ผักโขม (Spinach) เป็นผักที่มีประโยชน์ทางยา ผักโขมใช้สำหรับรักษาโรคอ้วน ทักษะความคิด และความจำ ความอ่อนล้า มะเร็ง และโรคอื่น ๆ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่ดีที่มารับรองผลเหล่านี้ ต่อไปนี้เป็นประโยชน์ของผักโขม
วิตามิน และแร่ธาตุ ในผักโขม
ผักโขมเป็นแหล่งของวิตามิน และแร่ธาตุที่ดีเยี่ยม:
- วิตามินเอ ผักโขมมีแคโรทีนอยด์สูง ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้
- วิตามินซี วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิว รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันมีสุขภาพดี
- วิตามินเค 1 เป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับลิ่มเลือด เพียงแค่ผักโขม 1 ใบก็มีวิตามินเค 1 ครึ่งหนึ่ง ของปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันแล้ว
- กรดโฟลิก หรือวิตามินบี 9 เป็นสารประกอบที่สำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์ และสำคัญต่อการทำงานของเซลล์ รวมไปถึงการเติบโตของเนื้อเยื่อด้วย
- เหล็ก ผักโขมเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก ธาตุเหล็กสร้างฮีโมโกลบิน ซึ่งพาออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย
- แคลเซียม เป็นธาตุที่สำคัญต่อกระดูก ส่งสัญญาณโมเลกุลสำหรับระบบประสาท หัวใจ และกล้ามเนื้อ
ผักโขมยังมีวิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม วิตามินบี 6 9 และวิตามินอี
สารประกอบพืชที่สำคัญผักโขม
ผักโขมมีสารประกอบพืชที่สำคัญหลายชนิด ได้แก่:
- ลูทีน เป็นสารที่มีความเชื่อมโยงกับสุขภาพของตาที่ดี
- แคมฟ์เฟอรอล เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- ไนเตรต ผักโขมมีไนเตรตสูง ซึ่งอาจช่วยทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้น
- เควอเซทิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยต่อสู้กับการอักเสบ และการติดเชื้อ ผักโขมเป็นหนึ่งในอาหารที่มีเควอเซทินสูง
- ซีเเซนทิน เช่นเดียวกับลูทีน ซีแซนทิมสามารถทำให้สุขภาพของตาดีขึ้นได้
ประโยชน์ของผักโขม
ผักโขมมีวิตามิน และสารอาหาร
แต่ยังไม่มีหลักฐานสำหรับการใช้ในการรักษา
- ทักษะความจำ และความคิด งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผักโขมไม่ได้ช่วย ทำให้ความจำ หรือการมีสมาธิดีขึ้นในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี
- โรคอ้วน งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผลิตภัณฑ์จากผักโขมก่อนอาหารเช้าอาจช่วยลดน้ำหนักได้
- โรคกระเพาะอาหาร และลำไส้แปรปรวน
- อาการอ่อนเพลีย
- กระตุ้นการเติบโตในเด็ก
- ทำให้หายป่วยได้เร็วขึ้น
- โรคอื่น ๆ
ยังคงต้องทำการวิจัยถึงประสิทธิภาพในการรักษาโรคเหล่านี้มากขึ้นอีก
ผลข้างเคียง
ผักโขมนั้นปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ที่จะรับประทานเป็นอาหาร แม้จะรับประทานมากก็ไม่เป็นอันตราย
ข้อควรระวัง
หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร: ผักโขมปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรเมื่อรับประทานเป็นอาหาร ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอเกี่ยวกับการใช้ผักโขมเป็นยา เพราะฉะนั้นการรับประทานเป็นอาหารจึงปลอดภัยกว่า เด็ก: การรับประทานผักโขมเป็นอาหารปลอดภัยสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 4 เดือนขึ้นไป แต่ผักโขมไม่ได้ปลอดภัยที่จะรับประทานในทารก และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 เดือน เพราะไนเตรทในผักโขมอาจทำให้เกิดความผิดปกติของเลือดในทารกได้
การแพ้: ผู้ที่ไวต่อยาง รา ผักชาร์ด และบีท อาจแพ้ผักโขมได้
โรคเบาหวาน: ผักโขมอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แพทย์บางคนอาจกังวลว่าผักโขมจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำเกินไปหากใช้ร่วมกับยารักษาเบาหวาน หากคุณใช้ผักโขมในปริมาณของยา และใช้ยารักษาเบาหวานด้วย ให้ระวังระดับน้ำตาลในเลือด คุณอาจต้องปรับปริมาณยาเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์
โรคไต: ผักโขมอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้ นิ่วในไตจะไม่สลายไป และอาจทำให้โรคไตแย่ลง
การศัลยกรรม: ผักโขมอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แพทย์บางคนกังวลว่าผักโขมอาจไปรบกวนการควบคุมน้ำตาลในเลือดระหว่าง และหลังการศัลยกรรม ควรหยุดรับประทานผักโขมเป็นยาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนศัลยกรรม
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก