไหลเวียนของเกลือและของเหลวที่ผิวของปอดมีความเหมาะสม  ทำให้มูกในปอดซึ่งคนที่เป็นโรค CF มักสร้างขึ้นนั้นหนาบางลง 

ปัจจุบัน CFTR modulator ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มี 2 ยี่ห้อ คือ Kalydeco และ Orkambi กำหนดใช้สำหรับการกลายพันธุ์ของยีนที่ก่อให้เกิด CF แตกต่างกัน 10 แบบเด็กที่มี

Kalydeco อาจกำหนดใช้ในเด็กตั้งแต่อายุ 2 ปี ขึ้นไป และ Orkambi ใช้เมื่อเด็กอายุ 6 ปี 

โภชนาการบำบัดสำหรับอาการของทางเดินอาหาร 

เนื่องจาก CF อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร ผู้ที่เป็นโรค CF ควรขอคำแนะนำเรื่องอาหารจากแพทย์ นักโภชนาการหรือนักกำหนดอาหารอาจช่วยดูแลอาการทางเดินอาหาร 

อาจต้องรับประทานอาหารประเภทอื่นหรืออาหารเสริมเพิ่มเติม เช่น pancreatic enzyme supplements เกลือ หรือวิตามิน เพื่อปรับสมดุลการดูดซึมสารอาหาร

CF สามารถทำให้เติบโตช้า เด็กที่มีภาวะของ CF จำเป็นต้องได้รับอาหารที่มีแคลอรีสูงและมีไขมันสูงสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการตามปกติ ซึ่งสามารถช่วยในการรักษาสุขภาพของผู้ใหญ่ได้ดีที่สุด

โภชนาการที่ดีมีความสำคัญมาก เนื่องจากคนที่เป็นโรค CF จำเป็นต้องรักษาความแข็งแกร่ง เพื่อการป้องกันความเสี่ยงของการติดเชื้อในปอดที่มีเพิ่มมากขึ้น 

สาเหตุโรคซิสติกไฟโบรซิส 

CF เป็นภาวะที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม คนที่เป็น CF จะได้รับการถ่ายทอดยีนที่บกพร่องมาจากทั้งพ่อแม่ของพวกเขา 

ยีนที่บกพร่องจะนำรหัสสำหรับสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ควบคุมการไหลของเกลือและน้ำภายนอกอวัยวะ รวมทั้งปอดและตับอ่อน

 CF จะรบกวนสมดุลของเกลือ ทำให้มีปริมาณของน้ำและเกลือภายนอกเซลล์น้อยเกินไป และมีการสร้างเมือกที่หนามากกว่าปกติ  

คนที่มียีนบกพร่องเพียงชุดเดียวเรียกว่าเป็นพาหะ พวกเขาไม่ป่วยเป็น CF และไม่แสดงอาการของโรค การที่จะเป็นโรคนี้ได้ต้องมีพ่อและแม่ที่เป็นพาหะทั้งคู่

หากพ่อแม่เป็นพาหะนำโรคทั้งคู่มีบุตร จะเป็นดังนี้ 

  • 25 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 4  ของลูกที่เกิดมามีโอกาสเป็น CF   
  • 50 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1 ใน 2 ของลูกที่เกิดมามีโอกาสเป็นพาหะแต่ไม่แสดงอาการของโรค 
  • 25 เปอร์เซ็นต์หรือ 1 ใน 4 ของลูกที่เกิดมาไม่เป็นโรค CF 

คนอเมริกันมากกว่า 10 ล้านคนที่เป็นพาหะนำโรค CF โดยที่ไม่รู้ตัว 

การวินิจฉัย

ทารกเกิดใหม่ทุกคนในอเมริกาจะได้รับการตรวจคัดกรองสำหรับ CF โดยการส่งตัวอย่างเลือดจำนวนเล็กน้อยไปตรวจ ทำให้สามารถชี้วัดได้ว่าเด็กคนใดที่อาจมีภาวะสุขภาพ และต้องการการตรวจเพิ่มต่อไปอีก  

การวินิจฉัย CF มักทำโดยการทดสอบเหงื่อ เก็บรวบรวมตัวอย่างของหงื่อ และวัดปริมาณคลอไรด์ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเกลือในเหงื่อ ซึ่งคลอไรด์ในระดับสูงจะเป็นตัวบ่งชี้ของโรค CF

การทดสอบทางพันธุกรรมสามารถทำได้โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างเซลล์แก้มหรือตัวอย่างเลือด ส่วนใหญ่การทดสอบเหล่านี้จะใช้เพื่อการค้นหาว่าคนนั้นมียีน CF หรือไม่ แต่ก็สามารถนำมาใช้เพื่อยืนยันการวินิจฉัย CF หลังผลของการทดสอบจากเหงื่อไม่ชัดเจน 

จากการกลายพันธุ์ของยีน CF มากกว่า 1,700 ยีน ผลที่ตามมาก็คือ การทดสอบทางพันธุกรรมส่วนใหญ่ใช้สำหรับคัดกรองเฉพาะการกลายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุด 

75 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย CF ได้รับการวินิจฉัยเมื่อมีอายุ 2 ปี 

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคซิสติก ไฟโบรซิส  

ประเด็นสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับโรคซิสติก ไฟโบรซิส  มีรายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ในบทความหลัก

  • Cystic fibrosis (CF) มีความเกี่ยวข้องกับการผลิตเมือกที่หนาและเหนียวกว่าปกติมาก
  • สร้างผลกระทบต่อปอดและระบบย่อยอาหารหลัก
  • CF สามารถติดต่อทางพันธุกรรมได้ ซึ่งจะเกิดขึ้นในกรณีที่พ่อและแม่ของเด็กที่ป่วยมียีนที่บกพร่อง
  • ทารกแรกเกิดทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาจะได้รับการตรวจคัดกรอง CF
  • โรคนี้ยังไม่พบวิธีรักษา แต่การมีโภชนาการที่ดี และปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อการขับเสมหะและลดน้ำมูก สามารถช่วยบรรเทาอาการลงได้

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *