ยาปฏิชีวนะคือ อะไร
ยาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ Antibiotic คือ ยาที่ใช้ต่อสู้กับการติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย หรือเราอาจจะเรียกว่า ยาต้านเชื้อแบคทีเรีย ยานี้รักษาการติดเชื้อโดยการฆ่า หรือลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ยาปฏิชีวนะมีหลายประเภท ยาปฏิชีวนะบางชนิดทำงานได้ดีที่สุดสำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียบางประเภท
ยาปฏิชีวนะมีหลายรูปแบบ ได้แก่
- เม็ด
- แคปซูล
- ของเหลว
- ครีม
- ขี้ผึ้ง
ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่จะใช้ได้เฉพาะกับใบสั่งยาจากแพทย์ของคุณเท่านั้น ครีม และขี้ผึ้งปฏิชีวนะบางชนิดมีจำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วไป
ยาปฏิชีวนะทำงานอย่างไรกับแบคทีเรีย
ยาปฏิชีวนะต่อสู้กับการติดเชื้อแบคทีเรียไม่ว่าจะโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และชะลอการเจริญเติบโตของมัน กลไกการทำลายได้แก่
- โจมตีผนัง หรือเคลือบรอบ ๆ แบคทีเรีย
- ขัดขวางการขยายพันธุ์ของแบคทีเรีย
- การปิดกั้นการผลิตโปรตีนในแบคทีเรีย
ต้องใช้ยาปฏิชีวนะนานเท่าไร
ยาปฏิชีวนะเริ่มทำงานทันทีหลังจากที่คุณเริ่มใช้ แต่อย่างไรอาจจะไม่รู้สึกดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
จะดีขึ้นได้เร็วเพียงใดหลังจากการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะนั้นแตกต่างกันไป นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อที่กำลังรักษาด้วย
ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่แพทย์จะให้รับประทานเป็นเวลานาน 7-14 วัน โดยทั้งนี้แพทย์ของคุณจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาในการรักษาที่ดีที่สุด และชนิดของยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องสำหรับคุณ
ถึงแม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นหลังจากการรักษา 2-3 วัน แต่จำไว้ว่าทางที่ดีที่สุดคือ ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะให้ครบทั้งหมด เพื่อที่จะกำจัดการติดเชื้อของคุณได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันการดื้อยาปฏิชีวนะ อย่าหยุดยาปฏิชีวนะโดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์ เพราะนั่นจะทำให้การรักษาไม่มีประสิทธิภาพ และเชื้อจะดื้อยาในที่สุด
ยาปฏิชีวนะใช้รักษาอะไรบ้าง
ยาปฏิชีวนะใช้รักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย โดยการสังเกตอาการโรคจากภายนอกยากที่จะระบุว่าเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส เพราะอาการมักจะคล้ายคลึงกันมาก
แพทย์จะประเมินอาการเบื้องต้น และทำการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุของการติดเชื้อ ในบางกรณีอาจจะมีการตรวจเลือด หรือปัสสาวะ เพื่อยืนยันสาเหตุของการติดเชื้อ
การติดเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยคือ
โปรจำไว้ว่ายาปฏิชีวนะไม่ได้ผลกับไวรัส เช่น โรคไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ รวมไปถึงใช้ไม่ได้กับการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อรา เช่น
อาการเหล่านี้ต้องได้รับการรักษาด้วยยากลุ่มอื่นที่เรียกว่า ยาต้านเชื้อรา เท่านั้น
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยาปฏิชีวนะ
ยาปฏิชีวนะส่วนใหญ่มีผลข้างเคียงที่คล้ายคลึงกัน หลักๆ เราจะพบอาการท้องเสีย แต่ก็มีอาการอื่นๆ ด้วยดังนี้
ในบางกรณี ผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะลดลงได้หากรับประทานยาปฏิชีวนะพร้อมอาหาร อย่างไรก็ตามต้องใช้ยาปฏิชีวนะบางชนิดในขณะท้องว่าง ถามแพทย์ หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ยาปฏิชีวนะของคุณ
หากมีอาการรุนแรงเหล่านี้ควรไปพบแพทย์โดยฉุกเฉิน
- ท้องเสียรุนแรง
- ปวดท้อง และตะคริว
- อุจจาระมีเลือดปน
- ไข้
นี่เป็นเพียงผลข้างเคียงบางประการของการใช้ยาปฏิชีวนะ อาจไม่ครอบคลุม หากมีความผิดปกติอื่นๆ เกิดขึ้นควรไปพบแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา
ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ
ยาปฏิชีวนะจะมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อใช้อย่างเหมาะสม เริ่มต้นด้วยการแน่ใจว่าคุณต้องการยาปฏิชีวนะจริงๆ ใช้ยาปฏิชีวนะที่แพทย์สั่งสำหรับการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น
พูดคุยกับแพทย์ หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ยาปฏิชีวนะของคุณ บางชนิดควรรับประทานพร้อมอาหาร เพื่อลดผลข้างเคียง แต่บางชนิดควรรับประทานในขณะท้องว่าง
ควรให้ยาปฏิชีวนะในปริมาณที่กำหนด และตามระยะเวลาในการรักษา คุณอาจรู้สึกดีขึ้นภายใน 2-3 วันหลังจากเริ่มใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ห้ามหยุดรับประทานโดยไม่ได้รับคำสั่งจากแพทย์ เพราะนั่นจะทำให้การรักษาไม่มีประสิทธิภาพ และเชื้อเกิดการดื้อยา
โปรดจำไว้ว่าหากมีข้อสงสัย หรือความผิดปกติจากการใช้ยาปฏิชีวนะ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
ยาปฏิชีวนะมีอะไรบ้าง
ยาปฏิชีวนะที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เช่น
- อะม็อกซีซิลลิน (Amoxycillin)
- แอมพิซิลลิน (Ampicillin)
- เพนิซิลลิน (Penicillin)
- เตตร้าไซคลิน (Tetracycline)
- คลินด้าไมซิน (Clindamycin)
- นอร์ฟรอกซาซิน (Norfloxacin)
- อิริโทรไมซิน (Erythromycin)
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก