เมื่อเด็กหรือทารกมีไข้สูง เนื่องจากการติดเชื้อ หรือการอักเสบ อาจทำให้เกิดอาการชักได้ แต่อาการนี้จะไม่เหมือนอาการชักของลมบ้าหมู
ภาวะชักจากไข้ (Febrile Convulsion) สามารถพบได้ในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี ที่มีไข้สูงตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ภาวะชักจากไข้สูงสามารถพบบ่อยที่สุดในช่วงอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี ภาวะชักจากไข้ในเด็กสามารถพบได้มากถึง 2-5%
อาการชักส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตราย และไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพระยะยาวใดๆ เนื่องจากอาการชักนี้เกิดขึ้นจากอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นอย่างกระทันหัน
ประเภทของการชักจากไข้
การชักจากไข้มี 2 ประเภท :
-
อาการชักในเด็กจากไข้แบบปกติ จะมีอาการเพียง 15 นาที และไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกตลอดการป่วย
-
อาการชักจากไข้ที่ซับซ้อน สามารถเกิดขึ้นได้หลายครั้ง และสามารถเกิดขึ้นได้นานกว่า 15 นาที
อาการชักจากไข้คืออะไร
อาการชักจากไข้ส่วนใหญ่เกิดจากอุณหภูมิในร่างกายของเด็กสูงขึ้นอย่างกะทันหัน
โดยส่วนมากมักเกิดขึ้นในวันแรกของอาการไข้ เพราะอุณหภูมิร่างกายที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน
การติดเชื้อที่ทำให้มีโอกาสเกิดอาการชัก ได้แก่ กระเพาะ และลำไส้อักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ และการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้ออื่นๆ ที่พบได้น้อย แต่มีอาการรุนแรงได้แก่ การติดเชื้อของระบบประสาทส่วนกลางที่มีผลต่อสมองและไขสันหลัง โรคไข้สมองอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
การฉีดวัคซีนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการชักหรือไม่
โดยส่วนมาก โอกาสการเป็นไข้หลังฉีดวัคซีนมีน้อยมาก วัคซีน หัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) เป็นวัคซีนที่ทำให้มีโอกาสเป็นไข้ได้มากที่สุด
เด็กที่มีการฉีดวัคซีนไอกรน บาดทะยัก โปลิโอและไข้หวัดใหญ่ ก็มีโอกาสเป็นไข้ได้ 6-9 คน ใน 100000 คน
แต่การฉีดวัคซีนทั่วไป จะทำให้มีโอกาสเป็นไข้ได้น้อยมาก
โดยปกติแล้วอาการชักจากไข้ที่เกิดขึ้นหลังจากการฉีดวัคซีน มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในร่างกาย ไม่ใช่เพราะตัววัคซีน
การฉีดวัคซีนอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น เพราะร่างกายต้องต่อสู้กับเชื้อที่ฉีดเข้าสู่ร่างกาย
หลังจากฉีดวัคซีน DTP อาการไข้สูงจะพบได้ในวันแรกที่ฉีดยา แต่หลังจากฉีดวัคซีน MMR แล้วอาการไข้สูงจะพบได้ในวันที่ 8-14 หลังจากฉีดยา
ถ้าแม้ว่าการฉีดวัดซีนอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ แต่แพทย์ยังคงสนับสนุนให้ฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอและครบถ้วน เนื่องจากเป็นผลดีต่อร่างกายในการป้องกันการเกิดโรคต่างๆ
สังเกตอาการชักจากไข้ได้อย่างไร
การชักจากไข้มักเกิดขึ้นเมื่อพึ่งมีอาการป่วย เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างกระทันหัน
คุณอาจสังเกตการชักจากไข้ได้จากอาการต่อไปนี้:
-
เด็กมีอาการตัวแข็ง
-
แขนขาเริ่มสั่นหรือกระตุก
-
หายใจติดขัด
-
หมดสติ
-
ไม่สามารถควบคุมการทำงานของลำไส้หรือกระเพาะปัสสาวะได้
-
น้ำลายฟูมปาก
-
ตาเหลือก
-
ร้องไห้ครวญคราง
โดยส่วนมาก อาการชักทั่วไปจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่จะทำให้อ่อนเพลียนได้นานเป็นชั่วโมง
อาการชักจากไข้ที่ซับซ้อนอาจเกิดขึ้นนานถึง 15 นาทีและอาจเกิดขึ้นซ้ำได้หลายครั้ง โดยจะสังเกตุได้จากการที่เด็กมีอาการตัวแข็งข้างเดียว
ความรุนแรงของการชักมักไม่เกี่ยวข้องกับระดับอุณหภูมิ
การวินิจฉัย
แพทย์สามารถวินิจฉัยการติดเชื้อได้จากการตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ
หากแพทย์สงสัยว่ามีการติดเชื้อในสมอง และไขสันหลัง แพทย์อาจทำการเจาะเพื่อนำน้ำไขสันหลังไปตรวจหาการติดเชื้อ
วิธีการรักษาภาวะชักจากไข้
เมื่อมีอาการชัก ควรให้เด็กนอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง
วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้มีการกลืนอาเจียนเข้าไป ช่วยเปิดทางเดินหายใจ และป้องกันการบาดเจ็บได้
หากอาการชัดเกิดขึ้นมากกว่า 5 นาที ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยทันที
ในบางครั้งอาการชักอาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ยาระงับการชัก
หากอาการชักกินเวลานาน หรือดูมีแนวโน้มที่ร้ายแรง แพทย์อาจสั่งให้มีการพักฟื้นในโรงพยาบาล
ขณะที่เด็กมีอาการชัก ไม่ควรใส่อะไรเข้าไปในปาก เนื่องจากอาจทำให้อาการแย่ลงได้
ผู้ทีมีอาการชัด มักจะมีอาการลิ้นจุกปาก ดังนั้นหากมีการใส่อะไรเข้าไปในปาก อาจทำให้ฟันหักและหลุดเข้าไปขวางระบบทางเดินหายใจได้
วิธีรักษาอาการชักจากไข้ที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
1 ใน 3 ของเด็ก มักมีอาการชักเกิดขึ้นได้ใหม่ภายใน 1 ปี หากมีการติดเชื้อซ้ำ โดยมีสาเหตุดังนี้ :
-
การชักจากการเป็นไข้ครั้งแรก ที่เกิดขึ้นก่อนอายุ 18 เดือน
-
การชักครั้งแรกมีไข้ต่ำ ๆ
-
เด็กเคยมีอาการชักจากไข้ที่ซับซ้อนมาก่อน
-
มีประวัติครอบครัวเป็นโรคลมชัก
-
มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคลมบ้าหมู
-
เด็กที่ไปสถานดูแลเด็ก เนื่องจากสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
อาการชักไข้และโรคลมบ้าหมู
อาการชักจากไข้จะแตกต่างจากอาการชักของโรคลมบ้าหมูอย่างชัดเจน
ถ้าเด็กมีอาการชักขณะที่อุณหภูมิร่างกายเป็นปกติ อาจสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากโรคลมบ้าหมู
โอกาสในการเป็นโรคลมบ้าหมูหลังจากมีไข้ต่ำสามารถเกิดขึ้นได้น้อยมาก
โอกาสของโรคลมชักที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่มีอาการชัดจากไข้ จะอยู่ที่ 2-5% เท่านั้น เมื่อเทียบกับโรคลมชักในเด็กที่ไม่เคยมีอาการชักจากไข้
โอกาสในการเป็นโรคลมชักจะเกิดได้มากขึ้นถ้า :
-
มีความผิดปกติทางระบบประสาท
-
มีพัฒนาการล่าช้า ก่อนที่จะเริ่มชักจากไข้
-
ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคลมบ้าหมู
-
อาการชักมีความซับซ้อน
-
อาการชักเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากเริ่มมีไข้
วิธีป้องกันภาวะชักจากไข้
แพทย์มักไม่แนะนำให้รับประทานยาป้องกันการชัก เนื่องจากมักจะส่งผลในระยะยาว แต่ถ้าหากมีอาการชักจากไข้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน แพทย์จะทำการสั่งยาเพื่อรักษา หากเด็กมีไข้สูง ควรรีบให้รับประทานยาลดไข้เพื่อบรรเทาอาการ
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก