Promethazine คือยาอะไร
ยาโปรเมทาซีน (Promethazine) เป็นยายับยั้งฮีสตามีน (Antihistamine) ประเภทฟีโนไทอามีซีน กลไกการออกฤทธิ์ต่อสมองบางส่วนโดยตรง ใช้รักษาอาการแพ้รุนแรงและเฉียบพลัน ช่วยป้องกันและรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนจากการผ่าตัด บรรเทาอาการเมารถหรือเมาเรือ บรรเทาอาการป่วยจากการเคลื่อนไหว ช่วยบรรเทาอาการปวดจากฤทธิ์ของยาบางชนิดหรือสารเคมีชนิดอื่นๆ และช่วยให้ยาแก้ปวดชนิดเสพติดบางชนิดออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
รูปแบบยา Promethazine
- ยาสำหรับฉีด เพื่อบรรเทาอาการแพ้ที่รุนแรงไม่มาก
- ยาแบบน้ำเชื่อม ซึ่งประกอบด้วยยา Promethazine ปริมาณ 3.6 mg. ต่อยา 5 ml.
ปริมาณการใช้ยา Promethazine
ในส่วนของยารับประทาน สำหรับผู้ใหญ่ให้รับประทานก่อนนอนปริมาณ 25 mg หรือแบ่งรับประทานครั้งละ 12.5 mg ก่อนอาหารเช้าและก่อนนอน และปริมาณการใช้ยาในเด็กคือ 25 mg หรือแบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 6.25 – 12.5 mg และในส่วนของยาฉีด ปริมาณของยาจะขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนัก และการตอบสนองของการใช้ยา โดยจะฉีดทุกๆ 4 ชั่วโมง และอาจจำเป็นต้องฉีดยาซ้ำในผู้ป่วยที่อาการรุนแรง ซึ่งการฉีดยาจะฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อ โดยฉีดเข้าหลอดเลือดดำใหญ่อย่างช้าๆ ไม่ควรฉีดที่มือหรือข้อมือ ห้ามฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังหรือเข้าในหลอดเลือดแดง และต้องตรวจสอบยาก่อนฉีดเสมอ เนื่องจากไม่ควรใช้ยาที่มีฝุ่นละอองหรือเปลี่ยนสี
ผลข้างเคียงของการใช้ยา Promethazine
ผลข้างเคียงทั่วไป
- ปากแห้ง คอแห้ง
- ท้องผูก
- มีปัญหาการมอง มองไม่ชัด
- วิงเวียน ง่วงซึม นอนไม่หลับ รู้สึกพักผ่อนน้อย
- สับสน สั่น ตื่นตัว วิตกกังวล
- รู้สึกหายใจขัด จมูกอุดตัน ได้ยินเสียงในหู มีเสียงอื้อในหู
- มีผื่นขึ้น ตาและผิวมีสีเหลือง
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
- มีอากรบวมที่มือที่เท้า
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ผลข้างเคียงที่รุนแรง
- มีอาการแพ้รุนแรง มีลมพิษ หายใจติดขัด มีการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
- ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของใบหน้า ดวงตา ริมฝีปาก ลิ้น แขน หรือขา
- ไม่สามารถทรงตัวหรือเดินได้ตามปกติ
- ผิวซีดหรือผิวเหลือง สีผิวหยาบกร้าน มีภาวะดีซ่าน มีรอยช้ำหรือเลือดออก
- มองเห็นภาพหลอน ร้อนรน
- มีอาการสั่น น้ำลายไหล กลืนลำบาก
- รู้สึกกระสับกระส่าย วิตกกังวลอย่างรุนแรง ร้อนรน สับสน
- มีไข้สูง เหงื่อออก กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง หายใจเร็วและถี่
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้า ชีพจรอ่อน หมดสติ หายใจช้าหรืออาจหยุดหายใจ
- เจ็บคอ มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
- รู้สึกวิงเวียนเหมือนจะหมดสติ
- มีอาการชักเกร็ง มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหน้าอก
- การมองเห็นในตอนกลางคืนลดลง และมีปฏิกิริยาไวต่อแสงมากขึ้น
- คลื่นไส้ ปวดกระเพาะ
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ หรือไม่ปวดปัสสาวะ
- มีอาการปวดหรือบวมที่ข้อต่อ
- อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสง
ข้อควรระวังของการใช้ยา Promethazine
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง
- ไม่ควรใช้ยาในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
- ไม่ควรใช้ยาในเด็กที่อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ
- ไม่ควรใช้ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของ Promethazine และ Codeine ในเด็กที่อายุน้อยกว่า 16 ปี
- ถ้ามีโรคหอบหืด นอนกรน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังใช้ยารักษาความวิตกกังวล ยาแก้ปวด
ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาระงับประสาทหรือยากดประสาท
- ควรหยุดใช้ยาทันทีหากมีอาการหายใจลำบาก หายใจเสียงดังหวีด หรือหยุดหายใจ
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากเป็นโรคหอบหืด ความดันสูง
- ไม่ควรใช้ยาขณะกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ระหว่างใช้ยาไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอออล์
- ไม่ควรขับรถหรือทำงานใกล้เครื่องจักร เพราะผลข้างเคียงของยาทำให้ง่วงนอน อาจเกิดอันตรายได้
การเก็บรักษายา Promethazine
ยา Promethazine ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส ควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ไม่ควรให้ยาถูกแสงแดดส่อบถึงหรือที่ที่มีความชื้น ไม่ควรเก็บยาในห้องน้ำที่เปียกชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ควรอ่านฉลากยาให้ชัดเจนเพราะยาแต่ละชนิดอาจมีการเก็บรักษาที่ต่างกัน ไม่ควรใช้ยาที่หมดอายุ ควรทิ้งทันที แต่ไม่ควรทิ้งลงในชักโครกหรือท่อระบายน้ำ และควรเก็บยาไว้ในภาชนะบรรจุเดิม และควรปิดให้สนิท หากยามีละอองฝุ่นหรือเปลี่ยนสีควรทิ้งทันทีด้วยวิธีที่ถูกต้อง
คำเตือนในการใช้ยา Promethazine
ไม่ควรรับประทานยา Promethazine ร่วมกับยาต้านซึมเศร้า ยานอนหลับ และยาคลายเครียด ยารักษาภูมิแพ้ ยากดประสาท ยาแก้ปวดกลุ่ม Narcotics And Other Pain Medication เพราะอาจมีผลข้างเคียงของยาใช้ยาร่วมกันต่อระบบประสาท เช่น ง่วงซึม มึนงง สับสน คอเอียง ตากระตุกขึ้นลง ลิ้นจุกปาก เสียงดังในหู หูอื้อ มือสั่น ตัวสั่น เห็นภาพหลอนหรือภาพซ้อน
หากใช้ยา Promethazine เกินขนาด ต้องทำอย่างไร
หากได้รับยาเกินขนาดควรทำอย่างไร
หากได้รับยาเกินขนาดแนะนำให้ ล้างท้อง และให้รับประทานผงถ่านหรือยาระบาย
เพื่อลดอาการจากการรับประทานยาเกินขนาดทั้งอาการทั้งระบบประสาท และหัวใจ อาการซึม หากมีภาวะความดันโลหิตต่ำควรให้น้ำเกลือและให้พักผ่อนในท่านอน หากความดันยังต่ำอยู่ควรให้ยาเพิ่มความดันโลหิต เช่น Norepinephrine หรือ Phenylephrine แต่ไม่ควรให้ยา EPINEPHRINE เพราะมีผลทำให้ความดันโลหิตต่ำ
ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญในด้านสมุนไพรไทยเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันเป็นผู้เขียนหลักของ Club of Thai Health มีงานอดิเรก คือการปลูกสมุนไพรไทย และเพาะพันธุ์พืชหายาก