อาการปวดเส้นประสาท (Neuropathic Pain) : อาการ สาเหตุ การรักษา

อาการปวดเส้นประสาท (Neuropathic Pain) : อาการ สาเหตุ การรักษา

20.05
1597
0

ปวดเส้นประสาท Neuropathic pain คือ ความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่ระบบประสาทส่วนกลางหรือระบบประสาทส่วนปลายอาจทำให้เกิดอาการปวดเส้นประสาท 

บางคนอาจมีอาการปวดแปลบๆ เรื้อรังตามร่างกายหรือมีความรู้สึกแสบร้อน ในขณะที่บางคนอาจมีอาการชาและรู้สึกเสียวซ่า 

การบาดเจ็บหรือโรคภัย สามารถทำลายเส้นใยประสาทที่รับ-ส่งสัญญาณความเจ็บปวดจากส่วนต่างๆของร่างกายได้

ความเสียหายของเส้นประสาทสามารถบิดเบือนสัญญาณที่มีอยู่เดิม สร้างสัญญาณใหม่หรือป้องกันไม่ให้ถ่ายโอนสัญญาณได้ตามปกติ นอกจากนี้บางครั้งอาจเปลี่ยนสัญญาณที่ไม่ใช่ความเจ็บปวดทำให้รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาได้ ปัญหาเหล่านี้ อาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวด ซึ่งอาการมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง

ความเสียหายต่อระบบประสาทส่งผลต่อความรู้สึก ดังนั้นคนเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงในการรับสัมผัส เช่น อุณหภูมิ การเคลื่อนไหว และแรงกดดัน  

สาเหตุอาการปวดเส้นประสาท

สภาวะสุขภาพต่างๆอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาท ซึ่งนำไปสู่อาการปวดเส้นประสาท ยกตัวอย่างเช่น

การบาดเจ็บอาจสร้างความเสียหายให้เนื้อเยื่อและเส้นประสาท โดยการกดเส้นประสาทมากเกินไป อาจพบภาวะนี้ได้ระหว่างการผ่าตัดหรืออาจเป็นผลมาจากอุบัติเหตุร้ายแรง เช่น การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง 

การติดเชื้อบางอย่าง เช่น งูสวัด บางครั้งอาจทำลายเส้นประสาทและทำให้เกิดอาการปวดเส้นประสาท

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคระบบประสาทได้  ซึ่งเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ก่อให้เกิดการขาดสารอาหารที่มาเลี้ยงเส้นประสาทและความเสียหายที่เป็นพิษโดยตรงต่อเส้นประสาท

บางครั้งยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการปวดตามเส้นประสาทได้ 

อย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนของอาการปวดตามเส้นประสาท

ประเภทปวดเส้นประสาท

โรคปวดเส้นประสาทมีหลายประเภทและแต่ละประเภทมีผลต่อเส้นประสาทและส่วนต่างๆของร่างกายที่ต่างกัน

ความเสียหายต่อเส้นประสาทเส้นเดียวเรียกว่า mononeuropathy ในขณะที่ความเสียหายต่อเส้นประสาทสองเส้นหรือมากกว่าในบริเวณต่างๆของร่างกายเรียกว่า Multiple mononeuropathy 

ในกรณีส่วนใหญ่มีความเสียหายต่อเส้นประสาทจำนวนมากซึ่งเรียกว่า polyneuropathy

หัวข้อด้านล่างนี้จะกล่าวถึงโรคระบบประสาทประเภทต่างๆและอธิบายว่าส่วนใดของร่างกายที่มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบ

โรคปลายประสาทอักเสบ (Peripheral neuropathy)

 เป็นความเสียหายของเส้นประสาทชนิดหนึ่งที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนปลาย  ระบบประสาทส่วนปลายมีการรับ-ส่งกระแสประสาทไปยังระบบประสาทส่วนกลาง และส่วนต่างๆของร่างกาย

โรคปลายประสาทอักเสบอาจส่งผลต่อส่วนปลายของร่างกายรวมทั้ง

  • เท้า
  • ขา
  • แขน
  • มือ

โรคระบบประสาทอัตโนมัติ (Autonomic neuropathy )

ระบบประสาทอัตโนมัติมีผลต่อเส้นประสาทที่ควบคุมอวัยวะภายในและควบคุมการทำงานที่จำเป็น เช่น การหายใจและการย่อยอาหาร

โรคระบบประสาทอัตโนมัติอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆที่อาจส่งผลต่อ หัวใจ ความดันโลหิต และระบบย่อยอาหาร

โรคเส้นประสาทอักเสบ (Focal neuropathy)

 มักมีความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลไปยังเส้นประสาทเส้นเดียวภายในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของร่างกายต่อไปนี้:

  • ศีรษะ
  • มือ
  • ลำตัว
  • ขา

เส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ (Bell’s palsy) เป็นโรคทางระบบประสาทชนิดหนึ่ง ภาวะนี้ทำให้เกิดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อใบหน้าอย่างกะทันหันหรือเป็นผื่นแดงที่ด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า 

โรคเส้นประสาทอักเสบยังสามารถทำให้เกิดการมองเห็นภาพซ้อนและกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเจ็บปวดที่ด้านหน้าของต้นขาหรือบริเวณอื่นๆของร่างกาย

โรคปลายประสาทอักเสบส่วนต้น (Proximal neuropathy)

 เส้นประสาทอักเสบที่หายาก คือ โรคเส้นประสาทอักเสบส่วนต้น ความเสียหายของเส้นประสาทประเภทนี้มักเกิดขึ้นที่ด้านใดด้านหนึ่งของร่างกายและอาจส่งผลต่อสะโพก ก้นกบ หรือต้นขา

โรคเส้นประสาทอักเสบส่วนต้นอาจทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวลำบาก รวมทั้งน้ำหนัก และมวลกล้ามเนื้อลดลง

โรคปลายประสาทอักเสบจากเบาหวาน (Diabetic neuropathy)

โรคเบาหวานทำให้น้ำตาลในเลือดสูงในร่างกาย เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งนี้สามารถทำลายหลอดเลือดที่ส่งออกซิเจนและสารอาหารที่สำคัญไปยังเส้นประสาทได้

การลดลงของออกซิเจนและสารอาหารทำให้เส้นประสาททำงานผิดปกติ

โรคปลายประสาทอักเสบจากเบาหวานอาจรวมถึงโรคปลายประสาทอักเสบข้างต้น แต่ถึงร้อยละ 50 ของผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีโรคระบบประสาทส่วนปลายเสื่อม

เส้นประสาทอักเสบจากการกดทับ (Compression mononeuropathy)

หมายถึงความเสียหายจากการบาดเจ็บของเส้นประสาทเส้นเดียวหรือจากการกดทับ การหดตัวของหลอดเลือดสามารถลดการไหลเวียนของเลือดไปยังเส้นประสาทซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาทได้ 

การบาดเจ็บหรือการอักเสบซ้ำๆ อาจทำให้เกิดการกดทับของเส้นประสาทที่สามารถส่งผ่านความรู้สึกไปยังข้อต่อหรือต้นขาเข้าสู่ทั่วร่างกายได้ 

เส้นประสาทอักเสบจากการกดทับที่ข้อมือ ( Carpal tunnel syndrome ) ซึ่งหมายถึงการที่เส้นประสาทที่ข้อมือถูกกดทับ เป็นตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุด 

เส้นประสาทอักเสบจากการกดทับที่ข้อมืออาจรู้สึกเสียวซ่า ชา หรือบวมที่นิ้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้มือหรือนอนหลับตอนกลางคืน

Neuropathic

อาการปวดหลอน (Phantom limb syndrome)

อาการปวดหลอนเป็นอาการปวดเส้นประสาทชนิดหนึ่ง อาจรู้สึกผิดปกติหรือเจ็บปวดในส่วนของแขนหรือขาที่หายไปแล้ว ความเจ็บปวดอาจแสบร้อนทิ่มแทงหรือเหมือนถูกยิง

เกือบร้อยละ 80 ของผู้ที่ได้รับการตัดแขนขาจะมีอาการปวดหลอน สัญญาณผสมระหว่างสมองและไขสันหลังอาจเป็นสาเหตุของอาการ

อาการมักจะลดลงใน 6 เดือนหลังการผ่าตัด แต่สามารถมีอาการต่อไปได้เป็นปี 

โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า (Trigeminal neuralgia)

การถูกกดทับของเส้นประสาทหรือความเสียหายของเส้นประสาทใบหน้าคู่ที่ 5 อาจทำให้เกิดโรคปวดเส้นประสาทใบหน้า โรคหลอดเลือด โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง  และการผ่าตัดดึงใบหน้า ล้วนทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทใบหน้าคู่ที่ 5 

โรคปวดเส้นประสาทประเภทนี้อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ใบหน้า กิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การแปรงฟัน และการล้างหน้า อาจทำให้เกิดอาการปวดมากขึ้นได้

อาการปวดหลังเป็นงูสวัด ( Postherpetic neuralgia ) 

เป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคงูสวัด อาจส่งผลต่อบริเวณต่างๆของร่างกายที่มีผื่นงูสวัด

ประมาณ ร้อยละ 10–18 ของผู้ที่เป็นโรคงูสวัดจะมีอาการและผู้สูงอายุที่เป็นโรคงูสวัดมีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้น

โรคปวดเส้นประสาทจากการกดทับของกระดูกสันหลังช่วงทรวงอก และช่วงเอว  (Thoracic or lumbar radiculopathy)

การกดทับเส้นประสาทของกระดูกสันหลังส่วนทรวงอก (Thoracic ) หรือ เอว (lumbar ) เป็นชนิดของเส้นประสาทอักเสบแบบเส้นเดียว (mononeuropathy ) ที่มีผลต่อหน้าอกหรือผนังหน้าท้องข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง 

ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคระบบประสาทชนิดนี้ พวกเขามักจะฟื้นตัวตามกาลเวลา

อาการปวดเส้นประสาท

บางอย่างของอาการปวดตามเส้นประสาทอาจรวมถึง

  • อาการปวดอย่างรุนแรง ซึ่งอาจรู้สึกเหมือนถูกกระแทก สั่นสะเทือน หรือแสบร้อน
  • ความรู้สึกเหมือนไฟฟ้าดูด
  • ชา
  • รู้สึกเสียวซ่าหรือถูกเข็มทิ่ม
  • ความรู้สึกในการรับรู้ลดลง เช่น ความรู้สึกในการรับรู้อุณหภูมิ
  • ผิวหนังเป็นจุดๆ หรือสีแดง
  • คัน
  • การเปลี่ยนแปลงของความเจ็บปวดที่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

อาการปวดตามระบบประสาทอาจทำให้คนมีความไวต่อการสัมผัสมากขึ้น ตัวอย่างเช่น คนอาจพบว่าแรงกดหรือการเสียดสีจากเสื้อผ้าที่นุ่มนวล ทำให้เกิดความเจ็บปวดได้

อาการปวดเรื้อรังอาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ผลข้างเคียงบางประการของอาการปวดเส้นประสาทอาจรวมถึง:

การรักษาปวดเส้นประสาท

อาการของโรคปวดเส้นประสาทหรือเส้นประสาทอักเสบบางอย่างจะบรรเทาลงเมื่อเวลาผ่านไป การรักษาหรือการจัดการสาเหตุของอาการปวด อาจช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นประสาทได้

ผู้ที่มีอาการปวดเส้นประสาทเรื้อรังอาจต้องได้รับการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดหรือลดอาการที่อาจจะตามมา 

การใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์  (nonsteroidal anti-inflammatory drugs) มักไม่ได้ผลในการบรรเทาอาการปวดเส้นประสาท

ยาอื่นๆที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดเส้นประสาท ได้แก่

  • ยากันชัก
  • ยาต้านอาการซึมเศร้า
  • กัญชา 
  • เจลพริก (capsaicin cream)
  • แผ่นยาชาเฉพาะที่ (lidocaine patch)
  • การฉีดยาชาเข้าเส้นประสาท การฉีดยาชาเฉพาะที่ หรือการฉีดยาเตียรอยด์เฉพาะที่ 

แพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นเส้นประสาททางผิวหนัง (transcutaneous electrical nerve stimulation หรือ TENS) เครื่องนี้จะส่งแรงกระตุ้นไฟฟ้าขนาดเล็กไปยังบริเวณที่ปวด ผ่านอิเล็กโทรดที่ติดอยู่กับผิวหนัง 

แรงกระตุ้นอาจกระตุ้นเส้นประสาทที่เฉพาะเจาะจง และปิดกั้นสัญญาณความเจ็บปวด วิธีนี้สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและบรรเทาอาการเจ็บปวดได้

หากเครื่องใช้ไม่ได้ผล อาจมีคนอยากลองการกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้าทางผิวหนังในแบบ Percutaneous electrical nerve stimulation (PENS) PENS ทำงานในลักษณะเดียวกันกับ TENS แต่ผู้เชี่ยวชาญจะใช้เข็มเพื่อวางอิเล็กโทรดไว้ใต้ผิวหนังแทนที่จะใช้ด้านบนผิวหนัง

บางคนพบว่าการฝังเข็ม ช่วยบรรเทาอาการปวดตามระบบประสาทได้บ้าง วิธีนี้อาจช่วยกระตุ้นระบบประสาทและกระตุ้นการตอบสนองในการบรรเทาความเจ็บปวด

การผ่าตัดยังสามารถช่วยบรรเทาความรุนแรงของการปวดเส้นประสาทบางประเภทได้ เช่น เส้นประสาทอักเสบจากการกดทับ 

สรุป

ความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่เส้นประสาทอาจทำให้เกิดอาการปวดตามระบบประสาท อาการมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง 

ผู้ป่วยอาจมีอาการแสบร้อนหรือปวด รู้สึกเสียวซ่า ชา หรือสูญเสียความรู้สึกบางอย่าง

ทางเลือกในการรักษา ได้แก่ การให้ยาบรรเทาอาการปวด การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าหรือในบางกรณีอาจต้องผ่าตัด

อาการปวดตามเส้นประสาทบางประเภท อาจบรรเทาลงหรือหายไปเมื่อเวลาผ่านไป ในขณะที่ประเภทอื่นๆจะต้องมีการจัดการความเจ็บปวดในระยะยาว

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

Комментарии (0)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *